TOYOTA GAZOO Racing Thailand ประกาศกลยุทธ์ปี 2025 มุ่งคว้าแชมป์เต็มรูปแบบ ผู้นำมอเตอร์สปอร์ตของไทย

TOYOTA GAZOO Racing Thailand เดินหน้าเปิดแผนกลยุทธ์ปี 2025 ตั้งเป้า “แชมป์ประเทศไทย” ทุกการแข่งขันที่เข้าร่วม ตามแนวคิดพันธกิจหลัก “MAKE EVER-BETTER CARS From Circuit to the Road” มอเตอร์สปอร์ตเพื่อการพัฒนายานยนต์จากสนามแข่งสู่รถยนต์ที่ดียิ่งขึ้นบนท้องถนน ผ่านความร่วมมือกับ TOYOTA MOTOR ASIA (TMA) และทีมวิศวกรชาวไทย นำข้อมูลจากสนามแข่งไปพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับสมรรถนะรถที่วางจำหน่ายจริงในประเทศ และส่งเสริมโอกาสนักแข่งรุ่นใหม่ “ไอตั้น อัษฎาธร” แชมป์โคโรลล่า อัลติส จีอาร์ สปอร์ต วันเมคเรซ ปีล่าสุด เสริมทีมลงรายการใหญ่ก้าวสู่เส้นทางนักแข่งรถระดับอาชีพ


คุณอาร์โต้ – สุทธิพงศ์ สมิตชาติ ผู้อำนวยการทีมและนักแข่งสังกัด TOYOTA GAZOO Racing Thailand กล่าวว่า “ปี 2024 เป็นอีกหนึ่งปีทองของทีม TOYOTA GAZOO Racing Thailand ที่รถแข่งทุกคันขึ้นโพเดียมได้ถ้วยรางวัลอย่างงดงาม แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่เทคนิค วิศวกรรม ศักยภาพนักแข่ง และความแกร่งของทีมงานเบื้องหลังในทุกรายการ ปีนี้เราพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง โดยตั้งกลยุทธ์สำหรับการทำทีมในปี 2025 ไว้ 3 ส่วนหลัก คือ

เดินหน้าความร่วมมือกับ TMA เพื่อการพัฒนารถยนต์ที่ดีที่สุด
TOYOTA GAZOO Racing Thailand ยังเดินหน้าร่วมมือกับ TOYOTA MOTOR ASIA (TMA) ต่อเนื่องด้วยการนำข้อมูลจากสนามแข่งที่เก็บสะสมตลอดฤดูกาล 2024 มาวิเคราะห์และต่อยอดสู่การพัฒนารถยนต์ ทั้งในด้านสมรรถนะสำหรับการแข่งขัน และการขับขี่ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในกลุ่ม GR Series ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย โดยตลอดฤดูกาล 2025 รถทุกรุ่นทั้ง YARIS, ALTIS, TOYOTA GR SUPRA และ HILUX REVO จะถูกนำมาใช้จริงในสนามแข่งขันตลอดปี สะท้อนแนวคิดจากสนามแข่งสู่ท้องถนน อย่างชัดเจน เราเชื่อมั่นว่าการเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่องและนำมาพัฒนาอย่างเป็นระบบ จะช่วยให้เกิดรถแข่งที่ดีที่สุด และผู้บริโภคเองก็จะได้ใช้รถยนต์ที่ดีที่สุด


ตั้งเป้าแชมป์ทุกรายการแข่งขันปี 2025 ส่งรถแข่งรุ่นใหม่ลุยทุกสนาม
TOYOTA GAZOO Racing Thailand ตอกย้ำความเป็นผู้นำวงการมอเตอร์สปอร์ตของไทย ในรายการแข่งขัน 4 รายการใหญ่ พร้อมปรับเปลี่ยนรถแข่งหลายรุ่นเพื่อเสริมศักยภาพในแต่ละสนาม

