ซ้อมใหญ่ระบบประมวลคะแนนเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.

กทม.19 พ.ค.-กทม.ซ้อมเสมือนจริงระบบประมวลผลคะแนน พร้อมเต็ม 100% สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก. แนะประชาชนออกมาใช้สิทธิได้ตั้งแต่ช่วงเช้า เตรียมระบบไฟสำรอง นับคะแนน รายงานผลโปร่งใส

นางสุธาทิพย์ สนเอี่ยม รองปลัดกรุงเทพมหานคร ตรวจเยี่ยมการซ้อมการประมวลผลคะแนนและทดสอบระบบรายงานผลคะแนนการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  จากนั้นร่วมแถลงข่าวความพร้อมในการประมวลผลคะแนนฯ ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา กรุงเทพมหานคร 2 ดินแดง โดยภายในศูนย์ประมวลผล จะแบ่งโซนมีโต๊ะแยกสำหรับการส่งใบรายงานผลหลังนับคะแนนที่หน่วยแล้วเสร็จ แยกเป็นโซนแต่ละกลุ่มเขต พร้อมจอประมวลผล ขนาดใหญ่ 3 จอ เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ยืนยันระบบประมวลด้วยระบบคอมพิวเตอร์  ให้ความมั่นใจได้ในเรื่องการโปร่งใส


ในการเลือกตั้งส.ก.และผู้ว่าฯกทม.ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2565 เวลา 08.00 -17.00 น. กรุงเทพมหานคร ในฐานะผู้สนับสนุนการดำเนินการการเลือกตั้งฯ ด้านบุคลากรเพื่อสนับสนุนการจัดการเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น 167,298 คน ประกอบด้วย กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง จำนวน 61,353 คน  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย จำนวน 13,634 คน  อาสาสมัครสาธารณสุข จำนวน 13,634 คน  เจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย จำนวน 405 คน ข้าราชการและบุคลากรของกรุงเทพมหานคร จำนวน 78,272 คน

ด้านวัสดุอุปกรณ์ หีบบัตรเลือกตั้ง คูหาลงคะแนน ป้ายกระดานสำหรับปิดประกาศหน้าที่เลือกตั้ง บัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร  ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยในวันที่ 21 พฤษภาคม 2565 กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง จะได้ตรวจรับวัสดุ อุปกรณ์ทั้งหมด ณ สำนักงานเขตเพื่อให้พร้อมสำหรับการจัดการเลือกตั้งในวันถัดไป


การเตรียมการด้านสถานที่ กรุงเทพมหานคร โดย 50 สำนักงานเขต ได้จัดเตรียมสถานที่เพื่อจัดตั้งเป็นหน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งสิ้น 6,817 หน่วย  แบ่งเป็นหน่วยเลือกตั้งที่ตั้งอยู่ในอาคาร 2,956 หน่วย และเป็นเต็นท์ 3,861 หน่วย จัดเตรียมศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งระดับเขต สถานที่ประมวลผลคะแนนเลือกตั้ง สถานที่เก็บรักษาบัตรเลือกตั้ง หีบบัตรเลือกตั้ง และวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งฯ ทั้งก่อนวันเลือกตั้ง และหลังวันเลือกตั้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

สำหรับแนวทางการนับคะแนน และการรายงานผลคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะเป็นการนับคะแนนพร้อมกันทั้งในส่วนของผู้สมัครผู้ว่าฯ และ ส.ก. ณ หน่วยเลือกตั้ง แยกกระดานคะแนนผู้ว่าฯกับ ส.ก. ซึ่งได้กำชับให้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่สำหรับการนับคะแนนที่มีโทนเสียงต่างกัน หรืออาจใช้ผู้นับคะแนนเป็นเพศหญิงและชาย  เพื่อป้องกันความสับสน เมื่อแต่ละหน่วยเลือกตั้งนับคะแนนแล้วเสร็จให้นำหีบบัตรเลือกตั้งและวัสดุอุปกรณ์ พร้อมทั้งแบบรายงานผลการนับคะแนนเลือกตั้งมาส่งที่สำนักงานเขต โดยเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลแต่ละเขตจะมีการบันทึกข้อมูลผลคะแนนของแต่ละหน่วยเลือกตั้งผ่านทางระบบประมวลผลคะแนน ซึ่งจะถูกส่งไปยังศูนย์ประมวลผลใหญ่ เพื่อรวบรวมและประมวลผลในภาพรวมของ 50 สำนักงานเขตที่ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ซึ่งกำหนดให้เป็นสถานที่ประมวลผลคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

โดยกรุงเทพมหานครได้จัดเตรียมระบบประมวลผลคะแนนเลือกตั้งไว้เรียบร้อยแล้ว  พร้อมทั้งติดตั้งจอรายงานผลคะแนนให้ประชาชนและสื่อมวลชนได้ติดตามบริเวณลานช้าง และโถงชั้น 1 อาคารไอราวัตพัฒนา  นอกจากนี้จะมีการแถลงข่าวรายงานผลคะแนนเป็นระยะโดย กกต.ทถ.


