โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นโพเดียม ที่เยอรมนี

สร้างประวัติศาสตร์ครั้งยิ่งใหญ่ให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตไทย ได้เต็มภาคภูมิสำหรับ “Toyota Gazoo Racing Team Thailand” (โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์) โดยการสนับสนุนของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด คว้าถ้วยแชมป์อันดับที่ 1 และ 2 ของรุ่น SP3 ในการแข่งขันใหญ่ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล “ADAC Total 24h-Race Nürburgring” กับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบแบบมาราธอน 24 ชั่วโมง รายการสุดโหดระดับตำนานที่กล่าวขานกันว่าเป็นสนามที่ขับยาก ท้าทาย และอันตรายที่สุดสนามหนึ่งในโลกต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ด้วยรถ Toyota Corolla Altis GR Sport (โคโรลล่า อัลติส จีอาร์ สปอร์ต ) รถแข่งในตระกูล GR Sport ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง นำทีมโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่งสังกัด โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ ณ สนามนูเบอร์กริง เมืองนูร์เบอร์ก ประเทศเยอมนี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ ลงสนามในรุ่น Super Production 3 (SP3) ใช้รถ Toyota Corolla Altis GR Sport (โคโรลล่า อัลติส จีอาร์ สปอร์ต) จำนวน 2 คัน ลงสนามพิสูจน์สมรรถนะและความทรหดของทั้งรถและคน โดยรถหมายเลข 119 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และมานัต กุละปาลานนท์ และรถหมายเลข 120 ขับโดย เฉิน เจี้ยน หงส์, กรัณฑ์ ศุภพงษ์ และ นาโอกิ คาวามูระ ทุกคนต่างมีประสบการณ์ในสนามนี้มาแล้ว แต่นูร์เบอร์กริงก็ไม่เคยลดระดับความยากและท้าทาย ทุกนาทีในสนามสามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันและอันดับได้ตลอดเวลา รถทั้ง 2 คันมุ่งมั่นเต็มที่ทำผลงานดีได้ตั้งแต่รอบควอลิฟายด์

เข้าสู่รอบการแข่งขัน 24 ชั่วโมงสุดทรหด กับระยะทางกว่า 25 กิโลเมตร และโค้งอันตรายอีก 73 โค้ง รถทุกคันต่างขับเคี่ยวกันตั้งแต่นาทีแรก และมีอุปสรรคสำคัญคือฝนที่ตกต่อเนื่องเป็นเวลานานตั้งแต่ช่วงควอลิฟายด์แทร็กจึงเปียกและลื่น รถแข่งหลายคันไถลออกนอกสนาม แต่นักแข่งของทีมฯ ไม่ลดละความพยายาม ฝ่าสายฝนและกลุ่มหมอกที่ปกคลุมการแข่งขัน ผ่านเข้าสู่ช่วงกลางคืนผู้จัดการแข่งขันประกาศ Red Flag ให้หยุดพักการแข่งขัน 9 ชม.เพื่อความปลอดภัยของนักแข่งและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ จนถึงเวลา 8.00 น. ก็กลับมาประกาศให้เริ่มการแข่งขันใหม่ได้อีกครั้งภายใต้ 6 ชั่วโมงที่กดดัน และในช่วง 2 ชั่วโมงสุดท้าย นักแข่งก็ต้องกลับมาขับด้วยความยากอีกครั้งเมื่อฝนเริ่มกลับมาตกบางพื้นที่ของสนาม นับเป็นการแข่งขันที่ยากและท้าทายสำหรับทุกคน แต่ด้วยความมุ่งมั่นพลังแห่งทีมเวิร์ก สมรรถนะของรถและใจที่สุดแกร่งของนักแข่ง ทำให้รถแข่งสัญชาติไทยหมายเลข 120 ขับโดย เฉิน เจี้ยน หงส์, กรัณฑ์ ศุภพงษ์ และนาโอกิ คาวามูระ วิ่งเข้ารับธงหมากรุกจบการแข่งขันในอันดับ 1 ของรุ่น SP3 และ 59 Overall รวม 67 รอบสนาม Best Lap 10.27.365 และรถหมายเลข 119 ขับโดย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และมานัต กุละปาลานนท์ คว้าอันดับ 2 ในรุ่น SP3 และ 64 Overall รวม 65 รอบสนาม Best Lap 11.16.162 จากรถที่เข้าร่วมแข่งขันในปีนี้รวม 97 คัน


หลังจบการแข่งขัน คุณสุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่งโตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ กล่าวถึงผลงานว่า “ผมและทุกคนภูมิใจในความสำเร็จวันนี้มากๆ ครับ ทีมทำผลงานได้ดีมาก ในสภาพที่อากาศที่ไม่เป็นใจฝนตกตลอดการแข่งขัน ทำให้เกิดข้อจำกัดในการขับขี่มากขึ้น ต้องมีสติและใช้ประสบการณ์ในการขับอย่างมากเพื่อสู้กับแทร็กที่เปียกลื่นและการทำความเร็วที่ยากลำบาก แต่ด้วยการวางแผนที่รัดกุม และสมรรถนะของรถที่พร้อมที่สุดทำให้ทีมได้ชัยชนะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้อีกครั้ง ผมยังมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้นักแข่งไทย และรถจากประเทศไทยได้พิสูจน์ศักยภาพและความแข็งแกร่งบนเวทีโลก พวกเราจะไม่หยุดที่จะพัฒนาและหาโอกาสที่ท้าทายใหม่ๆ อย่างแน่นอนครับ”

ทั้งนี้การเข้าร่วมแข่งขัน ณ ประเทศเยอรมนี นักแข่งและทีมงานทุกคนได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด รวมถึงมาตรการการกักตัวในการเดินทางกลับเข้าประเทศด้วย

ติดตามชมภาพบรรยากาศความตื่นเต้นและสมรรถนะของรถ Toyota Corolla Altis GR Sport และพลังของนักแข่งรถสัญชาติไทย โตโยต้า กาซู เรซซิ่ง ทีมไทยแลนด์ ในการแข่งขัน “ADAC Total 24h-Race Nürburgring” จากเมืองนูร์เบอร์ก ประเทศเยอรมนี เพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/TOYOTAGazooRacingTeamThailand


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.ออกแถลงการณ์กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

30 ก.ค.- กองทัพบกออกแถลงการณ์ กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงเป็นครั้งที่สอง บ่อนทำลายการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี ขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบ ย้ำจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย ตามที่รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการประกาศหยุดยิง เพื่อยุติการปะทะทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 24.00 นาฬิกา ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นั้น กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบ และลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้เกิดบรรยากาศแห่งสันติภาพ ความไว้เนื้อเชื่อใจ และความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้งสองประเทศ อย่างไรก็ตาม กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่า ในวันที่ 29 – 30 กรกฎาคม 2568 กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ การกระทำของกองทัพกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรง นับเป็นครั้งที่สองภายหลังจากที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้ และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลายความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์ด้วยสันติวิธี อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่างสองประเทศ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักแห่งความอดกลั้น สันติภาพ และมนุษยธรรมอย่างสูงสุด อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน -สำนักข่าวไทย

กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง เปิดแนวปะทะพื้นที่ “อานม้า-ภูมะเขือ”

30 ก.ค. – กัมพูชากลับกลอก ละเมิดข้อตกลงอีก เปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ “อานม้า และภูมะเขือ” ขณะที่ ทบ.เผยทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็ก สลับระเบิดขว้าง เมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยก่อนอีกแล้ว ละเมิดข้อตกลงถึง 2 ครั้ง โดยเปิดแนวปะทะ 2 พื้นที่ที่ อานม้า และภูมะเขือ ทบ.เปิดเผยว่า ทหารกัมพูชาใช้ปืนเล็กสลับระเบิดขว้าง โดยเมื่อเวลา 20.45 น. แหล่งข่าวฝ่ายมั่นคงรายงานว่า ช่องอานม้า มีเหตุปะทะ กัมพูชาเปิดฉากยิง หวังยึดพื้นที่ ฝ่ายไทยตอบโต้ ขณะที่ช่วงเวลา 22.19 น. พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นเกิดเหตุปะทะที่ภูมะเขือ และช่องอานม้า โดยมีปืนเล็กกับระเบิดขว้างเข้ามาที่ฐานฝั่งไทย ประมาณ 30 นาที ขณะที่เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ไม่ต้องนอน ตามคาด! กัมพูชาละเมิดอีกแล้ว อานม้าปะทะภูมะเขือ […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสาน-กลาง-ตอ.ฝนตกหนัก กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วน กทม.-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน ตาก บึงกาฬ สกลนคร และนครพนม ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย