คนพิการเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ

กรุงเทพฯ 12พ.ย.-เปิดตัวหนังสือตีแผ่ประสบการณ์คนพิการเหยื่อล่วงละเมิดทางเพศ คลี่ปมสาเหตุใหญ่เกิดจากคนใกล้ตัว ครอบครัว พบแอลกอฮอล์เป็นปัจจัยกระตุ้นผู้ก่อเหตไร้สติควบคุมตัวเองไม่ได้


การเปิดตัวหนังสือ “บาดแผลของดอกไม้” โดยน.ส.วิจิตา รชตะนันทิกุล รองอธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า สถานการณ์การล่วงละเมิดทางเพศในคนพิการยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง พม.มี พ.ร.บ.คุ้มครองคนพิการ แต่ในภาพรวมการปฏิบัติยังคงมุ่งเน้นไปเรื่องสิทธิของคนพิการ เช่น ความเสมอภาคในการทำงาน แต่ในส่วนผู้พิการที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศยังคงได้รับการดูแลที่ยังไม่ทั่วถึงทั้งหมด ซึ่งจากการทำงานร่วมกับมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล พบว่าการมีชุมชนและผู้นำที่เข้มแข็งจะช่วยลดปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในคนพิการได้ สำหรับบทบาทของกรมฯเน้นเรื่องการป้องกันและเฝ้าระวัง สร้างชุมชนปลอดภัยเพื่อนำไปสู่ต้นแบบที่มีผู้นำชุมชนที่เข้มแข็ง มีการบำบัดและฟื้นฟู รวมทั้งติดตามการดำเนินงาน ซึ่งจะพยายามสร้างพื้นที่ปลอดภัยในชุมชนให้มากขึ้น เพราะเชื่อว่าชุมชนที่เข้มแข็ง คนในพื้นที่จะมีความปลอดภัยมากขึ้นเช่นกัน

นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า หนังสือบาดแผลของดอกไม้ เป็นงานเขียนและการสำรวจข้อมูลกลุ่มผู้หญิงพิการถูกข่มขืน 15 ราย พบว่าส่วนใหญ่เป็นคนพิการทางสติปัญญา บางรายพิการซ้ำซ้อน โดยผู้กระทำเป็นญาติ คนข้างบ้าน สอดคล้องกับการเก็บข้อมูลจากข่าวหนังสือพิมพ์ และการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาของมูลนิธิฯ มีผู้หญิงพิการถูกข่มขืนเฉลี่ย 3-4 คน/ปี โดยมีความพิการทางสมอง ออทิสติก สติปัญญาบกพร่องอายุตั้งแต่ 14-16 ปี สะท้อนว่าเด็กหญิงพิการ อายุต่ำกว่า 18 ปี มีแนวโน้มถูกล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนมากขึ้น ส่วนผู้ก่อเหตุ พบเป็นคนใกล้ตัว เช่น พ่อเลี้ยง พี่ชาย เพื่อนบ้าน สำหรับปัจจัยกระตุ้น พบว่าเมื่อมีความต้องการทางเพศ มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ใช้ยาเสพติด และเมื่อเห็นเหยื่อมีข้อจำกัดในการปกป้องตนเอง ประกอบกับผู้หญิงมีความพิการ ไม่สามารถสื่อสารได้ เช่น หูหนวก ตาบอด และมีความกลัวจากการข่มขู่ทำให้แนวโน้มในการถูกล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มขึ้น


“ปัญหานี้เกิดจากรากคิดในระบบชายเป็นใหญ่ ซึ่งในการต่อสู้ของผู้หญิงพิการมีข้อจำกัดมากกว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะการสื่อสาร เช่น บางรายพิการซ้ำซ้อน หูหนวก ตาบอด ต้องมีล่ามช่วยสื่อสารต้องใช้ระยะเวลานาน ทำให้ไม่มีหลักฐานมากพอ นอกจากนี้ยังมีเรื่องความยากจน ไม่มีเงินสู้คดี นำไปสู่การไกล่เกลี่ยหรือนิ่งเงียบมากขึ้น อีกทั้งกระบวนการยุติธรรมยังเป็นอุปสรรคในการต่อสู้ เช่นตำรวจไม่กระตือรือร้นช่วยเหลือ และดูเหมือนมีความใกล้ชิดกับผู้กระทำ ทำให้คดีอ่อนลงและมีบางคดีที่มูลนิธิให้ความช่วยเหลือ เช่นคดีที่พิษณุโลกซึ่งน้องคนพิการถูกกระทำ แต่กลับถูกถ่วงจนใกล้จะหมดอายุความซึ่งมูนิธิเตรียมนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร็วๆนี้ ”ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าว

นายจะเด็จ กล่าวด้วยว่า คนที่สามารถช่วยเหลือผู้หญิงพิการที่ถูกข่มขืน ให้สามารถต่อสู้ได้ คือคนใกล้ตัว เช่น พ่อ แม่ ญาติใกล้ชิด ส่วนกลไกรัฐต้องตระหนัก ทำงานเชิงรุกในพื้นที่ เช่น อปท. อสม.ต้องสื่อสารและสร้างความเข้าใจกับครอบครัวและสังคม ว่าคนพิการมีแนวโน้มถูกล่วงละเมิดทางเพศมากขึ้น จึงต้องดูแลช่วยเหลือเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม มูลนิธิฯหวังว่า หนังสือบาดแผลของดอกไม้จะเป็นหนังสือที่จุดประกายให้คนในสังคมเกิดความสนใจในประเด็นการล่วงละเมิดทางเพศของผู้หญิงพิการมากขึ้น เพื่อนำมาสู่การช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

น.ส.อรสม สุทธิสาคร ศิลปินศิลปาธร สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2552 ผู้เขียนหนังสือ “บาดแผลของดอกไม้” กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับเคสที่มีคนในครอบครัวเป็นคนพิการถูกล่วงละเมิดทางเพศทั้ง 15เคส ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวผ่านหนังสือเล่มนี้ พบว่า ครอบครัวได้รับผลกระทบอย่างมาก ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งบางเคสผู้ถูกกระทำไม่สามารถสื่อสารใดๆได้ เช่น หูหนวก ตาบอด เป็นใบ้ คนเหล่านี้เขาไม่สามารถสื่อสารหรือเรียกร้องใดๆ ให้กับตนเองได้ ขณะเดียวกันคนในครอบครัวก็จะได้รับความทุกข์ไปด้วยและสร้างความหวาดกลัว จนมีผลกระทบต่อการทำงานและความเป็นอยู่ ซึ่งอยากให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง มีความเข้าใจ เป็นที่พึ่งคนเหล่านี้อย่างเป็นรูปธรรมไม่ใช่แค่การเยียวยาด้วยเงิน และในส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรจะแจงสิทธิที่ผู้ถูกกระทำพึงได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ


ด้านลุงเอ (นามสมมติ) คุณพ่อนักสู้ที่ทวงคืนความยุติธรรมให้ลูก กล่าวว่า ลูกสาวตนถูกเพื่อนร่วมงานของตนเองล่วงละเมิดทางเพศ ในตอนนั้นไม่รู้จะทำอย่างไร เราไม่รู้เรื่องกฎหมาย ตอนที่พาลูกสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำและให้เบอร์โทรศัพท์มูลนิธิหญิงชายก้าวไกลมาเพื่อขอคำปรึกษาเรื่องการดำเนินคดี ซึ่งมูลนิธิฯได้ช่วยเหลือ และแนะนำเป็นอย่างดี กว่าที่เราจะผ่านจุดนั้นมาได้มันยากมาก ในที่สุดคู่กรณีถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยศาลสั่งจำคุกไปแล้ว ปัจจุบันคู่กรณีได้พ้นโทษและกลับมาใช้ชีวิตแถวชุมชน หลายครั้งที่ต้องเจอหน้ากัน คู่กรณีก็พยายามที่จะไม่เผชิญหน้าและลุงได้ส่งลูกสาวไปอยู่กับแม่ที่ต่างจังหวัดเพราะคิดว่าน่าจะมีความปลอดภัย มีคนดูแลอย่างใกล้ชิดดีกว่า

“สิ่งที่อยากจะฝากไปยังครอบครัวที่มีลูกสาวที่พิการ เราต้องดูแลอย่าให้คลาดสายตา เพราะเขาไม่รับรู้หรือรู้เรื่องกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาและอย่าคิดว่าลูกเราพิการแล้วคงไม่มีใครทำอะไรหรอก คุณคิดผิดถนัดเพราะในความเป็นจริงมันเลวร้ายกว่าที่คิด เราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกเราปลอดภัย ไม่สุ่มเสี่ยงหรือเกิดช่องว่างให้ผู้ก่อเหตุ”ลุงเอ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก