สงสัยติดเชื้อโอไมครอน 14 ราย ยืนยันผล 9 ราย

สธ.15 ธ.ค.-ไทยพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 14 ราย ยืนยันผล 9 ราย กรมวิทย์ฯ มั่นใจสูตรการตรวจหาเชื้อ สามารถตรวจจับได้แม่นยำ แนะประชาชนเข้ารับวัคซีน ตามกรอบเวลาที่สาธารณสุขแนะนำ


สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับ องค์การอนามัยโลก จัดเสวนาวิชาการออนไลน์ “เปิดข้อมูล(ไม่) ลับ กับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เผยทุกข้อมูลเรื่องวัคซีนโควิด-19 รับมืออย่างไรเมื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ มาเยือน” โดยมีนายแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ จากกระทรวงสาธารณสุข มาให้ความรู้ข้อมูล เกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการตรวจเชื้อโควิด “โอไมครอน”ว่า ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยเคยจะลดการตรวจ RT-PCR โดยจะให้ตรวจเฉพาะ ATK เฉพาะกลุ่มเดินทางเข้ามาแบบ Test and Go แต่เมื่อมีเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเข้ามา จึงคงมาตรการตรวจ RT-PCR ตามเดิม อย่างไรก็ตามในการตรวจโควิดนั้น ปัจจุบันมีแล็บ 465 แล็บทั่วประเทศที่ให้การรับรองมาตรฐาน แต่การตรวจสายพันธุ์ดำเนินการได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่งทั่วประเทศ ส่วนกลางและมหาวิทยาลัยบางแห่ง ซึ่งถือว่าครอบคลุมมากพอสมควร เนื่องจากเรามีการตรวจมาตั้งแต่เริ่มระบาด ส่วนการตรวจด้วย RT-PCR ไม่ได้เป็นปัญหา และตรวจด้วย ATK ก็ยังสามารถตรวจสอบว่าติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อได้ แต่หากจะตรวจหาสายพันธุ์ต้องเข้าสู่กระบวน การตรวจหา Whole genome sequencing ด้วยวิธีการตรวจสอบอย่างละเอียด ล่าสุดกรมวิทย์ฯ ได้มีการตรวจเพิ่มเติม ข้อมูล ณ วันที่ 15 ธ.ค.64 พบผู้เข้าข่ายติดเชื้อโอไมครอน14ราย ยืนยันด้วยวิธีWhole genome sequencing ถอดรหัสพันธุกรรมแล้ว 9 ราย


“การตรวจหาสายพันธุ์ในผู้ติดเชื้อจะสุ่มตรวจจากคนไข้อาการหนัก ชายแดน ผู้เดินทางจากต่างประเทศทุกราย เกิดคลัสเตอร์แปลกๆและไม่รู้สาเหตุ เป็นต้น โดยตรวจสัปดาห์ละเป็นพัน ถ้ามีเข้ามาก็จะเจอ ดังนั้น วันนี้ยังเป็นระยะแรกของประเทศไทย ที่เริ่มมีสายพันธุ์โอไมครอนเข้ามา แต่ไม่ต้องตกใจ ยืนยันสูตรการตรวจหาสายพันธุ์โอไมครอน ของกรมวิทยาศาสตร์ฯ สามารถดักเชื้อโอไมครอนได้แน่นอน ถ้าเจอและจำกัดวงของการแพร่ระบาดได้เร็ว ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร และสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยขณะนี้เป็นการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ดังนั้นวัคซีนที่ฉีดอยู่ขณะนี้สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว

ด้าน พญ.ปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พิลาศ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมด้านวัคซีน เมื่อเกิดการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน ว่า ปัจจุบันวัคซีนทุกชนิดที่ใช้กันทั่วโลก จะช่วยป้องกันการป่วยหนักเสียชีวิตได้ โดยไทยมีผลการศึกษาต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ผลศึกษา 90 ++ ทุกวัคซีน ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้ ซึ่งวัคซีนทุกชนิดยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100 เปอร์เซนต์ และเมื่อเวลาผ่านไป ภูมิจะ ตกลงมา ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีการกระตุ้นซ้ำอีกครั้ง

สำหรับผลการฉีดบูสเตอร์ สัปดาห์แรกวัดภูมิคุ้นกันได้ 90% ผ่านไป 1 เดือนเหลือประมาณ 80% ซึ่งเป็นผลที่น่าพอใจ ดังนั้นกลุ่มที่ฉีดซิโนแวคหรือซิโนฟาร์มสามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้แล้ว ส่วนกลุ่มที่ฉีดแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนที่ป้องกันการป่วยหนักได้อย่างดี แอสตราฯ 2 เข็มป้องกันการติดเชื้อได้ 70% ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับเข็มกระตุ้น หากได้รับเข็มกระตุ้นภูมิจะขึ้นสูง 80-90 % ด้านประชาชนได้รับ mRna 2เข็มยังมีภูมิคุ้มกันสูงอยู่ ดังนั้นจึงยังไม่ควรฉีดกระตุ้น อาจจะต้องรอประมาณ 6เดือนขึ้นไป อย่างไรก็ตามในช่วงที่เกิดการระบาดของเดลตาและอาจจะเกิดการระบาดของโอไมครอนจำเป็นจะต้องได้รับเข็ม 3 อย่างรวดเร็ว หากประชาชนฉีดซิโนแวค 2 เข็ม หรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม สามารถเข้ารับเข็มกระตุ้นด้วย แอสตราเซเนกา หรือไฟเซอร์ ได้เลย ส่วนผู้ที่ได้รับแอสตราเซเนกา 2 เข็ม สามารถเข้ารับเข็มกระตุ้นด้วยไฟเซอร์หลังจากเข็ม 2 เป็นระยะเวลา 3 เดือน


สำหรับสถานการณ์วัคซีนในขณะนี้ และในปี 2565 ไทยมีวัคซีนจำนวนมากขึ้น มี หลายชนิด หลายสูตร โดย ในปีหน้า มีการสั่งวัคซีน อีกประมาณ 120 ล้านโดส เซ็น สัญญาไปแล้ว 90 ล้านโดส

นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิและรองผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร เปิดเผยถึงความจำในการฉีดวัคซีน เร่งสร้างภูมิคุ้มกัน ในกลุ่มเปราะบางคือกลุ่ม 608 ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้น ควรได้รับการการฉีดวัคซีนเข็มเสริม เป็นเข็ม 3 ที่เร็วขึ้น ( ประมาณ 1เดือน) จะทำให้ภูมิต้านทานดีขึ้น ก่อนจะรอเป็นเข็มกระตุ้น ซึ่งกลุ่มเปราะบางที่ควรได้รับเข็มเสริม คือกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง โรคเลือด กินยากดภูมิ ปลูกถ่ายอวัยวะ 2 ปี แรก ได้ยากดภูมิ , กลุ่มผู้ป่วยความต้านทานต่ำ รุนแรง ล้างไตต่อเนื่อง กลุ่มผู้ป่วยเอดส์ เพื่อให้ร่างกายตอบสนองได้เหมือนคนร่างกายปกติ

คำแนะนำ หากได้รับวัคซีนเชื้อตาย ครบ 2 เข็มแล้ว ให้รีบมารับวัคซีน ชนิด mRNA รวม 3 เข็ม ห่างกันทุก 1 เดือน หากได้วัคซีนแอสตราฯ 2เข็มให้รีบมารับวัคซีน ชนิด m RNA 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน รวมถึงการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก