ราชทัณฑ์จัดแยกกลุ่มผู้ต้องขัง Watch List

กรมราชทัณฑ์ 16 พ.ย.-กรมราชทัณฑ์ จัดกลุ่มผู้ต้องขังคดีร้ายแรง กลุ่ม Watch List 196 คน ส่งนักจิตวิทยาเยียวยา


นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงการดำเนินการพิจารณากลั่นกรองผู้เข้าข่ายเป็นนักโทษเด็ดขาดที่ต้องเฝ้าระวังการก่ออาชญากรรมสะเทือนขวัญ หรือเป็นภัยต่อสังคม (Watch List) โดยจำแนกผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์กระทำผิดรุนแรง โหดร้ายทารุณ มีแนวโน้มหรือความเสี่ยงจะกระทำผิดร้ายแรงซ้ำ ออกจากผู้กระทำผิดโดยพลั้งพลาด หรือไม่ใช่อาชญากรโดยสันดาน เพื่อให้สามารถดำเนินการดูแลและควบคุมผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าวได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์ พบว่า มีผู้ต้องขังกลุ่มดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 196 ราย คัดกรองจากหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามมาตราในประมวลกฎหมายอาญา และลักษณะความผิด 7 กลุ่ม คือ ฆ่าเด็ก หรือข่มขืนเด็ก ฆ่าข่มขืน ฆาตกรต่อเนื่อง ฆาตกรโรคจิต เป็นต้น และพิจารณาจากพฤติการณ์แห่งคดี สาเหตุแห่งการกระทำความผิด ประวัติการกระทำความผิด ภาวะแห่งจิต พฤติการณ์ขณะต้องโทษ และแบบประเมินด้านการจำแนกลักษณะผู้ต้องขัง มาประกอบการพิจารณา


“การแยกผู้ต้องขังกลุ่ม Watch List ออกจากผู้ต้องขังทั่วไป เกิดผลดีหลายประการ นอกจากทำให้กรมราชทัณฑ์ สามารถควบคุมและดูแลได้เหมาะสมตามกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่การแยกคุมขังยังเรือนจำความมั่นคงสูงสุด ที่มีแดนความมั่นคงสูงสุด หรือ Supermax ไปจนกระทั่งการแก้ไข บำบัด ฟื้นฟู และพัฒนาพฤตินิสัยด้วยโปรแกรมเฉพาะทาง พร้อมประสานความร่วมมือกับสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ หรือนักจิตวิทยา เพื่อตรวจวินิจฉัย บำบัดรักษาและฟื้นฟูสุขภาพจิตตามแนวทางเฉพาะด้านนิติจิตเวชศาสตร์ นอกจากนั้นยังเกิดประโยชน์ต่อสังคมส่วนใหญ่ โดยเฉพาะการสร้างความปลอดภัยและเชื่อมั่นว่ากลุ่มคนดังกล่าวจะได้รับการควบคุม แก้ไข บำบัดฟื้นฟู อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ พร้อมปรับเปลี่ยนทัศนคติและพฤติกรรมในการกลับตนเป็นคนดี มีคุณค่าต่อสังคม และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก” อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง