ปทุมธานี 13 เม.ย. – สุดรันทด รับวันสงกรานต์ ลุงช่างเชื่อมอุ้มเมียพิการนอนข้างทางรถไฟ ใกล้ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต หลังถูกนายจ้างพามาปล่อยทิ้ง พร้อมเบี้ยวค่าจ้าง
กลางดึกคืนที่ผ่านมา คุณเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงานลงพื้นที่ ริมทางรถไฟ บริเวณด้านหลัง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบเห็นชายอุ้มเมียพิการเดินร้องไห้อยู่ริมทางรถไฟ หลังถูกนายจ้างหลอกพามาปล่อยทิ้งข้างทาง
เมื่อทีมสายไหมต้องรอด ลงพื้นที่ ได้พบกับ คุณลุงสมประสงค์ อายุ 54 ปี กำลังอุ้ม นางพัทธนันท์ อายุ 55 ปี ป่วยพิการท่อนล่างไม่สามารถเดินได้ ตะเกียกตะกายปีนหนียุงขึ้นมาจากข้างทางรถไฟ มานอนอยู่บนสะพานลอยข้ามทางรถไฟ จึงได้ตรวจ ATK เบื้องต้นทั้ง 2 คน ผลเป็นลบ ไม่ติดโควิด จึงได้สอบถามถึงที่มาที่ไป
ลุงสมประสงค์ เล่าว่า ตนเป็นชาว จ.นราธิวาส ได้มาแต่งงานอยู่กินกับภรรยา ที่ อ.พบพระ จ.ตาก ได้ประมาณ 15 ปี ตนประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ก่อนหน้านี้ภรรยาตนสุขภาพแข็งแรงตามปกติ กระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ภรรยาเริ่มล้มป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับปอด แขนขาอ่อนแรง อาการค่อยๆ หนักขึ้น จนกระทั่งไม่สามารถเดินได้ ที่ผ่านมาถึงแม่ภรรยาตนจะเดิยไม่ได้ ตนก็ไม่เคยทิ้งไปไหน ทุกครั้งที่ตนเองไปรับจ้างทำงานก็จะอุ้มเอาภรรยาไปอยู่ด้วย คอยดูแลไม่เคยห่าง เนื่องภรรยาตนเป็นคนดีมาก เมื่อภรรยาป่วยตนจึงรับปากว่าไม่ว่าจะยากดีมีจนแค่ไหน ก็ตามก็จะรัก และดูแลจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
ลุงสมประสงค์ กล่าวต่อว่า ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้มีนายจ้าง ชื่อ นางติ๋ม มาติดต่อชักชวน ให้มาทำงานเป็นช่างเชื่อมเหล็ก ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน จ.ปทุมธานี โดยจะให้ค่าแรงวันละ 600 บาท ตนจึงรับปาก และได้พาภรรยาเดินทางมาทำงานด้วย โดยตลอดระยะเวลา 2 – 3 เดือนที่ทำงานมา นายจ้างให้ตนเบิกเงินได้วันละ 200 บาท ส่วนที่เหลือจะให้ตนเบิกสิ้นเดือน แต่พอถึงสิ้นเดือน ก็จะโดนเลื่อนมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา คุณหมอ จาก รพ.สมเด็จพระเจ้าตากสิน จ.ตาก ได้โทรศัพท์มาแจ้งให้ตนพาภรรยากลับมาตรวจดูอาการเนื่องจากพบว่าปอดมีอาการแย่ลง เชื้อดื้อยา
ตนจึงแจ้งขอเบิกเงินกับทางนายจ้างเพื่อพาภรรยากลับ จ.ตาก เพื่อไปรักษาตัว นายจ้างก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา นายจ้างแจ้งว่าจะพาตนและภรรยามาส่งขึ้นรถ เพื่อกลับบ้าน โดยพาตนมาส่งไว้ที่ข้างทางรถไฟ ด้านหลัง ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต พร้อมกับบอกให้ตนยืนรอ และบอกว่าจะไปกดเงินค่าแรงมาให้ ตนยืนรอตั้งแต่ 4 โมงเย็น จนถึง 2 ทุ่ม นายจ้างก็ไม่กลับมา โทรศัพท์ไปหาก็ถูกตัดสาย ตนไม่รู้จะทำยังไง จึงอุ้มภรรยา เดินร้องไห้มาตามรางรถไฟ จนกระทั่ง ทีมสายไหมต้องรอด เข้ามาให้ความช่วยเหลือ
ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เคสของคุณลุง – คุณป้า ต้องแยกออกเป็น 3 ส่วน คือ
- การรักษาพยาบาล เบื้องต้นตนได้ประสานไปยัง ท่าน รศ.ดร.ภญ.ยุพดี ศิริสินสุข รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เพื่อขอให้ประสาน รพ.ใน จ.ปทุมธานี ในการตรวจรักษาผู้ป่วย
- หากคุณลุงประสงค์จะพาคุณป้ากลับไปรักษาตัวที่บ้าน ใน จ.ตาก ทีมงานจะดำเนินประสานส่งตัวกลับไปยัง จ.ตาก ให้ โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมด เนื่องจากทั้งลุงและป้ามีเงินติดตัวเพียง 140 บาท
- เรื่องนายจ้างไม่จ่ายค่าแรง ทีมงานสายไหมต้องรอด จะประสานไปยัง กระทรวงแรงงาน เข้าดำเนินการเอาผิดกับนายจ้าง พร้อมกับขอให้ กระทรวงแรงงาน ช่วยจัดหางานที่เหมาะสมให้คุณลุงได้ทำต่อไป
โดยหลังจากพูดคุย ทั้งคุณลุงและคุณป้า มีความประสงค์จะกลับไปรักษาตัวที่ จ.ตาก ทีมงานสายไหมต้องรอด จึงพาทั้ง 2 ท่าน เดินทางไปยัง บขส.รังสิต เพื่อติดต่อซื้อตั๋วเดินทางกลับไปรักษาตัวที่ จ.ตาก โดยได้ตั๋วเดินทางเที่ยวค่ำของวันที่ 13 เม.ย.65 ทีมสายไหมต้องรอด จึงช่วยออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมด จากนั้นได้พาลุงกับป้า เดินทางมายังศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม เพื่อพักค้างคืน 1 คืน ก่อนจะเดินทางกลับ จ.ตาก ในช่วงค่ำของวันนี้ .-สำนักข่าวไทย