ร.ย.ส.ท.จับมือกองทัพบก จัดกิจกรรมรถยนต์แรลลี่ เฉลิมพระเกียรติ

ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์(ร.ย.ส.ท.) ร่วมกับ กองทัพบก และผู้สนับสนุนภาคเอกชน แถลงข่าวการจัดกิจกรรมรถยนต์แรลลี่ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว“พระบารมีดุจร่มฟ้า ราชภักดิ์แดนไทย เชิดชูบูรพกษัตริย์แห่งสยาม” ชิงถ้วยพระราชทานพร้อมเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวอาร์มี่แลนด์ 19 ก.ค. นี้
วันอังคาร ที่ 15 กรกฎาคม 2568 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร


ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์(ร.ย.ส.ท.) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยว และกีฬากองทัพบก จัดแถลงข่าวการจัดกิจกรรมรถยนต์แรลลี่ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบารมีดุจร่มฟ้า ราชภักดิ์แดนไทย เชิดชูบูรพกษัตริย์แห่งสยาม” ขึ้น โดยมีนายพฤฒิรัตน์ รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์ นายกสมาคมราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานเปิดการแถลงข่าว พร้อมด้วย พลตำรวจตรี พิชิตชัย ศรียานนท์ ประธานอนุกรรมกรรมการจัดการแข่งขันและผู้แทนจาก บริษัท ปตท. นํ้ามัน และการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้สนับสนุนหลัก เข้าร่วมงาน

โดยวัตถุประสงค์ของการจัดเพื่อให้เป็นกิจกรรมที่แสดงออกถึงการน้อมรำลึกในหระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นี้ อย่างพร้อมเพรียงกันของสมาชิกร.ย.ส.ท. และพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศ พร้อมกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ และกระจายรายได้ในพื้นที่ ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรรมชาติในเขตพื้นที่ทหารในโครงการ“ARMYLAND” นอกจากนี้ยังเป็นการรนณรงค์ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนได้ มีวินัยในการใช้รถใช้ถนน เอื้อเฟื้อมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง และเคารพกฎจราจรเพื่อความปลอดภัยของส่วนรวมด้วย


นายพฤฒิรัตน์ รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์ นายกสมาคมราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กล่าวว่า เนื่องในโอกาส พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 นี้ รัฐบาลได้มีแนวทางให้ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในวาระนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในหระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว อย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ

โดยเฉพาะ “ราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์”ก่อตั้งขึ้นโดยขอพระบรมราชานุญาติจาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ซึ่งพระองค์ได้มีพระมหากรุณาธิคุณอนุญาติ และทรงโปรดเกล้าฯ รับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2476 ซึ่งถือได้ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์มีคุณูปการต่อร.ย.ส.ท. และกีฬามอเตอร์สปอร์ต มาช้านานแล้ว ดังนั้นกิจกรรมในครั้งนี้จึงเป็นกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่มีต่อเหล่าสมาชิก ร.ย.ส.ท. และวงการกีฬามอเตอร์สปอร์ต อย่างเป็นรูปธรรม

ร.ย.ส.ท.จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรม รถยนต์แรลลี่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบารมีดุจร่มฟ้า ราชภักดิ์แดนไทย เชิดชูบูรพกษัตริย์แห่งสยาม” ขึ้นโดยใช้เส้นทางจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก กรุงเทพมหานคร ไปสิ้นสุดที่ ศูนย์ฝึกการรบพิเศษ(ค่ายหนองตะกู)ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 19 – 20 กรกฎาคม 2568 ที่จะถึงนี้ โดยผู้ชนะเลิศการแข่งขันทั้งประเภท ทีม และบุคคลจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวซึ่งนับเป็นเกียรติยศ สูงสุด ในชีวิต


กิจกรรม “รถยนต์แรลลี่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว“พระบารมีดุจร่มฟ้า ราชภักดิ์แดนไทย เชิดชูบูรพกษัตริย์แห่งสยาม” ครั้งนี้ นอกจากจะสร้างความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ของเหล่าสมาชิกร.ย.ส.ท. และพสกนิกรชาวไทยโดยทั่วกันแล้ว ยังจะเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมสถาบันครอบครัว ,สนับสนุนให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ ,ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้ชุมชนในพื้นที่ และส่งเสริมให้เกิดวินัยในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน และเคารพกฎจราจรเพื่อความปลอดภัยของผู้ร่วมทาง อีกด้วย จึงอยากให้เหล่าสมาชิกของร.ย.ส.ท. และประชาชนที่สนใจการขับรถยนต์ท่องเที่ยว มาร่วมสนุกสนานกับกิจกรรมดีๆนี้ โดยพร้อมเพรียงกัน” นายพฤฒิรัตน์ รัตนกุลเสรีเริงฤทธิ์ กล่าว

ขณะที่ พลตำรวจตรี พิชิตชัย ศรียานนท์ ในฐานะประธานอนุกรรมกรรมการจัดการแข่งขันกล่าวว่า กิจกรรม รถยนต์แรลลี่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว“พระบารมีดุจร่มฟ้า ราชภักดิ์แดนไทย เชิดชูบูรพกษัตริย์แห่งสยาม” ครั้งนี้ มีจำนวนรถยนต์เข้าแข่งขันจำนวน 70 คันนักขับ และผู้นำทางรวมกันจำนวน 150 คน มีระยะทางแข่งขันรวม 241กิโลเมตร โดยกำหนดให้ใช้เวลาเดินทางไม่ต่ำกว่า 6 ชม. ใช้ความเร็วตามกฎจราจรทางบก เริ่มต้นปล่อยรถในเวลา 08.30 น. จากลานหน้าอินดอร์สเตเดียม การกีฬาแห่งประเทศไทย ใช้เส้นทางถนนพหลโยธิน มุ่งหน้าเส้นทางสระบุรีผ่าน มวกเหล็ก และพักรับประทานอาหารกลางวันที่ ค่ายฝึกการรบพิเศษเขาตะกู ปากช่อง และจัดการแสดงพิเศษจากทหารสังกัดหน่วยรบพิเศษ ซึ่งสถานที่แห่งนี้จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในเขตทหารเพื่อการนันทนาการ และผจญภัยตามโครงการ Army Land โดย ร.ย.ส.ท.ได้รับความร่วมมือจาก“สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬากองทัพบก”เป็นอย่างดี หลังจากนั้นนักแข่งจะเดินทางเข้าสู่จุด Finish ที่โรงแรม Lacol Khaoyai

“โดยผู้ชนะเลิศทั้งประเภททีม และประเภทบุคคล จะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้ยังมีของรางวัลจากผู้สนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมลุ้นรางวัลใหญ่อีกมากมาย รับรองว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมท่านจะได้รับความสนุกสนาน และประทับใจอย่างแน่นอน” พลตำรวจตรี พิชิตชัย ศรียานนท์ กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับกิจกรรมรถยนต์แรลลี่เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว“พระบารมีดุจร่มฟ้า ราชภักดิ์แดนไทย เชิดชูบูรพกษัตริย์แห่งสยาม” จะเริ่มพิธีเปิด และปล่อยรถจากจุดเริ่มต้นในเช้าวันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม นี้ที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย และเข้าเส้นชัยที่ โรงแรม Lacol Khaoyai รวมระยะทาง241 กิโลเมตร โดยมีถ้วยรางวัลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว สำหรับผู้ชนะเลิศทั้ง ประเภททีม และบุคคล นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านจะได้มีส่วนร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อสังคมโดยการมอบอุปกรณ์กีฬา และอุปกรณ์การเรียน ให้กับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาอีกด้วย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

ศาลอาญาฯ อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท”

กรุงเทพฯ 7 ส.ค. – ศาลอาญาพระโขนง อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว “ไฮโซลูกนัท” ตีราคาประกัน 100,000 บาท หลังตำรวจนำตัวฝากขัง คดียาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาพระโขนง ฝากขังครั้งที่ 1 นายธนัตถ์ หรือ ไฮโซลูกนัท อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาคดีกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ โดยศาลอนุญาตฝากขังตามคำร้อง ซึ่งวันนี้ผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกัน 100,000 บาท โดยผู้ต้องหานำเงินสดเป็นหลักประกันตนเอง.-สำนักข่าวไทย

รมว.ต่างประเทศ ย้ำทูตไทยทั่วโลกแจงผลประชุม GBC

7 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ ถกทูตไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับทูตไทยทั่วโลกทำงานเชิงรุก เดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์ ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบายและแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อ ว่าเป็นพัฒนาการและก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงพร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขาฯ การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป […]

ชาวบ้านยังไม่วางใจ แม้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง

อุบลราชธานี 7 ส.ค. – ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดน จ.อุบลราชธานี ยังไม่วางใจสถานการณ์ แม้ผลประชุม GBC ไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ชาติเห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิงแล้ว ค่ำคืนนี้หลายหมู่บ้านยังคงมีคำเตือนให้ออกนอกพื้นที่ หลังบางส่วนทยอยกลับเข้ามา .-สำนักข่าวไทย

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]