โควิด-19 ในไทย 90% สายพันธุ์อังกฤษ

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 7มิ.ย.-กรมวิทย์ฯ เผยโควิด-19 ในไทยระบาดมากสุด ยังเป็นสายพันธุ์อังกฤษ มากกว่าร้อยละ 90 สายพันธุ์อินเดียพบร้อยละ6 กระจายทั้งกรุงเทพฯ และอีกหลายจังหวัด จับตาใกล้ชิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้ยังคุมได้ มีอยู่เฉพาะนราธิวาส ด้าน “นพ.ยง” เผยโควิดกลายพันธุ์ได้น้อยกว่าไข้หวัดใหญ่ 5 เท่า เชื่อวัคซีนเจนเนอเรชั่นใหม่จะพัฒนาเอาชนะได้ ด้านศูนย์จีโนม จับตาเชื้อกลายพันธุ์ลูกผสม ทั้งไฮบริดโควิดฯ เชื้อผสมสายพันธุ์ และโคอินเฟกชั่น ที่ผู้ติดเชื้อคนเดียวเวลาเดียวหลายสายพันธุ์ ซึ่งพบน้อยมาก


กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวเรื่อง “การเฝ้าระวังการกลายพันธุ์เชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 ในประเทศไทย” ประเด็นสถานการณ์การกลายพันธุ์ในประเทศ การวิเคราะห์ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการและผลกระทบของการกลายพันธุ์

นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า สายพันธุ์โควิดที่น่าห่วงยังเป็นสายพันธุ์ อังกฤษ อินเดีย แอฟริกาใต้ และบราซิล โดยจากการเก็บข้อมูลทำวิจัย 3,964 ราย พบสถานการณ์ปัจจุบันสายพันธุ์ที่ระบาดคือสายพันธุ์อังกฤษ มากกว่า 3,500 ราย หรือร้อยละ 90


ส่วนสายพันธุ์อินเดีย ที่พบครั้งแรกที่คลัสเตอร์ หลักสี่และคาดการณ์จะแทนที่สายพันธุ์อังกฤษ ขณะนี้พบกว่า 230 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ6 , ใน กทม.มากสุด 206 ราย และกระจายไปต่างจังหวัด พบที่คลัสเตอร์บายศรีสู่ขวัญ อุดรธานี 17 ราย นอกจากนี้กระจายใน จ.นนทบุรี พิษณุโลก สระบุรี นครราชสีมา อุบลราชธานี สมุทรสงคราม บุรีรัมย์

ส่วนสายพันธุ์ที่เฝ้าระวังมากคือ แอฟริกาใต้ ที่มีผลต่อวัคซีน ขณะนี้พบ 26 ราย ยังควบคุมได้ที่ จ.นราธิวาส ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ไม่ให้กระจายออกมาพื้นที่อื่น นอกจากนี้ยังจับตาสายพันธุ์ท้องถิ่นที่พบด้วยในการระบาดระลอกสองที่ปทุมธานีและสมุทรสาคร

ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าสายพันธุ์อินเดียที่แพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อังกฤษ จะกลายเป็นสายพันธุ์ที่พบมากในอนาคต โดยสายพันธุ์อินเดียที่พบในไทย เหมือนที่พบในมาเลเซีย และนราธิวาส


นพ.ศุภกิจ ยังกล่าวถึงการตรวจภูมิคุ้มกันหลังรับวัคซีนว่ามีเพิ่มขึ้นอย่างไร ขอให้เป็นเรื่องที่กรมวิทย์ฯ และหน่วยงานที่มีหน้าที่ดำเนินการ ซึ่งจะทำวิจัยเป็นรายกลุ่ม ไม่มีความจำเป็นต้องทำเป็นรายบุคคล เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง หากทำรายคน ค่าใช้จ่ายสูงกว่าวัคซีนอีกและหากประชาชนตรวจเองก็วิจัยไม่ได้ จึงขออย่าหลงเชื่อการขายชุดตรวจแอนติบอดี้ที่เริ่มมีขายกัน ไม่มีความจำเป็น

ด้าน ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ศูนย์ฯ ได้ทำการถอดพันธุกรรมไวรัสก่อโรคโควิด-19 ใน 3 รูปแบบคือ

1.ตรวจสอบรหัสพันธุกรรม 40 ตำแหน่งอย่างรวดเร็ว 1-2 วัน แยกไวรัสที่เป็นปัญหาในประเทศ ส่งตรวจ 1,000 ตัวอย่างต่อสัปดาห์ 2.ถอดรหัสฯ โควิด-19 ทั้งจีโนมด้วยเทคโนโลยีการถอดรหัสสายยาวใช้เวลา 2 วัน เหมาะกับการตรวจไวรัสลูกผสมหรือการติดชื้อสองสายพันธุ์ ในคนเดียวในเวลาเดียวกัน และ 3.ถอดรหัสพันธุกรรม เชื้อโควิด-19 ทั้งจีโนมด้วยเทคโนโลยีการถอดรหัส สายสั้น ใช้เวลา 4-5 วัน เพื่อติดตามการกลายพันธุ์ของไวรัส

ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ กล่าวอีกว่าประเทศไทยตรวจพบสายพันธุ์โควิด-19 ได้หลากหลาย และเมื่อวิเคราะห์เปรียบเทียบกับที่ระบาดทั่วโลก พบว่าเชื้อกลายพันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นเชื้อนำเข้าจากประเทศอื่น ปัจจุบันไทยยังไม่พบการกลายพันธุ์ที่พบเฉพาะในประเทศไทยซึ่งการยับยั้งการกลายพันธุ์ในไทยคือต้องช่วยกันไม่ให้มีการติดเชื้อจำนวนมาก โดยขณะนี้ประเทศไทย เฝ้าระวัง 9 สายพันธุ์หลัก และ 44 สายพันธุ์ย่อย

ขณะที่ ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ไวรัสกลายพันธุ์เพื่อความอยู่รอดของไวรัสเอง เราจึงต้องรู้ทันและเข้าใจว่าจะต้องอยู่ร่วมกับไวรัสในช่วงนี้ ไม่มีทางทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหมดสิ้นไป ต้องหาวิธีให้อยู่ด้วยกันได้ การกลายพันธุ์เป็นวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต เพื่อให้อยู่รอด ตอนนี้สายพันธุ์อินเดียเข้ามา ทำให้เกรงกันว่าจะแพร่ระบาดมากขึ้น มาแทนสายพันธุ์อังกฤษ เพราะเวลาระบาดในชุมชนจะแพร่เร็ว ติดง่ายและคุมยาก ส่วนสายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่หลบหลีกภูมิต้านทานทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลง ต้องเฝ้าระวังพิเศษ

ทั้งนี้ สายพันธุ์อินเดียและอังกฤษมีการระบาดในประเทศอังกฤษและพบว่า ทั้ง 2 สายพันธุ์ ไม่ทำให้ประสิทธิภาพวัคซีนลดลง เพราะพบว่า คนที่ติดสายพันธุ์อินเดียเป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือรับไม่ครบโดส อย่างไรก็ตาม ข้อมูลยังบอกไม่ได้ว่าความรุนแรงมากน้อยกว่ากันอย่างไร หากเทียบอัตราตายของการระบาดรอบแรกกับรอบนี้ พบไม่ต่างกันนัก จึงยังบอกไม่ได้

นพ.ยง กล่าวอีกว่า เชื้อโควิดเปลี่ยแปลงพันธุกรรมน้อยกว่า ไข้หวัดใหญ่ ถึง 5 เท่า จึงเชื่อว่าวัคซีนเจนเนอเรชั่นใหม่ จะเอาชนะสายพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น ถ้าเรามีภูมิต้านทานเกิดขึ้นก็จะคุมความรุนแรงของโรคได้จนกลายเป็นโรคหวัดชนิดหนึ่ง

นพ.ยง กล่าวถึงการเปลี่ยนฉีดยี่ห้อวัคซีนโควิดว่า วัคซีนโควิดเป็นเรื่องใหม่ ทำมาเร็ว ทางปฏิบัติจึงไม่แนะนำให้เปลี่ยนยี่ห้อ เว้นแต่มีการแพ้วัคซีนเข็มแรก เข็มสองอาจเปลี่ยน ต้องทำการศึกษาต่อ เพราะในไทยยังไม่มีการใช้วัคซีนจากเทคโนโลยีmRna สำหรับคนที่ติดเชื้อแล้วหายแล้วจะเท่ากับการได้รับวัคซีนเข็มแรกแล้ว การฉีดวัคซีนจะมีก็หลัง3-6เดือน ซึ่งในช่วงที่วัคซีนยังไม่พอก็ให้รอก่อนได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

กต.อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก

กระทรวงการต่างประเทศ 7 ส.ค. – กต. นำผลประชุม GBC อัปเดตสถานการณ์ไทย-กัมพูชา กับทูตไทยทั่วโลก เพื่อชี้แจงรัฐบาล-องค์การระหว่างประเทศ พร้อมประเมินระดับความเข้าใจของนานาชาติถึงสถานการณ์ ป้องกันการบิดเบือนข้อมูล นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเกาะติดพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้สรุปผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ซึ่งนำโดย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หัวหน้าคณะผู้แทนไทย โดยมีผู้แทนจากมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งการประชุมเป็นกลไกหารือทวิภาคีระหว่างไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ก่อนการประชุม GBC ประธาน GBC ของทั้ง 2 ฝ่าย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โดยได้ยืนยันว่ามาเลเซีย รวมถึงประเทศสมาชิกอาเซียนต่างๆ เห็นตรงกันว่าสนับสนุนให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชา สอดคล้องกับท่าทีของไทย ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกำลังเพิ่ม หลีกเลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุทั้งทางการทหาร […]

ไร้คู่แข่ง “ไชยา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1

รัฐสภา 7ส.ค. – “ไชยา พรหมา” ได้รับเลือกเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 แบบไร้คู่แข่ง ประกาศพร้อมจับมือทุกฝ่ายทำให้สภาฯ เป็นที่พึ่งของประชาชน การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาลงมติเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 แทนนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่ง โดยนายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย เพียงชื่อเดียว จากนั้นนายไชยา ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ขอบคุณประธานฯ และสมาชิก ที่ให้ความไว้วางใจให้ทำหน้าที่เป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 1 ขอยืนยันว่าจะใช้ความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำงานทางการเมืองตลอดชีวิตการทำงานเพื่อสภาฯ แห่งนี้ อย่างน้อยสถาบันนิติบัญญัติเป็นกลไกที่มีความสำคัญไม่แพ้อำนาจฝ่ายบริหาร ประธานฯ และตัวไชยาเอง อยู่สภาฯ นี้มานาน ได้ผ่านกงล้อประวัติศาสตร์ทางการเมือง สถานการณ์การเมืองที่แตกต่างกันแต่ละยุคสมัย อยากเห็นองค์กรนิติบัญญัติแห่งนี้เป็นที่พึ่งของที่น้องประชาชนต่อไป และสิ่งหนึ่งที่อยากจะเห็นในขณะที่ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คือ อยากเห็นความร่วมมือร่วมใจ ไม่ว่าจะฝ่ายค้าน […]

เปิด 13 ข้อตกลงหยุดยิง ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องรักษาสันติภาพ

มาเลเซีย 7 ส.ค.-เสร็จสิ้นแล้ว การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ที่ 2 ชาติ เห็นพ้องข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้1.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี2.รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย3.ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา4.ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน5.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี6.การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ7.กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์8.เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์ นับจากการประชุม […]

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]