ชัวร์ก่อนแฉ : 7 ข่าวปลอมดาราดัง! อุทาหรณ์สอนใจผู้เสพข่าว

วันนี้ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท จะพาไปพบกับ 7 ข่าวปลอมของดาราดังที่สร้างความเสียหายต่อเจ้าตัวและคนรอบข้างอย่างมาก ทั้งผลกระทบด้านอาชีพ ชื่อเสียง และจิตใจ ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดจนต้องออกมาแก้ข่าวกันอย่างเร่งด่วน ซึ่งทุกคนได้ออกมาเล่าผ่าน Scoop “ชัวร์ก่อนแฉ” ช่วงที่จะพาดารามาแชร์เกี่ยวกับประสบการณ์ข่าวปลอมของตนเอง เรามาดูกันว่ามีใครบ้างที่ตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอม



1. บุ๊กโกะ ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล ถูกปล่อยข่าวปลอมว่าขับรถชนคนเสียชีวิต สาเหตุจากตุ๊กตาลูกเทพขัดเบรก 


ในขณะที่กำลังดำเนินการถ่ายงาน ดีเจบุ๊กโกะกลับได้รับสายโทรศัพท์จากผู้เป็นแม่อย่างเป็นห่วง เนื่องจากมีการปล่อยข่าวว่าเจ้าตัวขับรถชนคนเสียชีวิต ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่ตุ๊กตาลูกเทพตกลงไปขัดเบรก สร้างความเข้าใจผิดเป็นวงกว้าง

ตนเองจึงต้องเร่งอธิบายและชี้แจงผ่านอินสตาแกรมว่าไม่ได้ประสบอุบัติเหตุใด ๆ แต่บางครั้งก็ยังมีคนถามเกี่ยวกับคดีความเนื่องจากไม่เห็นคำชี้แจงบนโซเชียลมีเดีย สร้างความเดือดร้อนอย่างยิ่ง 

ทั้งนี้ ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของครอบครัว คนใกล้ชิด และผู้คนรอบข้าง รวมไปถึงอาจจะกระทบต่ออาชีพการงานในอนาคต


เจ้าตัวจึงได้ออกมาเตือนผ่านรายการว่าอยากให้คนสร้างข่าวปลอมตระหนักว่าปัจจุบันมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และกฎหมาย PDPA ที่สามารถฟ้องเอาผิดได้ 

และฝากถึงผู้เสพข่าวว่าต้องใช้วิจารณญาณในการเสพ ไม่อยากให้อ่านพาดหัวข่าวเอาสนุก บางครั้งอาจเป็นการพาดหัวข่าวเพื่อดึงดูดความสนใจและเรียกยอดไลก์ แต่เนื้อหาภายในอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้



2. ตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ ถูกนำข่าวเก่าเกี่ยวกับการแยกทางกับสามีมาใส่สีตีไข่เล่นข่าวใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า 

แม้ว่าจะเลิกรากับสามีเก่าไปเป็นเวลานาน คุณแม่ตุ๊ก ชนกวนันท์ ก็ยังตกเป็นข่าวซ้ำ ๆ แถมยังมีการใส่สีตีไข่เพื่อความสนุกปาก รวมถึงเวลาถ่ายรูปกับผู้ชายคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน รุ่นน้องในวงการ หรือครูสอนพิเศษก็มักจะโดนกล่าวหาว่ามีแฟนใหม่เสมอ แม้กระทั่งพากลูกไปซ้อมกีฬาสเก็ตก็มีคนเข้ามาถามเกี่ยวกับการแต่งงานใหม่

ซึ่งข่าวเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อจิตใจเจ้าตัวเป็นอย่างมาก เนื่องจากกังวลว่าลูกจะไม่สบายใจ ทั้งยังเกิดความน้อยใจว่าตนเองตั้งใจเป็นแม่ที่ดีแล้วทำไมจึงต้องมาโดนสร้างข่าวปลอมอย่างนี้ บางเรื่องเป็นสิทธิส่วนบุคคลและนับว่าเป็นการหมิ่นประมาท ถึงกับกล่าวว่าอาจเป็นสาเหตุไปสู่โรคซึมเศร้า

จึงตั้งใจฝากถึงทุกคนว่าหากอยากมีจิตที่ดี สุขภาพดี ก็ต้องเลือกกินของดี ๆ เลือกเสพข่าวดี ๆ หรือมีสติกับข่าว เพราะเมื่อเราวิจารณ์ข่าวก็จะทำให้จิตใจมีสุขภาพแย่ลง ทั้งที่จริงข่าวนั้นอาจไม่เป็นความจริงหรืออาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้

