เตือนประชาชนเดินทางช่วงปีใหม่ ดื่มไม่ขับ งดรวมกลุ่ม เลี่ยงที่แออัด

สบยช.29 ธ.ค.- สบยช. กรมการแพทย์ เตือนประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่ ดื่มต้องไม่ขับโดยเด็ดขาด งดการรวมกลุ่ม หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในสถานที่แออัด เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19


 นายแพทย์มานัส โพธาภรณ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่จะมีวันหยุดยาว  อาจมีการรวมกลุ่มเพื่อดื่มสังสรรค์ รวมไปถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างการเดินทาง  ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง  จะทำให้ผู้ดื่มขาดสติ ควบคุมตัวเองไม่ได้ อาจเป็นสาเหตุของการทะเลาะวิวาท หรือเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สูญเสียทรัพย์สิน บาดเจ็บและร้ายแรงที่สุดอาจถึงขั้นเสียชีวิต  หากเมาแล้วขับจะมีโทษตามกฎหมาย โดยจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งพักการใช้ใบอนุญาตขับรถไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หากเมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต มีโทษจำคุก 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที ทั้งนี้ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังยังคงประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 การรวมกลุ่ม ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อมากยิ่งขึ้น ยิ่งในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายลดลงทำให้เม็ดเลือดขาวทำงานฆ่าเชื้อโรคในร่างกายได้ไม่เต็มที่ มีโอกาสติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงการติดเชื้อ COVID -19 ด้วย

 นายแพทย์สรายุทธ์ บุญชัยพานิชวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลปีใหม่ ย้ำเตือนทุกคนที่ต้องขับขี่ยานพาหนะเพื่อกลับภูมิลำเนา หรือเดินทางท่องเที่ยว ต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ เตรียมความพร้อมของรถโดยการตรวจเช็คสภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ เดินทางด้วยความระมัดระวัง มีสติรอบคอบ มีน้ำใจบนท้องถนน หากรู้สึกอ่อนเพลียควรหยุดแวะพักในจุดพักรถและต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหรือระหว่างการขับรถโดยเด็ดขาด พร้อมทั้งดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID – 19 โดยการสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ งดการรวมกลุ่ม หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่คนแออัด ย้ำคนในครอบครัวรวมถึงเพื่อนหรือคนใกล้ชิด ต้องดูแลซึ่งกันและกัน คอยบอกคอยเตือน หากมีการดื่มต้องไม่ให้ขับขี่โดยเด็ดขาดเพราะอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สูญเสียทรัพย์ บาดเจ็บ ร้ายแรงที่สุดอาจถึงขั้นเสียชีวิต เท่านี้ก็จะสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย หากประสบปัญหาเกี่ยวกับสุรา หรือยาและสารเสพติด สามารถขอรับคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนยาเสพติด 1165 หรือที่สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์ จังหวัดปทุมธานี และโรงพยาบาลธัญญารักษ์ในส่วนภูมิภาค ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา และปัตตานี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.pmindat.go.th


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน