fbpx

โอไมครอนยึดไทย 99.6% สายพันธุ์ BA.2 51.8%

สธ. 7 มี.ค. – อธิบดีกรมวิทย์แจงสถานการณ์ติดเชื้อโควิดของไทย โอไมครอนยึด 99.6% พบเป็นสายพันธุ์ย่อย BA.2 51.8% เชื่ออีกไม่นานแทนที่ BA.1 เนื่องจากมีอำนาจแพร่มากถึง 1.4 เท่า และพบว่าอัตราการติดเชื้อในครัวเรือน BA.2 พบ 39% BA.1 พบ 29%


นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงสถานการณ์เชื้อโควิด -19 ในไทย ว่า จากการติดตามสถานการณ์เชื้อโควิด พบว่าจากการเก็บตัวอย่างเชื้อโควิดสัปดาห์ที่ผ่านมารวม 1,900 ตัวอย่าง พบเป็นสายพันธุ์โอไมครอน 99.6% ที่เหลือเป็นสายพันธุ์เดลตา 7 ตัวอย่าง ส่วนคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ตรวจพบติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นโอไมครอนทั้งหมด และหากจำแนกสายพันธุ์ย่อยของโอไมครอน พบว่าสัดส่วน BA.2 ค่อย ๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น และเชื่อว่าไม่นานจะเข้ามาแทนที่ BA.1 โดย BA.2 อยู่ที่ 51.8% ส่วน BA.1 อยู่ที่ 48.2%  

นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า อำนาจการแพร่กระจายของโรค พบว่า BA.2 มีมากกว่า BA.1 ถึง 1.4  เท่า โดยพบว่า BA.2 สามารถแพร่กระจายในครัวเรือนสูงถึง 39% ขณะที่ BA.1 อยู่ที่ 29% ส่วนความรุนแรงของโรคยังใกล้เคียงกันทั้ง 2 สายพันธุ์ย่อย แต่พบว่า BA.2 มีการดื้อยา Monoclonol AB (ยาที่ทำมาจากภูมิคุ้มกันมารักษา) แต่ยังสามารถใช้ยาอื่น ๆ รักษาได้ตามปกติ และเมื่อดูผู้ป่วยติดเชื้อซ้ำจากโควิด พบมีถึง 28.57% ซึ่งส่วนใหญ่เคยติดเชื้อเดลตา และต่อมาภายหลังพบมีการติดเชื้อโอไมครอน 


นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า แม้ขณะนี้จะมีเทคโนโลยีการตรวจหาสารพันธุกรรมไวรัสจะมีมากขึ้นทั้ง Lamp , Crispr ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำ คือ การตรวจหาสายพันธุ์ใน 2 ตำแหน่ง และต้องผ่านการรับรองจาก อย. แต่ขณะนี้ยืนยันการตรวจด้วย RT-PCR, ATK มีความแม่นยำ และเมื่อมีการตรวจ ATK แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีการตรวจด้วยวิธี RT-PCR ซ้ำอีก เนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมาการตรวจ RT-PCR ประเทศไทย เสียค่าใช้จ่ายในการตรวจมากถึง 10,000 ล้านบาท  พร้อมอธิบายสาเหตุที่พบจำนวนผู้เสียชีวิตมากขึ้น แม้ทางการจะบอกว่าเชื้อโอไมครอนไม่รุนแรงว่า เป็นตามหลักคณิตศาสตร์ ที่เมื่อพบจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด และสมมติเมื่อมีการเปรียบสัดส่วนของผู้ติดเชื้อที่ตรวจ RT-PCR 22,000 คน ตรวจ ATK 10,000 คน รวม เป็น 32,000 คน หากเสียชีวิต 50 คน คิดเป็นสัดส่วน 2 ใน 1,000 คน ไม่ถึง 1% ในอดีตไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อมากกว่า และเสียชีวิตรายวันมากกว่าปัจจุบันด้วยซ้ำ และหากเมื่อดูอัตราการเสียชีวิตจะพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม มีโรคประจำตัว ทั้งมะเร็ง ตับ และติดเตียง ดังนั้น หากครบกำหนดรับวัคซีนเข็มกระตุ้นก็ขอให้รีบมารับ แม้วัคซีนจะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่ลดความรุนแรงและเสียชีวิตได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

จับตา ครม.เศรษฐา 2 โผเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์

จับตา “ครม.เศรษฐา 2” โผเพื่อไทยเริ่มนิ่ง คาดไม่เกินสัปดาห์ รอตรวจสอบประวัติว่าที่รัฐมนตรี “สุทิน-หมอชลน่าน-ไชยา-เกรียง” ส่อหลุดเก้าอี้ ด้าน “ธรรมนัส” ยันโควตา พปชร. อีก 1 ตำแหน่ง เป็นของ “ไผ่ ลิกค์”

“ดาว บ้านดอน” ลูกทุ่งดัง ล้มในห้องน้ำ

“ดาว บ้านดอน” วัย 76 ปี เจ้าของผลงานเพลงดัง ประสบอุบัติเหตุล้มในห้องน้ำ ล่าสุดลุกนั่งได้ ลืมตาได้ และรู้สึกตัวดี แต่ยังไม่สามารถพูดได้

“บิ๊กต่าย” เซ็นให้ “บิ๊กโจ๊ก-4 ลูกน้อง” ออกจากราชการไว้ก่อน

รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” พร้อมลูกน้องอีก 4 นาย ออกจากราชการไว้ก่อน หลังถูกดำเนินคดีอาญา

แพทย์ห่วง ด.ต.ปิยนันท์ มีเลือดคั่งในสมอง

ผู้ช่วย ผบ.ตร.ขอบคุณประชาชน เปิดทางเคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ รักษา รพ.ตำรวจ ขณะที่แพทย์รับห่วง พบยังมีเลือดคั่งในสมอง เตรียมผ่าตัดสมองซ้ำนำเลือดที่คั่งออก