ชัวร์ก่อนแฉ : 5 ดาราถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง สุดท้ายหลอกเอาเงิน!

วันนี้ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท จะพาไปพบกับ 5 ดาราที่ถูกมิจฉาชีพนำรูปและข้อมูลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อหลอกลวงผู้บริโภคให้ซื้อสินค้าหรือหลอกให้ร่วมลงทุน ซึ่งทุกคนได้ออกมาเล่าผ่าน Scoop “ชัวร์ก่อนแฉ” ช่วงที่จะพาดารามาแชร์ประสบการณ์ข่าวปลอมของตนเอง เรามาดูกันว่ามีใครบ้างที่ตกเป็นเหยื่อของอาชญากรไซเบอร์


1. บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี กับการถูกแอบอ้างชื่อและปลอมแปลงเฟซบุ๊กเพื่อหลอกให้ร่วมลงทุนและหลอกโอนเงิน


โดยมิจฉาชีพได้สร้างเฟซบุ๊กปลอม แนบเลขบัญชีของตนเองเข้าไปแทนที่เลขบัญชีของมูลนิธิ ก่อนแอบอ้างให้ร่วมลงทุนและนำเงินหนีไป

เจ้าตัวกล่าวว่าตนเองทำมูลนิธิ หากถูกนำชื่อไปใช้และเปลี่ยนแปลงเลขบัญชีให้เป็นของมิจฉาชีพก็อาจถูกหลอกได้ง่าย ๆ และตามจับตัวผู้กระทำผิดได้ยาก แต่ถือเป็นโชคดีที่ในยุคปัจจุบันดาราและศิลปินมีช่องทางโซเชียลมีเดียส่วนตัว จึงสามารถชี้แจงผ่านด้วยตนเองได้

ทั้งนี้ยังเตือนสติผู้ที่คิดจะสร้างข่าวปลอมว่าหากใครคิดจะเลียนแบบผู้อื่นเพื่อหลอกลวงเอาเงิน อาศัยข่าวปลอมของคนดังมาสร้างประโยชน์ให้ตนเอง “คุกมีจริง” และไม่สามารถอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ภายใต้กฎหมาย แค่เริ่มทำก็ผิดแล้ว 

ในส่วนของผู้เสพข่าวเจ้าตัวได้ฝากไว้ว่าหากได้รับข่าวหรือข้อความใด ๆ ควรอ่าน คิด และกลั่นกรองให้ดีก่อนส่งต่อเสมอ




2. เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า ถูกแอบอ้างชื่อเพื่อสร้างเพจเฟซบุ๊กก่อนยิง ads โฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงแฟนคลับให้มาร่วมลงทุน 

โดยคนร้ายอ้างว่าเป็นเพจของเกรซที่เปิดขึ้นเพื่อใช้ทำธุรกิจ ก่อนหลอกลวงให้แฟนคลับมาร่วมลงทุนและจะได้ผลตอบแทนตามจำนวนเงินที่ลงทุนไป ซึ่งในช่วงแรกมีผู้ได้รับผลตอบแทนจริง ทำให้เกิดการแชร์ต่อเป็นวงกว้าง ก่อนมิจฉาชีพจะเชิดเงินหนีไปเป็นมูลค่ารวมหลายล้านบาท

จนมีคนร้องเรียนไปยังดารารุ่นพี่ บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เจ้าตัวจึงได้ทราบเรื่องและแจ้งปิดเพจดังกล่าว รวมถึงเร่งดำเนินคดีทันที 

อีกทั้งยังเตือนใจว่าทุกวันนี้เทคโนโลยีก้าวล้ำไปไกล และมีการทำธุรกรรมทางการเงินบนออนไลน์มากขึ้นในชีวิตประจำวัน ดังนั้น จึงอยากให้ทุกคนมีสติ รอบคอบ เช็กให้ชัวร์ก่อนว่าสิ่งนั้นมีจริงและมีต้นตออย่างไรเพื่อใช้เป็นหลักฐานก่อนปักใจเชื่อ



3. แพท ณปภา ตันตระกูล เคยแจ้งความเอาผิดเพจเฟซบุ๊กที่นำรูปของตนเองและลูกชายไปใช้โฆษณาสินค้าโดยไม่ได้รับอนุญาต

โดยเพจร้านค้านั้นได้ขายสินค้าเลียนแบบของเจ้าตัวแต่กลับลดราคาลงถึงครึ่งหนึ่งของราคาจริง อีกทั้งยังนำรูปของตนเองและลูกชายไปใช้ในการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต นับเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อแจ้งความดำเนินคดีเจ้าของกลับปิดเพจหนีหายวับไปกับตา 

เจ้าตัวจึงได้ออกมาเตือนว่าปัจจุบันโซเชียลมีเดียนั้นรวดเร็วมาก จึงอยากให้รู้ว่าก่อนแชร์อะไรออกไปต้องเช็กให้ดีก่อน รวมไปถึงคำพูดที่ใช้ในโซเชียลด้วย ส่วนผู้ที่กระทำผิดจะต้องได้รับผลของการกระทำนั้น



4. อั๋น ภูวนาท คุนผลิน เคยถูกมิจฉาชีพสร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมและนำรูปของตนเองกับครอบครัวไปใช้ในการโฆษณาประกัน 

โดยเจ้าตัวได้พบว่ามีเพจหนึ่งนำรูปของตนเองและครอบครัว ทั้งภรรยาและลูกน้อยไปตัดต่อใช้บนรูปภาพโฆษณาหลอกขายประกันราวกับว่าเป็นพรีเซ็นเตอร์

เจ้าตัวจึงนำรูปนั้นมาโพสต์บนโซเชียลมีเดียของตนเองเพื่อชี้แจงว่าเป็นเพจปลอม เพื่อป้องกันตนเองและคนรอบข้าง แต่เมื่อกลับเข้าไปดูก็พบว่าเพจนั้นได้หายไปแล้ว โดยไม่ทราบว่าถูกบล็อกหรือเจ้าของปิดเพจหนีไป

จึงใช้โอกาสนี้ออกมาเตือนแก่ผู้เสพข่าวว่า “ต้องเอ๊ะให้บ่อย ตั้งคำถามที่สร้างสรรค์บ่อย ๆ” หากสารนั้นมีที่มาไม่ชัดเจนจะต้องสงสัยเสมอเพื่อนำไปสู่การพิสูจน์ว่าสารนั้นเป็นความจริงหรือไม่ มีสติอยู่เสมอ ลดความเสี่ยงในการเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อข่าวปลอมให้น้อยที่สุด อย่าคิดเพียงว่าหากแชร์ต่อช้าจะไม่ทันข่าวสาร ดูไม่เท่ เพราะถ้าเราพลาดขึ้นมามันไม่เท่อยู่แล้ว



5. ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล ถูกนำรูปไปใช้ในทางมิชอบโดยไม่ได้รับอนุญาต 

โดยเจ้าตัวพบว่ารูปของตนเองนั้นไปปรากฏอยู่บนใบปลิวเชิญชวนให้ใช้บริการทางเพศในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งตรงกับช่วงที่มีการฉายละครที่เจ้าตัวร่วมแสดงในประเทศเกาหลีใต้พอดี ส่งผลให้ผู้คนเกิดความเข้าใจผิด สร้างความเดือดร้อนและผลกระทบต่อจิตใจเป็นอย่างมาก 

เจ้าตัวกล่าวว่าหากปล่อยผ่านอาจจะได้รับผลกระทบหนักกว่านี้ แต่โชคดีที่แฟนคลับไทยที่อาศัยอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้แจ้งให้ทราบและช่วยติดต่อดำเนินคดี สุดท้ายทางร้านก็ได้รับทราบและเลิกใช้ใบปลิวนั้นไป อีกทั้งเจ้าตัวยังเตือนว่าจะทำอะไรให้คิดก่อนทำและตั้งอยู่บนความถูกต้องตามกฎหมาย



จากการถูกแอบอ้างใช้ข้อมูลส่วนตัวของดาราศิลปินหลายท่านทำให้เราได้บทเรียนเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปรวดเร็ว ส่งผลให้เราเข้าถึงข่าวสารได้อย่างหลากหลาย 

ดังนั้น จึงต้องมีสติในการเสพข่าว สงสัยอยู่เสมอ กลั่นกรองข้อเท็จจริงและที่มาอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันการโดนหลอกจากมิจฉาชีพหรือผู้ไม่ประสงค์ดี อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อข่าวปลอมที่สร้างความเดือดร้อนต่อผู้อื่นในทุกด้าน แม้ว่าเราจะไม่ใช่ผู้ที่สร้างข่าวนั้นขึ้นมาก็ตาม 

ทั้งนี้ ยังต้องคิดเสมอว่าเราไม่ต้องรวดเร็วแข่งกับโลกโซเชียล ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ทันกระแส “ช้าแต่ชัวร์” ดีกว่าพลาดไปแล้วแก้ไขไม่ได้


บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนักสืบสายชัวร์ x ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร TRICK or TRUST ภายใต้การสนับสนุนโดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมาก

กทม. 19 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก คลื่นลมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 5 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 19-24 กรกฎาคม 2568) ประเทศไทยจะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากมีดังนี้ วันที่ 19 กรกฎาคม 2568ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานีภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสระบุรีภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราดภาคใต้: จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี […]

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]