สถิติความรุนแรงในครอบครัว ช่วงโควิดพุ่งสูงเฉลี่ย 200 เรื่อง/เดือน

กรุงเทพฯ 21 ต.ค. – พม.เผยยอดรายงานผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวพบว่าในช่วงโควิดพุ่งสูงเฉลี่ย 200 เรื่องต่อเดือน


นางจินตนา จันทร์บำรุง อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยถึงสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวช่วงวิกฤติโควิด

โดยระบุว่าจากข้อมูลศูนย์ปฏิบัติการกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กรมกิจการสตรีฯ สถิติความรุนแรงในครอบครัว ระหว่างเดือน ต.ค.63-ก.ย.64 มีผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว 2,177 ราย โดยเพศที่เป็นฝ่ายกระทำคือ เพศชาย 86% ที่น่าสนใจคือ 65% เป็นคนที่ไม่เคยกระทำความรุนแรงในครอบครัวมาก่อน


ส่วนที่ถูกกระทำเป็นเพศหญิง 81% ช่วงอายุที่พบถูกทำร้ายมากที่สุดคือ วัยกลางคน (36-59 ปี) 34% ส่วนใหญ่จะความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา 41% และเมื่อเกิดความรุนแรงมักไม่ดำเนินคดีสูงถึง 77%

ปัญหาที่พบเป็นการทำร้ายร่างกายมากที่สุดถึง 64% รองลงมาคือ จิตใจ 32% และเรื่องเพศ 4% ซึ่งมีปัจจัยกระตุ้นคือ ยาเสพติด สุรา การพนัน หย่าร้าง การหึงหวง รวมถึงความเครียดทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์โควิด-19

โดยความรุนแรงมักจะเกิดขึ้นสูงสุดในบ้านถึง 88% สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโควิดที่เกิดการระบาดหนักอีกครั้งในระลอกที่ 2 และ 3 ที่ภาครัฐขอความร่วมมือให้ทุกคนอยู่ในบ้าน ลดการติดเชื้อ


อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว บอกว่าหากดูสถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 61 เฉลี่ยมีเหตุรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปี 61 เฉลี่ย 113 เรื่องต่อเดือน ปี 62 ขยับมาเป็น 140 เรื่องต่อเดือน ปี 63 ยังเฉลี่ยใกล้เคียงปี 62 แต่ที่น่าตกใจคือ ปี 64 ค่าเฉลี่ยขยับไปเป็น 200 เรื่องต่อเดือน ซึ่งสถานการณ์โควิดเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความรุนแรงในครอบครัวมากขึ้น ด้วยมาตรการปิดสถานที่หรืองดกิจกรรมรวมกลุ่ม ทำให้ครอบครัวมีเวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น ประกอบกับได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และความเครียดที่ถาโถมเข้ามา แต่ไม่สามารถออกไปผ่อนคลายได้เหมือนเดิม จึงสะสมความเครียดไว้ หลายคนจึงเลือกหาทางออกด้วยการดื่มสุรา หรือเสพยาเสพติด ยิ่งทำให้สถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัวบานปลายมากขึ้น

อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว บอกด้วยว่าจากนี้ต้องเน้นย้ำสร้างความเข้าให้คนในสังคมว่าถ้าหากความรุนแรงเกิดขึ้นแล้ว ขอให้ผู้ถูกกระทำในครอบครัว หรือผู้พบเห็น ขอให้รีบแจ้งแจ้งตำรวจ หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องของครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง แต่หมายรวมถึงทุกคน ซึ่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ได้ระบุมาตรา 6 ไว้อย่างครอบคลุมแล้วว่าผู้พบเห็นสามารถแจ้งได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าเป็นเรื่องของครอบครัวอื่น เราไม่สามารถแจ้งได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”