  • รายการแรก Thailand Super Series 2025 ทีมลงแข่งขันใน 5 รุ่น คือ รุ่น Thailand Super Car GTM เปลี่ยนมาใช้รถ TOYOTA GR Supra, รุ่น Thailand Super Car GTC เปลี่ยนมาใช้รถ Corolla Altis GR Sport, รุ่น Thailand Super Car GT4 ใช้รถ TOYOTA GR Supra EVO 2, รุ่น Super Touring ใช้รถ YARIS และ YARIS ATIV สุดท้ายในรุ่น Super Pick Up ใช้รถ HILUX Champ
  • ประเภทแรลลี่ รายการ RAAT Thailand Endurance Championship 2025 ลงแข่งขันในรุ่น Touring Car และ Compact โดยใช้รถ Corolla ALTIS GR Sport, YARIS และ YARIS ATIV ที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อทดสอบทั้งสมรรถนะของรถและความพร้อมของนักแข่ง
  • รายการ RAAT Thailand Rally Championship 2025 ซึ่งเป็นการแข่งขันแรลลี่ทางฝุ่น ปีนี้ส่ง TOYOTA Yaris Cross HEV ลงสนามเต็มรูปแบบ ประเดิมสนามแรกที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อปลายเดือนมีนาคม ทำผลงานได้ถ้วยอันดับ 2 ในรุ่น RC2.1
  • รายการ ASIA CROSS COUNTRY RALLY 2025 (AXCR) แรลลี่สุดโหดในปีนี้ใช้เส้นทาง พัทยา – พนมเปญ เราเตรียมรถ Hilux REVO GR SPORT ลงสู้ศึก 2 คัน

ขยายแนวรบทุกรุ่น พร้อมแนะนำนักแข่งใหม่สู่ฤดูกาล 2025
ด้วยความตั้งใจที่อยากจะพัฒนารถทุกรุ่น ทำให้ทีมเปิดกว้างและพร้อมท้าทายทุกอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นในการแข่งขันที่มีความแตกต่างทั้งรูปแบบการแข่งขันทางเรียบ ทางฝุ่น สปรินซ์เรซ และแรลลี่ เพื่อท้าทายขีดจำกัดของรถยนต์ GR Series รวมถึงพัฒนาศักยภาพของนักแข่งและทีมงานแบบรอบด้านในทุกมิติ วางแผนส่งนักแข่งมากประสบการณ์และนักแข่งรุ่นใหม่เสริมทีม นำโดยทีมนักแข่งทางเรียบ อาร์โต้-สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, แมดคาว-ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, แมน-ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ, ต้น-มานัต กุละปาลานนท์, จั้ม-กรัณฑ์ ศุภพงษ์, เอ็กซ์-อัครพงษ์ อัคนีนิโรธ, ณ ดล วัฒนธรรม, เน็กซี่-นรรัศมิ์ อภิวาท, ซ้ง-ทรงศักดิ์ กรศิริสืบสกุล
และนักแข่งสายฝุ่นประกอบด้วย จุ๊บ-ณัฐพล อังฤทธานนท์ มาคู่กับ Co-Driver อิทธิพล สิมารักษ์ และ มานะ พรศิริเชิด กับ Co-Driver อีก 1 ท่าน

TOYOTA GAZOO Racing Thailand ยังเดินหน้าสร้างโอกาสให้นักแข่งรุ่นใหม่ เปิดตัว “ไอตั้น อัษฎาธร” แชมป์ประจำปีจากรุ่น โคโรลล่า อัลติส จีอาร์ สปอร์ต วันเมคเรซ ของรายการ TOYOTA GAZOO Racing Thailand 2024 สู่สนามแข่งขันในระดับอาชีพ นับเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจในการต่อยอดนักแข่งมือสมัครเล่นสู่ระดับอาชีพอย่างเต็มตัว นับเป็นการผสมผสานระหว่างนักแข่งรุ่นเก๋ากับพลังของนักแข่งรุ่นใหม่ในปีนี้สะท้อนถึงภาพลักษณ์ของ TOYOTA GAZOO Racing Thailand ที่ไม่เพียงมุ่งมั่นคว้าแชมป์ในสนามแข่ง แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาทีมเพื่อรักษาความเป็นมาตรฐานระดับสากลอย่างยั่งยืน


ร่วมติดตามความมันส์ของทุกรายการแข่งขันตลอดปี 2025 พร้อมเชียร์ทีมแข่งรถสัญชาติไทย TOYOTA GAZOO Racing Thailand ที่มุ่งมั่นและตั้งใจพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศและคนไทย ได้ที่ Facebook และ Instagram: TOYOTAGAZOORacingTeamThailand

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ถก สมช.-ครม.นัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิง

ทำเนียบรัฐบาล 6 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ พิจารณาข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ด้าน “บิ๊กเล็ก” ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่าน GBC ระดับเลขาฯ แล้ว เบื้องต้นบรรลุข้อลงหยุดยิง ตามข้อเสนอ 8 ข้อ ขอรอดูปฏิบัติจริง ย้ำ MOU43 ยังมีประโยชน์เป็นข้ออ้างกล่าวหาเขมรได้-ขอสบายใจ ยึดประโยชน์ชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีรัฐพิเศษเพื่อที่จะรับรองข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ภายหลังคณะเลขานุการ GBC ไทย ได้เดินทางไปยังประเทศมาเลเซียเพื่อหารือในวงเล็กมาก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศการประชุมมีบรรดารัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอาทิ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายชูศักดิ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รวมถึงคณะเลขานุการ GBC เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง พลเอกณัฐพล เปิดเผยก่อน การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) […]

ศบ.ทก. เผย GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย จ่อชง สมช.-ครม.นัดพิเศษ

ทำเนียบ 6 ส.ค.- ศบ.ทก. เผยข่าวดี ที่ประชุม GBC สรุปข้อตกลง 2 ฝ่าย พร้อมเตรียมเสนอให้ สมช. – ครม. นัดพิเศษ พิจารณาเย็นนี้ ก่อน รมช.กห. เดินทางร่วมลงนามพรุ่งนี้ ด้าน กต. เตรียมประชุมทูตทั่วโลก เพื่อชี้แจงสถานการณ์ให้นานาชาติเข้าใจ หลังพาองค์การระหว่างประเทศเยี่ยม 18 เชลยศึก ขณะที่ผ่อนปรนให้โดรนเพื่อการเกษตรบินได้หลัง 15 ส.ค.นี้ พลเรือตรีสุรสันต์ คงสิริ โฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทบ.) และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกับนางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงการณ์ภายหลังจากการประชุมความคืบหน้าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พลเรือตรีสุรสันต์ แถลงว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในส่วนของความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมา สถานการณ์โดยทั่วไปอยู่ในสภาวะปกติ มีการเสริมที่มั่นทางทหารในพื้นที่บางส่วน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด ในช่วงเวลาที่ผ่านมาเช่นเดียวกันก็มีการตรวจพบว่ามีการใช้โดรนเพิ่มมากยิ่งขึ้น ในสถานการณ์ไทยห้ามบินโดรนทั่วประเทศ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงยังเข้มงวดในการสกัดกั้น ตรวจตรา ตรวจสอบ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ถึงวันที่ 15 […]

กกพ.จี้ MEA แจงปัญหาไฟดับ

กรุงเทพฯ 6 ส.ค. – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จี้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) แจ้งปัญหาไฟดับเป็นบริเวณกว้าง ด้านประชาชนแห่คอมเมนต์ผลกระทบและต้องการเห็นการชดเชย จากปัญหาความเดือดร้อนคนกรุงเทพฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ส.ค.) เวลา 22.12 น. เกิดไฟดับเป็นบริเวณกว้างในพื้นที่ย่านสะพานควาย เขตพญาไท ถ.ประดิพัทธ์ และ ถ.พระรามที่ 6 และ MEA แก้ไขจนจ่ายครบเวลา 23.50 น. ทางสำนักงาน กกพ.แจ้งว่าได้ประสานให้การไฟฟ้านครหลวง (MEA) รายงานข้อเท็จจริง และแนวทางการแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก ในขณะที่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างระบุเดือดร้อนจากเหตุไฟดับ ต้องการให้ MEA ชี้แจงสาเหตุที่ชัดเจน บางส่วนก็ชื่นชม แก้ปัญหาได้รวดเร็ว บางส่วนก็ต้องการเห็น การชดเชยจาก MEA เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เศรษฐกิจและมีประชาชนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยไฟดับทั้งอาคาร ดับทั้งไฟสาธารณะ ไฟจราจร สัญญาณอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ MEA ชี้แจงเบื้องต้นสาเหตุเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิคของอุปกรณ์ในสถานีไฟฟ้าย่อย ในระหว่างการเตรียมการเพื่อปฏิบัติงานปรับปรุงระบบจ่ายไฟฟ้าตามปกติ, ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายหรือภัยคุกคามทางไซเบอร์ สาเหตุที่แท้จริงของอุปกรณ์ขัดข้องจะชี้แจงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า […]

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจสอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย