ชัวร์ก่อนแชร์: ฝุ่น PM จากไฟป่าไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ จริงหรือ?

03 สิงหาคม 2566
แปลและเรียบเรียงบทความโดย: อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


บทสรุป :

ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญและงานวิจัยจำนวนมากยืนยันว่าฝุ่น PM 2.5 มีความสัมพันธ์ต่อการป่วยและเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ


ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเผยแพร่ทางโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อ สตีเวน มิลลอย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (USEPA) ในคณะทำงานช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลของ โดนัล ทรัมป์ ให้ความเห็นผ่านรายการสถานีโทรทัศน์ Fox News ว่า ชาวอเมริกันไม่จำเป็นต้องกลับมาสวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง เพราะฝุ่นควันที่ลอยมาจากไฟป่าในประเทศแคนาดาไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากควันจากไฟป่าเป็นของที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ พร้อมอ้างว่าฝุ่น PM เพิ่งเริ่มเป็นที่สนใจของสาธารณชนหลัง EPA เปิดประเด็นในช่วงทศวรรษ 1990’s เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่มีหลักฐานว่ามีใครเคยได้รับผลกระทบทางสุขภาพจากฝุ่น PM การวิจัยของ EPA ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าฝุ่น PM ส่งผลต่อสุขภาพของมนุษย์อย่างชัดเจน การอ้างเรื่องอันตรายจากฝุ่น PM จึงเป็นวิทยาศาสตร์ปลอม (Junk Science)

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


ฝุ่น PM หรือ Particulate Matter คือละอองขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศ รวมถึงควันที่เกิดจากไฟป่า

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (CDC) ระบุว่า ฝุ่น PM 10 ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า 10 ไมโครมิเตอร์ หากสูดเข้าไปแล้วอาจทำให้ตา จมูก และลำคอเกิดอาการระคายเคือง ส่วนฝุ่น PM 2.5 ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลางเล็กกว่า 2.5 ไมโครมิเตอร์ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่า โดยสามารถแทรกซึมเข้าไปอยู่ในส่วนลึกของปอดและสามารถเข้าไปอยู่ในกระแสโลหิตอีกด้วย

ฝุ่น PM มีความเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ทั้งอาการหัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ กระตุ้นโรคหอบหืด ทำให้การทำงานของปอดแย่ลง และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร

สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (USEPA) ย้ำว่า ฝุ่น PM มีความเชื่อมโยงกับการเกิดโรคมะเร็งปอดและความพิการแต่กำเนิดของทารก ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและปอด คือกลุ่มที่มีความเสี่ยงจากฝุ่น PM มากที่สุด

โฆษกของ EPA ชี้แจงต่อ PolitiFact ว่า ความเสี่ยงต่อสุขภาพจากการสูดดมฝุ่น PM ที่อยู่ในควัน ได้รับการยืนยันจากงานวิจัยระดับ peer-reviewed หลายพันชิ้น

ฝุ่น PM ยังเป็น 1 ใน 6 มลพิษทางอากาศ ที่สหรัฐอเมริกาเริ่มควบคุมไม่ให้เกินค่ามาตรฐานมาตั้งแต่ปี 1970 ตามพ.ร.บ. อากาศสะอาด (Clean Air Act) ของสหรัฐอเมริกา (PM2.5 และ PM10, คาร์บอนมอนอกไซด์, ซัลเฟอร์ไดออกไซด์, ไนโตรเจนไดออกไซด์, สารตะกั่ว และโอโซนระดับพื้นดิน)

โดย USEPA คือหน่วยงานที่รับผิดชอบการกำหนดค่ามาตรฐานของมลพิษทางอากาศ และมีการทบทวนค่ามาตรฐานทุก ๆ 5 ปี

สตีฟ มิลลอย วิจารณ์การกำหนดค่ามาตรฐานของมลพิษทางอากาศโดย EPA เนื่องจากงานวิจัยเชิงและระบาดวิทยา (Epidemiological Studies) และ การทดลองในอาสาสมัครสุขภาพดี (Controlled Human Exposure Studies) หลายชิ้น ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างฝุ่น PM กับปัญหาสุขภาพหรือการเสียชีวิตที่ชัดเจน

นอกจากนี้ สมาชิกบางรายของ Clean Air Scientific Advisory Committee หน่วยงานกลางที่ให้คำปรึกษาแก่ EPA ก็มีความกังวลต่อแนวทางที่ EPA ใช้กำหนดค่ามาตรฐานมลพิษทางอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพประชาชน

อย่างไรก็ดี ดันแคน โทมัส ศาสตราจารย์กิตติคุณ ภาควิชาประชากรและวิทยาศาสตร์สาธารณสุข มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของ Clean Air Scientific Advisory Committee ให้ความเห็นว่า การวิจัยโดยการสังเกต การทดลองในอาสาสมัครสุขภาพดี รวมถึงการทดลองในสัตว์ในปัจจุบัน เพียงพอจะยืนยันได้ว่า มลพิษทางอากาศส่งผลต่อสุขภาพจริง พร้อมย้ำว่า ผู้กำหนดนโยบายด้านสาธารณสุข ไม่มีความจำเป็นต้องรอการกำหนดนโยบายสาธารณสุขจนกว่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนจนไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ การกำหนดนโยบายที่ล่าช้าเพราะมัวแต่รอคอยหลักฐานที่สมบูรณ์แบบ ถือเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ และเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน

ไมเคิล ไคลน์แมนน์ ศาสตราจารย์ภาควิชาพิษวิทยาสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์วิน ยืนยันว่า มีงานวิจัยจำนวนมากที่ยืนยันได้ว่าฝุ่น PM 2.5 มีความสัมพันธ์ต่อการป่วยและเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ สอดคล้องกับงานวิจัยของ EPA ที่ใช้กำหนดค่ามาตรฐานของมลพิษทางอากาศ

มลพิษทางอากาศในสหรัฐอเมริกาลดลงอย่างมาก
หลังการประกาศใช้พ.ร.บ. อากาศสะอาด (Clean Air Act)

สตีเวน มิลลอย เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักกฎหมาย ล็อบบี้ยิสต์ และคอมเมนเตเตอร์ของสถานีโทรทัศน์ Fox News เป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ JunkScience.com

นอกจากนี้ เขายังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัทน้ำมันและบริษัทยาสูบอีกด้วย

ที่ผ่านมา สตีเวน มิลลอย เป็นที่รู้จักจากแนวคิดต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกและไม่เชื่อในผลกระทบจากควันบุหรี่มือสอง

ในสมัยรัฐบาลของ โดนัล ทรัมป์ ทาง สตีเวน มิลลอย ยังเป็นผู้สนับสนุนให้สำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐอเมริกา (USEPA) ยุบคณะกรรมการพิจารณาปัญหาฝุ่นละออง (Particulate Matter Review Panel) อีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.politifact.com/factchecks/2023/jun/20/steve-milloy/particulate-matter-is-not-junk-science-decades-of/

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทหารกัมพูชาขุด “คูเลต” ลากยาว 650 เมตร

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- เปิดภาพ! “คูเลต” ทหารกัมพูชาขุดลากยาว 650 เมตร จากต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว จุดปะทะทหารไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี หลังพบขุดคูเลต จากจุดต้นสัตบรรณถึงสามแยกลาว ระยะทาง 650 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา เพราะเป็นการละเมิด MOU 2543 เป็นครั้งที่ 2 แต่ทางทหารกัมพูชากับยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน โดยช่วงนี้อยู่ระหว่างการเจรจาของผู้นำในพื้นที่ทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายทหารไทยยืนยันว่าให้ทหารกัมพูชา ออกจากพื้นที่อ้างสิทธิพร้อมกัน-313 .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ

อุบลราชธานี 28 พ.ค.- มทภ.2 ย้ำกัมพูชาต้องยึด MOU 43 หลังละเมิดขุดคูเลต 2 รอบ ทหารไทยเข้าเจรจากลับยิงสวน ลั่นปกป้องอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 เต็มที่ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึง เหตุปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กำลังพลของกองกำลังสุรนารีได้ลาดตระเวนและพบว่า ทหารกัมพูชาขุดคูเลต เช่นเดียวกับเนิน 745 ช่องบก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยก่อนจะเกิดเหตุปะทะกัน ทหารไทยได้เข้าไปเจรจา แต่ทางกัมพูชา ยิงสวนออกมา จึงเกิดการปะทะกัน อย่างที่เป็นข่าว สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อจากนี้ ผู้บังคับบัญชาในระดับพื้นที่กำลังพูดคุยเจรจา “ยืนยันว่าทหารไทยทำหน้าที่รักษาอธิปไตยตามแผนที่ 1:50,000 ซึ่งในพื้นที่ทับซ้อนของทั้ง 2 ประเทศ จะมีการออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายล้ำเข้ามา ซึ่งทุกฝ่ายต้องยึดตาม MOU 2543”.-313.-สำนักข่าวไทย

ปะทะทหารกัมพูชา

ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณช่องบก คลี่คลายแล้ว

กองทัพบก 28 พ.ค.-ทบ.แจงเหตุปะทะทหารกัมพูชาบริเวณชายแดนช่องบก จ.อุบลราชธานี ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว อยู่ระหว่างรอการเจรจา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา โดยระบุว่าได้รับรายงานจาก กองกำลังสุรนารีเกี่ยวกับเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 เวลา 05.30 น. โดย หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ได้รับการรายงานว่ามีทหารกัมพูชาเข้ามาวางกำลังในพื้นที่อ้างสิทธิ์ ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อตกลง ฝ่ายไทยจึงจัดชุดประสานงานเพื่อเข้าพูดคุยเจรจาตามแนวทางการปฏิบัติที่เคยกระทำมา เมื่อถึงบริเวณดังกล่าว กำลังส่วนระวังเหตุของทหารกัมพูชา ได้เข้าใจผิด และเริ่มใช้อาวุธ ฝ่ายไทยจึงใช้อาวุธตอบโต้กลับไป โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ต่อมาเวลา 05.55 น. พลตรี ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา ได้โทรศัพท์ประสานงานกับ พันเอก บุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายยุติ โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงหยุดยิงและตรึงกำลังบริเวณจุดปะทะ ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคี เพื่อจัดการกรณีอ้างสิทธิในพื้นที่ และกำหนดแนวทางร่วมกันในการปฏิบัติอย่างสันติ ตามข้อตกลงที่มีอยู่ […]

มติเอกฉันท์ สภาอนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล”

รัฐสภา 28 พ.ค.- สภาเอกฉันท์อนุมัติ “พ.ร.ก.ไซเบอร์-สินทรัพย์ดิจิทัล” ให้ธนาคารร่วมชดใช้ค่าเสียหายจาก “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เร่งคืนเงินผู้เสียหาย ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญ วาระการพิจารณาพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ ซึ่งแบ่งเวลาในการอภิปรายฝ่ายละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง และจะเป็นการรวมพิจารณา และแยกลงมติทีละฉบับ โดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เสนอหลักการว่า เนื่องจากปัจจุบัน มี พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ยังมีมาตรการบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่เพียงพอ กับรูปแบบอาชญากรรม กลุ่มมิจฉาชีพ จึงต้องแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย เช่น การเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหาย, การอาญัติบัญชีม้า, การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และมาตรการการโอนเงินผิดกฎหมาย ผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล จากนั้น ได้เปิดโอกาสให้ สส.อภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายจุติ […]

ข่าวแนะนำ

“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ ข่าว สส.ดังนครศรีฯ ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา

กทม. 30 พ.ค.-“ชัยชนะ” บอกไม่ทราบ-ไม่รู้ ข่าว สส.ดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมากลางงานบวช ยืนยันไม่เป็นความจริง นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าว สส.ชื่อดัง จ.นครศรีธรรมราช ยกพวกรุมทำร้ายผู้รับเหมา กลางงานบวชลูกชายของนายก อบต. ต่อหน้าชาวบ้านนับร้อยคน โดยนายชัยชนะ ได้ปฏิเสธข่าวบอก ไม่รู้ ไม่ทราบข่าว พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อถามว่า เป็นคนรู้จัก หรือคนใกล้ชิดหรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนไม่ทราบเหมือนกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบข่าวเลย ก่อนย้ำอีกครั้งว่า ต้องไปถามที่มาของข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริงใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ตอบว่า “ครับผม” เมื่อถามว่า ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่เลยใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ระบุว่า ตนลงพื้นที่วันละหลายงาน และเมื่อถามทิ้งท้ายว่า ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทใช่หรือไม่ นายชัยชนะ ยืนยันว่า “ไม่มี“.-315.-สำนักข่าวไทย

ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้มาตรการภาษี ‘ทรัมป์’ ยังบังคับใช้

วอชิงตัน 30 พ.ค. – ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางมีคำสั่งในวันพฤหัสบดี ให้มาตรการภาษีตอบโต้ที่ครอบคลุมมากที่สุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมามีผลบังคับใช้อีกครั้งเป็นการชั่วคราว เพียงหนึ่งวันหลังจากที่ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ ตัดสินว่านายทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตในการเรียกเก็บภาษีเหล่านั้นและสั่งให้ระงับมาตรการภาษีดังกล่าวทันที ศาลอุทธรณ์กลางแห่งสหรัฐอเมริกา ประจำเขตวอชิงตัน ระบุว่ากำลังระงับคำตัดสินของศาลชั้นต้นไว้ชั่วคราว เพื่อพิจารณาคำอุทธรณ์ของรัฐบาล และมีคำสั่งให้ฝ่ายโจทก์ที่ยื่นฟ้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีในคดีนี้ยื่นเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 5 มิถุนายน และให้ฝ่ายรัฐบาล ซึ่งเป็นฝ่ายที่ถูกฟ้องร้องหรือเป็นผู้กำหนดภาษี ให้ส่งเอกสารตอบกลับภายในวันที่ 9 มิถุนายน นายทรัมป์เขียนแถลงการณ์ที่เผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ว่า เขาหวังว่าศาลฎีกาของสหรัฐจะ ‘กลับคำตัดสินอันเลวร้ายที่คุกคามประเทศ’ ของศาลการค้าระหว่างประเทศ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายตุลาการของรัฐบาลว่า ‘เป็นปฏิปักษ์ต่ออเมริกา’ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา คณะผู้พิพากษา 3 คนของศาลการค้าระหว่างประเทศ ตัดสินว่ารัฐธรรมนูญให้อำนาจแก่รัฐสภา ไม่ใช่ประธานาธิบดี ในการเรียกเก็บภาษีและอากรศุลกากร และประธานาธิบดีได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตโดยการอ้างใช้กฎหมายว่าด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (International Emergency Economic Powers Act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่มุ่งหมายเพื่อรับมือกับภัยคุกคามในสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ.-813.-สำนักข่าวไทย

จับแล้ว “เกม” มือยิงยัดถังถ่วงอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ

นครสวรรค์ 29 พ.ค. – เมื่อสัปดาห์ก่อน เกิดเหตุสะเทือนขวัญ พบศพถูกยัดใส่ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร โยนทิ้งในอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ จ.นครสวรรค์ วันนี้จับผู้ต้องหาได้แล้ว จากเหตุสยองอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ เมื่อมีผู้พบศพชายปริศนา ถูกยัดอยู่ภายในถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ลอยอยู่ใกล้กับตลิ่ง เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ตำรวจ สภ.ตะคร้อ ต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อหาคำตอบให้กับเหตุการณ์อันโหดเหี้ยมนี้ เบื้องต้นสามารถยืนยันได้ว่าชายดังกล่าวเสียชีวิตมาแล้ว 3-5 วัน และมีร่องรอยถูกยิงด้วยปืนลูกซอง จากการตรวจสอบในถังพลาสติกยังพบก้อนหินขนาดใหญ่ ถุงปุ๋ย และกระเป๋าสะพายข้าง ไปจนถึงโทรศัพท์มือถือ ทำให้สามารถค้นหาและทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายจุฑาเพชร หรืออ้วน อายุ 44 ปี ที่รับจ้างทำไร่ในพื้นที่ อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี จากการสืบสวนและแกะรอยจากกล้องวงจรปิดมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้พบว่านายปารวี หรือเกม อายุ 35 ปี เป็นผู้ก่อเหตุ เมื่อตรวจสอบรถกระบะและห้างนาของนายเกม ยิ่งพบหลักฐานสำคัญที่ยืนยันได้ว่านายเกมคือคนร้าย […]

ตั้ง 2 ประเด็น เหตุบุกยิง ครู-อส. งานแข่งตะกร้อ

นราธิวาส 29 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานเหตุคนร้ายยิงถล่ม สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส คาดผู้ก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ด้านภรรยาตำรวจที่เสียชีวิต ร่ำไห้ทำใจไม่ได้ ส่วนเหตุบุกยิง ครู-อส. กลางงานแข่งตะกร้อ จนท.ตั้ง 2 ปมก่อเหตุ “ปัญหาส่วนตัว-ความมั่นคง” จากเหตุคนร้ายลอบยิงตำรวจขณะเข้าแถวเคารพธงชาติ ที่สถานีตำรวจภูธรจะแนะ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส และยิงใส่ป้อมรักษาการประตู กระทั่งเกิดการยิงตอบโต้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงประมาณ 15 นาที จนกลุ่มผู้ก่อเหตุหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ ส.ต.อ.อับดุลเลาะ มะกาเซ็ง อายุ 30 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และสิบตำรวจเอก เจษฎา พรหมรัตน์ อายุ 33 ปี บาดเจ็บสาหัส เมื่อวานนี้ (28 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านตำรวจที่เสียชีวิต เป็นสถานที่จัดงานให้ชาวบ้านมาร่วมทำบุญและแสดงความเสียใจกับครอบครัว หลังนำร่าง ส.ต.อ.อับดุลเลาะ ประกอบพิธีฝังศพที่กูโบร์บ้านบาเร๊ะบาโร๊ะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 พ.ค.) นางสาวนุชฮูดา […]