กทม. จนกระทั่งรวบรวมคะแนนเลือกตั้งแล้วเสร็จทุกหน่วยเลือกตั้ง จากนั้นจึงสรุปผลคะแนนเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาประกาศผลอย่างเป็นทางการต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้ตอบคำถามถึงข้อสงสัยต่างๆในวันเลือกตั้ง อาทิ  การมาลงคะแนน สำหรับผู้ที่มีอุณหภูมิเกิน37.5 องศา ในทุกหน่วยเลือกตั้ง จะจัดจุดลงคะแนนมีคูหาแยกต่างหากไว้  มีเจ้าหน้าที่แยกเพื่ออำนวยความสะดวกในการแสดงตน และเมื่อกาเสร็จเจ้าหน้าที่จะยกหีบไปให้หย่อนบัตร การประมวลผลมีการป้องกันระบบล่ม ติดตั้งเครื่องประมวลผลมีระบบสำรอง ไฟสำรอง  กรณีวันเลือกตั้งมีฝนตก หน่วยเลือกตั้งน้ำท่วม ขณะนี้ ได้สั่งให้ทุกเขตสำรวจหน่วยเลือกตั้ง ในช่วงนี้ที่อาจมีพายุเข้า ให้ทุกเขต ตรวจสอบอุปกรณ์ให้สมบูรณ์  มั่นใจฝนไม่กระทบจำนวนผู้มาใช้สิทธิ โดยแนะนำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิตั้งแต่เช้า ครั้งนี้ขยายเวลาการลงคะแนน ถึง17.00 เพื่อให้วางแผนการเดินทางมาลงคะแนนได้

ส่วนกรณีช่วงใกล้ปิดหีบ หากมีประชาชนมารอใช้สิทธิใกล้เคียงกับช่วงเวลาปิดหีบ กฎหมายเลือกตั้งกำหนดไว้ชัดเจน  ว่าเมื่อมีผู้มาแสดงตนจนถึงเวลาปิดหีบ 17.00 จะตั้งแถวผู้ที่มาแสดงตนในเวลานั้นทันทั้งหมดก็จะอนุญาตให้เข้าไปใช้สิทธิได้  ทุกคนสามารถลงคะแนนได้จนเสร็จสิ้นทุกคนที่มาแสดงตนภายในเวลา17.00

กรณีพบการฉีกบัตรเลือกตั้ง ที่หน่วยจะมีตำรวจหน่วยละ2 คน เข้าไปดำเนินการ เจ้าหน้าที่หน่วย จะรายงานเข้าที่ศูนย์ประสานงานแต่ละเขต และรายงานเข้ามาที่ศูนย์ประมวลผลส่วนกลาง เช่นเดียวกันหากมีเหตุการณ์ไม่ปกติอื่นๆ ก็ต้องรายงานเข้ามาเพื่อทำบันทึก

ขอย้ำ ผู้ออกมาใช้สิทธิถ้าอยากเซลฟี่ทำได้แค่นอกจุดที่เลือกตั้งเท่านั้น  ห้ามถ่ายรูปบัตรในคูหา ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ทั้งนี้ การนับบคะแนน คาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการไม่เกิน 24.00 น. ของวันที่22 พ.ค.65 โดยหลังปิดหีบ เตรียมการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งพร้อมกันทั้งเลือก ผู้ว่าฯกทม. และส.ก. คาดใช้เวลานับไม่ เกิน 1.30-2 ชม. แล้วเสร็จ  จากนั้นเจ้าหน้าที่นำผลคะแนนมาส่งที่ศูนย์ประมวลผลส่วนกลาง ที่กทม.2  .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเตรียมสอบเชิงลึกชาย BHQ หวั่นเป็นไส้ศึก

บุรีรัมย์ 6 ส.ค.-ตำรวจ สอบปากคำชายชาวกัมพูชา พบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ อ้างเคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับ กรณีตำรวจ สภ.ลำดวน จังหวัดบุรีรัมย์ จับกุมชายชาวกัมพูชา ได้ที่บ้านพักภรรยาคนไทยและมีเครื่องแบบทหารพร้อมตราสัญลักษณ์ BHQ จากการสอบปากคำ เคยเป็นทหารหน่วย BHQ จริง แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นแล้ว มาทำงานอยู่ไทย แล้วถูกสวมชื่อ จากการตรวจสอบพบมีการใช้ชื่อถึง 4 ชื่อ ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน และอ้างว่าเมื่อก่อนเข้ามาอย่างถูกต้อง แต่ล่าสุดมีการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติทาง จ.สระแก้ว โดยอ้างว่าจ่ายเงินบุคคลที่พาเข้า 4,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อการคำให้การ เกรงว่าอาจจะแฝงตัวเข้ามาเป็นสายลับคอยส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงของไทย ไปให้ฝั่งกัมพูชา จากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์พบมีรูปถ่ายกายแต่งกายทหารและถือปืน เบื้องต้นทางตำรวจจะดำเนินคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต.-สำนักข่าวไทย

GBC หารือใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืนถกถึงเที่ยงคืน

มาเลเซีย 6 ส.ค.-GBC ประชุมใหม่เช้านี้ หลังเมื่อคืน ฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ การหารือภายใต้กรอบ GBC ณ เวลา 07.45 น. วันนี้ (ตามเวลาท้องถิ่น) เมื่อคืน คณะเลขานุการ GBC ของทั้งสองฝ่าย ได้เจรจากันถึงเวลา 00.15 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) แต่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในบางประเด็นสุดท้าย เนื่องจากฝ่ายเลขานุการ GBC ของฝ่ายกัมพูชา ไม่สามารถตัดสินตกลงใจได้ในบางหัวข้อและต้องส่งกลับไปให้พนมเปญพิจารณาต่อ จึงได้นัดประชุมอีกครั้ง เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) วันนี้ เพื่อหาข้อสรุปสำหรับประเด็นดังกล่าว โดยเมื่อเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีช่วยกลาโหม ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับคณะเลขานุการ GBC ของฝ่ายไทยติดตามความคืบหน้าในการเจรจา ให้กำลังใจ และชื่นชมในการทำงานอย่างหนักถึงวินาทีสุดท้ายของทีมไทยแลนด์ ขอให้ประสบความสำเร็จในการเจรจา เพื่อบรรลุผลและปกป้องผลประโยชน์ของไทย.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]