ย้ำหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าช่วยไทยผ่านโควิด

กทม. 10 ธ.ค.- “กต.-สธ.-สปสช.” จัดงาน UHC Day ปี 64 ย้ำหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าช่วยไทยผ่านสถานการณ์โควิดได้ดี

วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล (UHC Day) ปี 2564 ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ลงทุนในระบบสุขภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน ประเทศไทยย้ำหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าช่วยไทยผ่านสถานการณ์โควิดได้ดี พร้อมร่วมมือกับนานาชาติแบ่งปันประสบการณ์ของไทยและผลักดันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้เกิดขึ้นทั่วโลก และพัฒนาหลักประกันสุขภาพของไทยเพื่อเป็นเครื่องมือในการรับมือกับการแพร่ระบาดโรคโควิดครั้งใหม่


เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมจัดงานวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล ณ กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีหน่วยงานจากไทยและต่างประเทศเข้าร่วมจำนวนมาก รวมทั้งผู้แทนจากองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency: JICA) ประจำประเทศไทย

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในระหว่างการเปิดงานว่า สหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 12 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล เพื่อสร้างความตระหนักให้นานาประเทศร่วมกันผลักดันให้ประชากรโลกเข้าถึงบริการด้านสุขภาพอย่างทั่วถึง


นายดอน กล่าวว่า ในช่วงเวลาที่โลกเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 นี้ ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างถ้วนหน้า และช่วยให้เราผ่านสถานการณ์โควิดไปได้ การมีระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าได้เพิ่มการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็น ทั้งการรักษาและฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แก่คนไทยและชาวต่างชาติโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติและสถานะการย้ายถิ่นฐาน

อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างที่เราต้องพัฒนากันต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนทุกคนจะเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพมาตรฐานที่ดีที่สุดเมื่อยามจำเป็น ซึ่งระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าถือเป็นกุญแจสำคัญในการปิดช่องว่างเหล่านี้ได้ ทั้งในด้านการรับรองสิทธิสุขภาพ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพดีและความเป็นอยู่ที่ดีสำหรับทุกคน ประสบการณ์สองทศวรรษของประเทศไทยแสดงให้เห็นว่าระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องเป็นประเทศที่ร่ำรวย แต่ด้วยเจตจำนงทางการเมืองที่เข้มแข็ง ความมุ่งมั่นในนโยบายระยะยาว การลงทุนอย่างต่อเนื่อง ความมุ่งมั่นและการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วน

นายดอน กล่าวว่า เนื่องในวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล ประเทศไทยยินดีที่จะแบ่งปันประสบการณ์ ความสำเร็จ และความท้าทายในการดำเนินการตามแผนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทย และประเทศไทยจะส่งเสริมการดำเนินการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals) เกี่ยวกับสุขภาพ เราจะส่งเสริมการรวมตัวของระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของแต่ละประเทศเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือในการรับมือกับการแพร่ระบาดโรคโควิดครั้งใหม่ ในขณะที่เรามุ่งมั่นที่จะฟื้นฟูและสร้างกลับมาให้ดีขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก การสนับสนุนจากรัฐบาลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสิ่งสำคัญ เราจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกท่านในการขับเคลื่อนวาระการประชุมหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากลในปี 2564 นี้ มีประเด็นของการรณรงค์คือ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ลงทุนในระบบสุขภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน เพื่อสนับสนุนประเทศต่าง ๆ ให้มีการลงทุนด้านสุขภาพอย่างเพียงพอ ให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและครบวงจรลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งนี้ ในช่วงการระบาดของโรคโควิด 19 ระบบหลักประกันสุขภาพของประเทศไทยแสดงให้เห็นว่า เป็นระบบหลักประกันสุขภาพสำหรับทุกคน ช่วยให้ประชาชนเข้าถึงบริการตรวจหาเชื้อโควิดทั้ง RT-PCR ATK การรักษาพยาบาล และการรับวัคซีนป้องกันโรคทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากจะไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าพวกเราทุกคนจะปลอดภัยทั้งหมด

นายอนุทิน กล่าวว่า ประเทศไทยดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพมา 2 ทศวรรษ ได้รับการยอมรับความสำเร็จและพิสูจน์ในเวทีระดับโลกว่า ระบบหลักประกันสุขภาพไม่ใช่เป้าหมายที่เกินฝัน เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ช่วยให้คนเข้าถึงการรักษา ลดภาระค่ารักษาพยาบาล โดยเฉพาะโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง เช่น โรคมะเร็ง โรคไต การฟอกเลือด ช่วยปกป้องประชาชนและส่งเสริมการเข้าถึงระบบสุขภาพ สิ่งเหล่านี้เป็นผลของการลงทุนในระบบสุขภาพของประเทศไทย ทั้งนี้ การส่งเสริมและสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ระบบหลักประกันสุขภาพ ไม่ใช่แค่เพื่อการต่อสู้กับโรคโควิด 19 แต่เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)

“เราเชื่อว่าการส่งเสริมระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าและการเสริมสร้างให้ดียิ่งขึ้นจะช่วยให้เราไม่เพียงแต่ต่อสู้กับโรคระบาด แต่ยังขับเคลื่อนไปสู่การตระหนักรู้และปกป้องสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รัฐบาลไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง มุ่งมั่นที่จะนำประเทศไทยผ่านวิกฤตสุขภาพนี้อย่างชาญฉลาด เรามุ่งมั่นที่จะให้ความคุ้มครองสุขภาพถ้วนหน้า ไม่ทิ้งสุขภาพของใครไว้ข้างหลัง ลงทุนในระบบสุขภาพสำหรับทุกคน” นายอนุทิน กล่าว

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของประเทศไทย วางอยู่บนพื้นฐานของ 3 หลักการ ได้แก่ ความเท่าเทียม ประสิทธิภาพ และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

“ตลอดระยะเวลาเกือบสองทศวรรษของการมีหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เราได้พิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นแล้วว่า หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเป็นนโยบายของภาครัฐที่สำคัญ เกิดประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศอย่างแท้จริง ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง ครัวเรือนมีความมั่นคงด้านสุขภาพและเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ไม่ต้องล้มละลายจากค่ารักษาพยาบาล”

นพ.จเด็จ กล่าวเพิ่มเติมว่าประเทศไทยมีบทบาทสำคัญ ในการผลักดันให้เกิดวันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล ในวันที่ 12 ธันวาคม ของทุกปี เพื่อให้นานาประเทศตระหนักถึงความสำคัญของหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และผลักดันให้สร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อดูแลประชากรในประเทศของตนเอง โดยในปี พ.ศ. 2555 สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้รับรองมติครั้งประวัติศาสตร์โดยเรียกร้องให้ทุกประเทศเร่งดำเนินการไปสู่การประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือ UHC เป็นลำดับความสำคัญที่สำคัญสำหรับการพัฒนาระหว่างประเทศ และตามมติในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2560 ได้รับรองให้วันที่ 12 ธันวาคม ของทุกปี เป็น “วันหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสากล” หรือ Universal Health Coverage Day: UHC Day เพื่อผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตระหนักถึงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเพื่อดูแลสุขภาพประชากรในประเทศของตนเอง

นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ในปี 2564 นี้ มีประเด็นการรณรงค์คือ Leave No One’s Health Behind, Invest in Health System for All หรือไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ลงทุนในระบบสุขภาพเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน เพื่อให้นานาประเทศตระหนักรับรู้และกระตุ้นให้ประเทศต่างๆ ขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าในประเทศตนให้ประชาชนสุขภาพดี รวมถึงคุ้มครองทุกคนภายใต้สถานการณ์โรคโควิด 19 โดยมุ่งมั่นให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกตระหนักถึงการเร่งสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้บรรลุภายในปี 2573 หรือ UHC2030 ตามคำรับรองปฏิญญาหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าจากที่ประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชนประจำปี 2562 เมื่อเดือนกันยายน 2562 และมุ่งให้ประชาชนมีสุขภาพที่ดีที่เป็นหนึ่งในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs)

ทั้งนี้ประเทศไทยนับว่าประสบความสำเร็จในการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยเริ่มกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในปี 2545 มีการประกาศเป็นนโยบายชัดเจนโดยรัฐบาลและพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพและมาตรฐานได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึง จนเป็นต้นแบบให้กับนานาประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ว่าฯ สงขลา จัดคิวนายอำเภอรับ-ส่ง “เดชอิศม์” ทุกสัปดาห์

กทม. 18 ส.ค.-ผู้ว่าฯ สงขลา ทำหนังสือด่วน จัดคิวนายอำเภอ เวียนต้อนรับ-ส่ง “เดชอิศม์” สนามบินหาดใหญ่ ทุกสัปดาห์ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สข 0017.3/17839 เรื่อง ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียน นายอำเภอเมืองสงขลา ด้วยจังหวัดสงขลาได้รับแจ้งว่า นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มีกำหนดเดินทางมาราชการในพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อตรวจราชการสำคัญตามนโยบายรัฐบาล และมีกำหนดเดินทางกลับไปปฏิบัติราชการ ณ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 18 สิงหาคม 2568 โดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 3103 เวลา 08.25-09.50 น. เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จังหวัดสงขลาจึงขอให้ท่านดำเนินการ ดังนี้ 1. เชิญนายอำเภอเมืองสงขลา ร่วมส่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ณ ห้องรับรอง ท่าอากาศยานหาดใหญ่ […]

ดราม่า “ไข่เจียวปู 4,000” ถึงหูพาณิชย์

กรุงเทพฯ​ 18 ส.ค.​-“จตุพร” สั่งกรมการค้าภายในตรวจสอบประเด็น​ดราม่า​ “ไข่​เจียวปู” ร้าน​ Michelin Guide สูงถึง​จานละ 4,000 บาท​ จาก​ที่​แจ้งราคาในเมนู​ 1,500​ บาท ย้ำ​ไม่ตรงปกไม่ได้ กรณี “พีชชี่” ยูทูบเบอร์ชื่อดัง โพสต์เล่าประสบการณ์สั่งไข่เจียวปูร้านดังราคาเมนู 1,500 บาท แต่ถูกเก็บจริง 4,000 บาท กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ ล่าสุด นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จะมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้​ยังไม่ได้รับรายละเอียด​ แต่โดยหลักการแล้ว ราคาที่เรียกเก็บจากผู้บริโภคต้องตรงกับราคาที่ระบุในเมนู หาก “ไม่ตรงปก” จะบั่นทอนความเชื่อมั่นทางการค้า “การค้าขายจะยั่งยืนได้ต้องอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจ หากผู้บริโภครู้สึกว่า​ ราคาไม่ตรงกับที่เห็นในเมนู ย่อมเสียความรู้สึก” นายจตุพรกล่าว เรื่องนี้เริ่มจาก “พีชชี่” โพสต์ผ่าน X เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ระบุว่าไปทานไข่เจียวปู ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยเพียงไม่กี่แห่งที่ได้รับการบรรจุใน Michelin Guide โดยเมนูระบุราคา 1,500 […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

เสียงเรียกแห่งความอร่อย…ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วโบราณเชียงใหม่

เชียงใหม่ 17 ส.ค. – โดดเด่นไม่เหมือนใคร “ก๋วยเตี๋ยวแต้จิ๋วสูตรโบราณ” ของอาแปะตี๋อ้วน ที่แต่งกายแบบล้านนาโบราณ เดินหาบขายตามตลาดและย่านชุมชนใน จ.เชียงใหม่ มานานกว่า 10 ปีแล้ว โดยใช้การตีกังสดาล หรือระฆังวงเดือน เรียกลูกค้า สะดุดตาผู้พบเห็น หลายคนติดใจในรสชาติและราคาที่ย่อมเยา จนมีลูกค้ามากมาย .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

หลักฐานชัด! ทหารกัมพูชาลอบวางทุ่น PMN-2 ภูมะเขือ

19 ส.ค.- กองทัพเรือพบหลักฐานสำคัญ ยืนยันทหารกัมพูชาลักลอบใช้ทุ่นระเบิด PMN-2 บริเวณภูมะเขือ เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ชุดเก็บกู้กวาดล้างที่ 1 หน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมกองทัพเรือ (นปท.ทร.) ซึ่งสนับสนุนการปฏิบัติงานเก็บกู้และกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่ภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อย ร.132 พัน.13 (ฐานเหนือเมฆ) ตรวจพบโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชาที่ทิ้งไว้ในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบภายในเครื่อง พบคลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ทหารกัมพูชากำลังถือทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 พร้อมทั้งมีการบันทึกเสียงเป็นภาษาเขมร คาดว่าเป็นการสาธิตวิธีการใช้งาน ก่อนนำไปลักลอบฝังในพื้นที่ชายแดนไทย หลักฐานจากโทรศัพท์ยังระบุวันเวลาที่ถ่ายภาพและวิดีโอไว้อย่างชัดเจน จึงนับเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่ยืนยันพฤติกรรมการละเมิดข้อตกลง และการใช้ทุ่นระเบิด ซึ่งขัดต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ นปท.ทร. ได้แสดงถึงความรอบคอบและไหวพริบในการตรวจสอบหลักฐานทันที ก่อนส่งมอบให้หน่วยกองทัพบกในพื้นที่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป. – สำนักข่าวไทย

“มทภ.2” ชี้เขมรไว้ใจไม่ได้-ชายแดนยัง 50-50 หากปะทะพร้อมสู้

วปอ. 19 ส.ค.- “แม่ทัพภาค 2” ลั่นกลางวง วปอ. เหตุชายแดนยัง 50-50 ชี้ ‘เขมร’ ไว้ใจไม่ได้ หากปะทะพร้อมสู้ เตรียมคุย ‘อาร์บีซี’ ปลาย ส.ค.นี้ หวังคุยกันเข้าใจ ยึดผลประโยชน์ชาติ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวภายหลังพิธีมอบความช่วยเหลือทหารที่บาดเจ็บ รวมทั้งเสริมสร้างความมั่นคงของฐานที่มั่นในการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รู้สึกชื่นชมและดีใจที่ประเทศชาติเราเป็นอย่างนี้ คนไทยไม่ทิ้งกัน เหตุการณ์ตลอดแนวชายแดนเกือบ 1,000 กิโลเมตร มีหลายเหตุการณ์ ลูกหลานทหารพยายามทำให้ดีที่สุด ทั้งนี้ การสูญเสียพวกเราป้องกันอย่างเข้มงวดทุกระดับชั้น แต่การเข้าตีบางอย่างเราเป็นฝ่ายรุกอาจมีเหตุที่พวกเราบาดเจ็บบ้าง “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยทหารทุกนายที่ได้รับผลกระทบ การปฏิบัติด้านยุทธการครั้งนี้ พระองค์ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมด” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณสิ่งของที่มอบให้ในวันนี้ จะนำไปใช้กับน้องๆ ที่อยู่หน้าแนวตามวัตถุประสงค์ ที่ทุกท่านได้มอบให้โดยด่วน ซึ่งบางครั้งงบประมาณราชการ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก รัฐบาล ได้มอบให้เพียงพอ แต่บางรายการนั้นเร่งด่วน รอการจัดหาตามช่วงเวลาไม่ทัน […]

ผู้ว่าฯ สงขลา ตั้งกรรมการสอบปมหนังสือต้อนรับ “เดชอิศม์”

สงขลา 19 ส.ค. – ผู้ว่าฯ สงขลา สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีหนังสือราชการมีลายเซ็นผู้ว่าฯ ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวก “เดชอิศม์” ขีดเส้นแล้วเสร็จใน 30 วัน นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกคำสั่งจังหวัดสงขลา เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อโซเชียลมีการเผยแพร่ภาพหนังสือราชการที่มีลายเซ็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ลงนามถึงนายอำเภอเมืองสงขลา ขอความอนุเคราะห์อำนวยความสะดวกนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเดินทางมาราชการในพื้นที่ จนก่อให้เกิดความเสียหาย มีการตั้งข้อสังเกตวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสื่อมเสีย ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดสงขลา คณะกรรมการดังกล่าวมีนายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานกรรมการฯ ให้ตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ก่อนรายงานผล พร้อมเสนอความเห็นต่อผู้สั่งแต่งตั้ง เพื่อพิจารณาสั่งการ และหากปรากฏมีการกระทำความผิดจริงให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กมหาดไทย 25 ตำแหน่ง

ทำเนียบ 19 ส.ค. – ครม.เห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย 25 ตำแหน่ง ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ผงาดขึ้นอธิบดี พช. โยก “สยาม” อธิบดี พช. นั่งพ่อเมืองปากน้ำ การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (19 ส.ค. 68) กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูงให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 25 ตำแหน่ง ในที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เช่น ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ยกเว้นนายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง เป็นต้นไป -สำนักข่าวไทย