สงสัยติดเชื้อโอไมครอน 14 ราย ยืนยันผล 9 ราย

สธ.15 ธ.ค.-ไทยพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 14 ราย ยืนยันผล 9 ราย กรมวิทย์ฯ มั่นใจสูตรการตรวจหาเชื้อ สามารถตรวจจับได้แม่นยำ แนะประชาชนเข้ารับวัคซีน ตามกรอบเวลาที่สาธารณสุขแนะนำ


สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับ องค์การอนามัยโลก จัดเสวนาวิชาการออนไลน์ “เปิดข้อมูล(ไม่) ลับ กับสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เผยทุกข้อมูลเรื่องวัคซีนโควิด-19 รับมืออย่างไรเมื่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ มาเยือน” โดยมีนายแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ จากกระทรวงสาธารณสุข มาให้ความรู้ข้อมูล เกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการตรวจเชื้อโควิด “โอไมครอน”ว่า ก่อนหน้านี้ ประเทศไทยเคยจะลดการตรวจ RT-PCR โดยจะให้ตรวจเฉพาะ ATK เฉพาะกลุ่มเดินทางเข้ามาแบบ Test and Go แต่เมื่อมีเชื้อโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเข้ามา จึงคงมาตรการตรวจ RT-PCR ตามเดิม อย่างไรก็ตามในการตรวจโควิดนั้น ปัจจุบันมีแล็บ 465 แล็บทั่วประเทศที่ให้การรับรองมาตรฐาน แต่การตรวจสายพันธุ์ดำเนินการได้ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 15 แห่งทั่วประเทศ ส่วนกลางและมหาวิทยาลัยบางแห่ง ซึ่งถือว่าครอบคลุมมากพอสมควร เนื่องจากเรามีการตรวจมาตั้งแต่เริ่มระบาด ส่วนการตรวจด้วย RT-PCR ไม่ได้เป็นปัญหา และตรวจด้วย ATK ก็ยังสามารถตรวจสอบว่าติดเชื้อหรือไม่ติดเชื้อได้ แต่หากจะตรวจหาสายพันธุ์ต้องเข้าสู่กระบวน การตรวจหา Whole genome sequencing ด้วยวิธีการตรวจสอบอย่างละเอียด ล่าสุดกรมวิทย์ฯ ได้มีการตรวจเพิ่มเติม ข้อมูล ณ วันที่ 15 ธ.ค.64 พบผู้เข้าข่ายติดเชื้อโอไมครอน14ราย ยืนยันด้วยวิธีWhole genome sequencing ถอดรหัสพันธุกรรมแล้ว 9 ราย


“การตรวจหาสายพันธุ์ในผู้ติดเชื้อจะสุ่มตรวจจากคนไข้อาการหนัก ชายแดน ผู้เดินทางจากต่างประเทศทุกราย เกิดคลัสเตอร์แปลกๆและไม่รู้สาเหตุ เป็นต้น โดยตรวจสัปดาห์ละเป็นพัน ถ้ามีเข้ามาก็จะเจอ ดังนั้น วันนี้ยังเป็นระยะแรกของประเทศไทย ที่เริ่มมีสายพันธุ์โอไมครอนเข้ามา แต่ไม่ต้องตกใจ ยืนยันสูตรการตรวจหาสายพันธุ์โอไมครอน ของกรมวิทยาศาสตร์ฯ สามารถดักเชื้อโอไมครอนได้แน่นอน ถ้าเจอและจำกัดวงของการแพร่ระบาดได้เร็ว ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร และสถานการณ์การติดเชื้อในประเทศไทยขณะนี้เป็นการระบาดของสายพันธุ์เดลตา ดังนั้นวัคซีนที่ฉีดอยู่ขณะนี้สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าว

ด้าน พญ.ปิยนิตย์ ธรรมาภรณ์พิลาศ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมด้านวัคซีน เมื่อเกิดการระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน ว่า ปัจจุบันวัคซีนทุกชนิดที่ใช้กันทั่วโลก จะช่วยป้องกันการป่วยหนักเสียชีวิตได้ โดยไทยมีผลการศึกษาต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ผลศึกษา 90 ++ ทุกวัคซีน ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้ ซึ่งวัคซีนทุกชนิดยังไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100 เปอร์เซนต์ และเมื่อเวลาผ่านไป ภูมิจะ ตกลงมา ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องมีการกระตุ้นซ้ำอีกครั้ง

สำหรับผลการฉีดบูสเตอร์ สัปดาห์แรกวัดภูมิคุ้นกันได้ 90% ผ่านไป 1 เดือนเหลือประมาณ 80% ซึ่งเป็นผลที่น่าพอใจ ดังนั้นกลุ่มที่ฉีดซิโนแวคหรือซิโนฟาร์มสามารถเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้แล้ว ส่วนกลุ่มที่ฉีดแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนที่ป้องกันการป่วยหนักได้อย่างดี แอสตราฯ 2 เข็มป้องกันการติดเชื้อได้ 70% ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างการรณรงค์ให้ประชาชนเข้ารับเข็มกระตุ้น หากได้รับเข็มกระตุ้นภูมิจะขึ้นสูง 80-90 % ด้านประชาชนได้รับ mRna 2เข็มยังมีภูมิคุ้มกันสูงอยู่ ดังนั้นจึงยังไม่ควรฉีดกระตุ้น อาจจะต้องรอประมาณ 6เดือนขึ้นไป อย่างไรก็ตามในช่วงที่เกิดการระบาดของเดลตาและอาจจะเกิดการระบาดของโอไมครอนจำเป็นจะต้องได้รับเข็ม 3 อย่างรวดเร็ว หากประชาชนฉีดซิโนแวค 2 เข็ม หรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม สามารถเข้ารับเข็มกระตุ้นด้วย แอสตราเซเนกา หรือไฟเซอร์ ได้เลย ส่วนผู้ที่ได้รับแอสตราเซเนกา 2 เข็ม สามารถเข้ารับเข็มกระตุ้นด้วยไฟเซอร์หลังจากเข็ม 2 เป็นระยะเวลา 3 เดือน


สำหรับสถานการณ์วัคซีนในขณะนี้ และในปี 2565 ไทยมีวัคซีนจำนวนมากขึ้น มี หลายชนิด หลายสูตร โดย ในปีหน้า มีการสั่งวัคซีน อีกประมาณ 120 ล้านโดส เซ็น สัญญาไปแล้ว 90 ล้านโดส

นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิและรองผู้อำนวยการสถาบันบำราศนราดูร เปิดเผยถึงความจำในการฉีดวัคซีน เร่งสร้างภูมิคุ้มกัน ในกลุ่มเปราะบางคือกลุ่ม 608 ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ดังนั้น ควรได้รับการการฉีดวัคซีนเข็มเสริม เป็นเข็ม 3 ที่เร็วขึ้น ( ประมาณ 1เดือน) จะทำให้ภูมิต้านทานดีขึ้น ก่อนจะรอเป็นเข็มกระตุ้น ซึ่งกลุ่มเปราะบางที่ควรได้รับเข็มเสริม คือกลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง โรคเลือด กินยากดภูมิ ปลูกถ่ายอวัยวะ 2 ปี แรก ได้ยากดภูมิ , กลุ่มผู้ป่วยความต้านทานต่ำ รุนแรง ล้างไตต่อเนื่อง กลุ่มผู้ป่วยเอดส์ เพื่อให้ร่างกายตอบสนองได้เหมือนคนร่างกายปกติ

คำแนะนำ หากได้รับวัคซีนเชื้อตาย ครบ 2 เข็มแล้ว ให้รีบมารับวัคซีน ชนิด mRNA รวม 3 เข็ม ห่างกันทุก 1 เดือน หากได้วัคซีนแอสตราฯ 2เข็มให้รีบมารับวัคซีน ชนิด m RNA 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน รวมถึงการฉีดวัคซีนสูตรไขว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อยุธยาอ่วม! มัสยิด-บ้านริมน้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมสูง

อยุธยา 22 ก.ย. – จ.พระนครศรีอยุธยา อ่วม! น้ำท่วมขยายวงกว้างครอบคลุม 8 อำเภอ ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะมัสยิด ระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนป่าสักชลฯ เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำอีกตั้งแต่ 24 ก.ย.นี้ เตือนน้ำล้นตลิ่งพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อน สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ขยายวงกว้างครอบคลุม 8 อำเภอ 103 ตำบล 626 หมู่บ้าน รวมกว่า 31,227 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ โดยพื้นที่ ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะมัสยิดดารุซซุนนะห์ ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ถูกน้ำเอ่อท่วมและระดับน้ำยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ชาวบ้านสัญจรลำบาก บางจุดต้องใช้เรือ ต้องเดินลุยน้ำเข้า-ออกบ้านและมัสยิด ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง เร่งนำไม้มาทำสะพานชั่วคราว ให้ประชาชนเดินเข้ามัสยิดเพื่อประกอบพิธีละหมาดได้ พร้อมเร่งตัดต้นไม้และกำจัดวัชพืช ให้เรือสัญจรได้สะดวก และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำเจ้าพระยายังมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง นายธีรยุทร อายุ 43 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า บ้านถูกน้ำท่วมเกือบถึงเอว ลำบากมาก […]

ร่างแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จแล้ว นายกฯ ลุกแจงเอง-ไร้องครักษ์

พรรคภูมิใจไทย 22 ก.ย.- ร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาล “อนุทิน” เสร็จแล้ว มี 8 หน้า นายกฯ ลุกขึ้นชี้แจงเอง-ไม่มีองครักษ์ หลังเพื่อไทยจัด 4 ขุนพลเตรียมชำแหละ แหล่งข่าวจากพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายของรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่า ขณะนี้ร่างคำแถลงนโยบายรัฐบาลเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนทั้งหมด 8 หน้า โดยนโยบายทั้งหมดจะเน้น 4 ด้าน ประกอบด้วย เศรษฐกิจปากท้อง ความมั่นคงและชายแดน ปัญหาสังคม ภัยธรรมชาติและการเยียวยา โดยนโยบายด้านเศรษฐกิจ จะเน้นเรื่องการลดค่าครองชีพแก่ประชาชน เช่น นโยบายคนละครึ่ง ซึ่งขณะนี้เรื่องระบบการใช้-วงเงินอยู่ระหว่างการพูดคุย การลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ลดค่าทางด่วน รวมถึงอาจจะมีการปรับนโยบายที่พรรคภูมิใจไทยเคยหาเสียงไว้ เช่น โซลาร์รูฟท็อป เป็นโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ เพื่อให้เข้ากับการทำงานของอายุรัฐบาล 4 เดือน นอกจากนี้จะมีการหยิบนโยบายของพรรคเพื่อไทย มา เช่น หวยเกษียณ โดยอาจจะมีการปรับรูปแบบ ส่วนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย […]

“มทภ.2” เผยเขมรไม่มีท่าทีถอนอาวุธหนัก ลั่นเลิกคุยหากยังยั่วยุ

22 ก.ย.- “มทภ.2” ขอบคุณนายกฯ ไฟเขียวแก้ปัญหาชายแดน เผยเขมรไม่มีท่าทีถอนอาวุธหนัก มีแต่เพิ่มกำลัง ลั่นเลิกคุยหากยังยั่วยุ บินโดรน-ฝังทุ่นระเบิด ขณะที่กองทัพภาคที่ 1 ถก RBC สัปดาห์นี้ ส่วนด้านจันทบุรี – ตราด ยังไม่กำหนดวัน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การนำผลประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) เมื่อ 10 ก.ย.68 ไปสู่การปฏิบัติ โดยที่ประชุมกำหนด ให้มีการถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดน กลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการจีบีซี และอาร์บีซี จะหารือกันภายใน 3 สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนดำเนินการ และเริ่มเคลื่อนย้ายกำลังตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยให้คณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) มาร่วมสังเกตการณ์ ล่าสุด พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยความคืบหน้าการนัดประชุมคณะกรรมชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) จัดทำแผนดำเนินการถอนอาวุธหนัก และยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดนว่า ฝ่ายกัมพูชายังไม่มีท่าทีที่จะดำเนินการ มีแต่จะเพิ่มกำลังในพื้นที่ ซึ่งยังไม่ชัดว่าจะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้หรือไม่ และยังไม่ได้มีการกำหนดการประชุมRBC คาดว่าจะเป็นต้นเดือน ต.ค.นี้ […]

“อนุทิน” ขนทีมเศรษฐกิจถกสมาคมธนาคารไทย

สมาคมธนาคารไทย 22 ก.ย.- “อนุทิน” ขนทีมเศรษฐกิจถกสมาคมธนาคารไทย ชี้เป็นหัวใจระบบเศรษฐกิจ บอกเคยเป็น Banker มาก่อน ระบุความเห็นเอกชนเป็นประโยชน์ภายใต้เป้าหมายเดียวกันคือดันไทยก้าวสู้ศูนย์กลางอาเซียน-ภูมิภาค นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ประกอบด้วย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวรภัค ธันยาวงษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือกับสมาคมธนาคารไทย โดยมีนายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย ให้การต้อนรับ จากนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการหารือในหัวข้อ “ฝ่าวิกฤต พลิกอนาคตเศรษฐกิจไทย ด้วยพลวัตใหม่” ว่า วันนี้ตนและทีมงานเศรษฐกิจต้องขอบคุณกับการต้อนรับที่อบอุ่น ตั้งใจมาพบกับทุกท่านหลังจากที่มีความชัดเจน ในการจัดตั้งรัฐบาล และตนได้ใช้ความพยายามเป็นอย่างยิ่ง ในการคัดสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มาบริหารงานด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลของตน ซึ่งพวกท่านน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว และวันนี้มีความจำเป็นต้องพบปะ สถาบันหลัก ทางเศรษฐกิจโดยสัปดาห์ที่แล้วได้เดินทางไปที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากมาย เพราะตนก็ออกจากวงการนี้ไปนาน เมื่อไปถึงสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ก็ได้พบกับผู้ประกอบการ ที่เป็นมืออาชีพ […]