สธ.แนะสังคมเข้าใจ “โรคไบโพลาร์” อารมณ์ 2ขั้ว

สธ.30 มี.ค.-สธ.แนะสังคมเข้าใจผู้ป่วยไบโพลาร์ อารมณ์ 2 ขั้ว รู้เร็วหายไว โดย 1 คน มีโอกาสป่วยไบโพลาร์มากกว่า 1 ครั้งต่อปี แนะสังเกต นอนไม่หลับกระสับกระส่าย กระตือรือร้นเกินปกติหรือใช้เงินเกินปกติอาจเป็นโรค

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และพญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต ร่วมในงานแถลงข่าว World Bipolar Day “เปิดใจให้ไบโพลาร์” เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วไปในโรคไบโพลาร์


นายอนุทิน กล่าวว่า โรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์สองขั้ว ที่ดูเหมือนเป็นเรื่องไกลตัวแต่จริงๆ แล้วใกล้ตัวมาก เนื่องจากพบได้บ่อยถึงร้อยละ1.5- 5 หากคิดตามสัดส่วนประชากรไทย ก็น่าจะมีคนป่วยมากกว่า 3 หมื่นคน และยังเป็นการเจ็บป่วยในอันดับต้นๆ ของโรคทางจิตเวช สิ่งที่เป็นประเด็นสำคัญของโรคทางจิตเวชคือ ไม่มีอาการ ไม่มีบาดแผลทางกายให้เห็นเหมือนโรคอื่น แต่เป็นบาดแผลในใจที่เป็นสิ่งสำคัญมากเพราะฝังลึกกว่าที่แพทย์หรือจิตแพทย์จะรู้

ด้าน พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า โรคไบโพลาร์เป็นผู้ป่วยกลุ่มจิตเวช ที่ยังไม่เป็นรู้จักมากนัก ทำให้มุมมองและทัศนคติไม่ตรงกับตัวโรค โดยผู้ป่วยจะมีภาวะอารมณ์ที่แปรปรวน อารมณ์สองขั้ว บางครั้งออกดูครึกครื้นกว่าปกติ เรียกว่าแมเนีย(Mania Hypomania)สลับกับภาวะอารมณ์ซึมเศร้า(Major Depressed Episode) สลับไปมา ซึ่งบางครั้งอาจทำให้คนรอบข้างไม่เข้าใจ ส่งผลต่อทัศนคติว่าผู้ป่วยเป็นคนที่ไม่ดูแลตนเอง ควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงเป็นที่มาในกลุ่มจิตแพทย์เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ และกำหนดให้วันที่ 30 มีนาคม เป็น “วันไบโพลาร์โลก” เพื่อพูดเรื่องนี้กับสังคม ทำความเข้าใจกับประชาชนทั่วไปให้มากขึ้น โดยตัวเลขตามทางระบาดวิทยา พบผู้ป่วยโรคไบโพลาร์ประมาณร้อยละ 1.5 – 5 เกิดมาจากสารสื่อประสาทในสมองทำงานผิดปกติ ผู้ที่มีความเครียดสะสมและในบางรายอาจเกิดจากพันธุกรรมได้ โดยผู้ป่วยสามารถเป็นโรคนี้ซ้ำได้ มากกว่า ปีละ 1 ครั้ง


พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า สำหรับสัญญาณของโรค มีตั้งแต่ไม่หลับไม่นอน กระสับกระส่าย กระตือรือร้นเกินปกติ ใช้จ่ายมากกว่าปกติและในบางรายที่มีอารมณ์สองขั้วก็จะมีเปลี่ยนเป็นอีกขั้วหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และคนที่ป่วยด้วยโรคนี้ ส่วนใหญ่ มักต้องไปอาศัยอยู่กับญาติ ไม่สามารถอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งได้นาน เพราะด้วยภาวะอารมณ์หรือความตรึงเครียด จนทำให้มีแนวคิดและพยายามขับเคลื่อน จิตเวชรักษาได้ทุกที่ และเกิดกองทุนยาจิตเวช เกิดการยืมยา
ใน รพ.ชุมชน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”