ทั้งนี้ ยังฝากถึงผู้ที่ทำข่าวต่าง ๆ ว่าหากยังไม่ทราบเรื่องราวจากปากของเจ้าตัวจริง ๆ ก็ขอให้ “ชัวร์ก่อนแฉ” ทำข่าวบนความเป็นจริง



3. หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ ถูกปล่อยข่าวลือว่าป่วยหนักจนต้องหามส่งโรงพยาบาลด่วน

ครั้งหนึ่งเจ้าตัวได้รับโทรศัพท์จากมารดาด้วยความเป็นห่วงและตกใจ เนื่องจากมีผู้ไม่ประสงค์ดีปล่อยข่าวว่าตนเองล้มป่วยหนักจนต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล รวมถึงมีคนนำรูปตอนที่ป่วยหนักเนื่องจากล้มหัวฟาดพื้นเมื่อนานมาแล้วไปให้คุณแม่ดู สร้างความเข้าใจผิด จนต้องเฟซไทม์เพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นอะไร

เมื่อตามหาต้นตอของเพจที่ปล่อยข่าวปลอมเจอแล้วโทร.ไปก็ไม่มีการตอบรับ รวมถึงการส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊กและอีเมลเช่นกัน จึงได้โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียของตนเองเพื่อแก้ข่าว

เจ้าตัวกล่าวว่าข่าวปลอมนี้สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิด รวมถึงสร้างความไม่สบายใจให้แก่ครอบครัวและคนรอบข้าง ห่วงว่าอาจนำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ จากความเครียด เช่น โรคความดันเลือดสูง

จึงได้ฝากผ่านรายการว่าหากจะเสพข่าวใด ๆ ควรเลือกดูข่าวที่น่าเชื่อถือจากสำนักข่าวใหญ่ที่อยู่มานานมากกว่าข่าวจากแหล่งที่ไม่มีที่มาที่ไป เพราะคิดว่ามีความน่าเชื่อถือมากกว่า และอยากให้เช็กข่าวให้ชัวร์ก่อนแชร์ต่อ เพราะข่าวแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในปัจจุบัน



4. แอร์ ภัณฑิลา ฟูกลิ่น ถูกนำภาพไปใช้ในทางอนาจาร พร้อมข้อความเชิงคุกคามทางเพศ

เจ้าตัวพบภาพของตนเองผ่านโพสต์บนทวิตเตอร์พร้อมข้อความเชิงคุกคามทางเพศ มีลักษณะคล้ายการแต่งนิยาย มีการเล่าเรื่องต่าง ๆ เหมือนกับว่าเกี่ยวข้องกับภาพนั้น แต่กลับไม่มีความจริงอยู่เลย ซึ่งภาพนั้นมาจากนิตยาสารต่าง ๆ ที่ตนเองได้ไปร่วมงานถ่ายแบบ

โดยเจ้าตัวกล่าวว่ารู้สึกแย่และโกรธมากในครั้งแรกที่เห็น เนื่องจากมองว่าสิ่งนี้เป็นการล่วงละเมิดทางเพศด้วยคำพูด และถือเป็นสิ่งที่หยาบคายจนตนเองรับไม่ได้ รวมถึงส่งผลให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

เมื่อเจอเหตุการณ์เหล่านี้เจ้าตัวจึงได้อธิบายผ่านสื่อโทรทัศน์และบอกว่าหากยังไม่ลบโพสต์จะทำการรีพอร์ตและแจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ยังฝากถึงผู้เสพข่าวทุกคนว่าก่อนแชร์ข่าวหรือข้อมูลใด ๆ ควรกลั่นกรองก่อน ค่อย ๆ วิเคราะห์ว่าข่าวนั้นเป็นจริงหรือไม่ เพื่อไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นในภายหลัง



5. เต๋อ รัฐนันท์ จรรยาจิรวงศ์ ถูกนำภาพไปโพสต์โดยไม่ได้รับอนุญาต และชี้นำให้โจมตีเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม

ดาราและพธีกรหนุ่ม เต๋อ รัฐนันท์ ถูกโจมตีเกี่ยวกับการทำศัลยกรรม หลังจากงานเปิดตัวซีรีส์ซีซั่นใหม่พร้อมจมูกที่ผ่านการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากมีหลายเพจนำภาพไปโพสต์โดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมข้อความชี้นำให้โจมตีเกี่ยวกับการทำศัลยกรรมใบหน้าของเจ้าตัว

โดยเจ้าตัวได้ออกมาบอกว่าการทำศัลยกรรมครั้งนี้มีสาเหตุมาจากร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้าน สร้างพังผืดขึ้นบริเวณจมูก ทำให้เกิดอาการรั้ง จึงต้องเปลี่ยนซิลิโคนเพื่อป้องกันความเสี่ยงจมูกทะลุ

เมื่อมีเพจโจมตีและชี้นำ คนที่ไม่เข้าใจก็เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เช่น จมูกใหม่เหมือนแม่มด ชอบจมูกเก่ามากกว่า ฯลฯ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าคอมเมนต์ 90% เป็นคำด่าและวิพากษ์วิจารณ์ที่ค่อนข้างรุนแรง แชร์ต่อกันอย่างสนุกสนาน ส่งผลให้สูญเสียความมั่นใจ สร้างบาดแผลในใจ และส่งผลกระทบต่อจิตใจอยู่พักใหญ่ จนเพื่อน ๆ ต้องถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

เจ้าตัวจึงฝากผ่านรายการว่าก่อนจะแสดงความคิดเห็นหรือแชร์เรื่องราวต่าง ๆ ต้องเช็กที่มาและเหตุผลของการกระทำนั้นก่อน ทุกคนมีเหตุผลของตนเอง เราต้องเคารพความเชื่อและความคิดของทุกคน แม้ว่าบางครั้งจะเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นสำหรับเราก็ตาม



6. บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ถูกปล่อยข่าวปลอมว่าไปขายบริการที่ประเทศบรูไน

ดาราที่ทำงานเพื่อสังคมอย่าง บุ๋ม ปนัดดา เคยถูกปล่อยข่าวปลอมว่าเดินทางไปขายบริการที่ประเทศบรูไน ทั้งที่จริงแล้วเจ้าตัวเพียงไปร่วมงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศไทยและประเทศบรูไนเท่านั้น

ส่งผลให้เจ้าตัวรู้สึกเสียใจที่ถูกใส่ความ สร้างข่าวเสียหายให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งที่ตนเองตั้งใจทำงานเพื่อสังคมมานานหลายปี

ทั้งยังฝากไว้ว่าหากเห็นข่าวหรือข้อความอะไรก็ตาม ต้องอ่าน คิด และกลั่นกรองให้ดี ต้องเช็กให้ชัวร์ก่อนแฉหรือส่งต่อออกไป



7. แพท ณปภา ตันตระกูล เคยถูกคอมเมนต์ในเชิงคุกคามทางเพศ

เจ้าตัวเล่าว่าบางเพจมีการลงข่าวและมีคอมเมนต์ในเชิงคุกคามทางเพศหรือบางคำพูดที่ไม่สามารถรับได้ แม้ว่าจะไม่เกี่ยวกับข่าวนั้น ๆ ก็ตาม บางครั้งก็มีการลงข่าวเหมือนพยายามจะแฉ แต่สุดท้ายเมื่อโดนฟ้องก็หงายการ์ดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บางคนก็อ้างว่าเป็นแฟนคลับ เพียงแค่วิจารณ์ตามน้ำเท่านั้น

โดยเจ้าตัวได้เตือนว่าหากจะแชร์อะไรบนโซเชียลต้องเช็กให้ดีก่อน รวมถึงคำพูดที่ใช้แสดงความคิดเห็นด้วย เพราะปัจจุบันโลกโซเชียลหมุนเร็วมาก อย่าคิดว่าเขาจะไม่ฟ้องร้อง หากทำอะไรลงไปแล้วจะต้องได้รับผลของการกระทำนั้น



จากข่าวปลอมของดาราหลายท่านคงจะเป็นอุทาหรณ์และบทเรียนชั้นดีของผู้เสพข่าว แม้ว่าจะไม่ได้สร้างข่าวปลอมด้วยตนเองก็ตาม เพราะการเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลบนโลกโซเชียลในปัจจุบันเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งบางครั้งอาจเป็นไปตามกระแสสังคมจนขาดการไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วน

ดังนั้น ควรหยุดคิด วิเคราะห์ ตรวจสอบ และมีสติในการเสพข่าวเสมอ เพื่อป้องกันการเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ข่าวปลอมซึ่งนำไปสู่การสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองและผู้อื่o


บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนักสืบสายชัวร์ x ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร TRICK or TRUST ภายใต้การสนับสนุนโดย กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย