สหรัฐ 12 มิ.ย. – ฮาวีย์ ไวน์สตีน โปรดิวเซอร์ระดับโลก เพิ่งถูกศาลตัดสินคดีล่วงละเมิดทางเพศ ติดตามเรื่องราวของคดี และกระแส #MeToo ที่จุดติดจากเรื่องอื้อฉาวของเขา
ฮาวีย์ ไวน์สตีน กำลังจะต้องรับบทลงโทษเพิ่มจากการใช้อำนาจและอิทธิพลล่วงละเมิดสตรีมากมาย น่าสนใจว่าเมื่อศาลมีคำตัดสินแล้วจะปลุกกระตุ้นกระแส #MeToo ของเหยื่อคุกคามทางเพศทั่วโลกที่ดูจะแผ่วลงไปให้ลุกโชนขึ้นมาอีกหรือไม่
จากเจ้าแห่งอาณาจักรบันเทิงฮอลลีวูด ผู้ปั้นดาวมากมาย สร้างผลงานบันเทิงระดับโลกมากมาย สู่ผู้ต้องหาล่วงละเมิดสตรี ฮาวีย์ ไวน์สตีน ถูกนำตัวขึ้นศาลในนครนิวยอร์ก เมื่อปีที่แล้ว แต่มีปัญหาทางข้อกฎหมาย จึงพิจารณาคดีใหม่ ล่าสุดมีคำตัดสินว่าเขามีความผิดฐานทำร้ายทางเพศ อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 25 ปี
มีเรียม เฮลีย์ ผู้เสียหายในคดี ต้องขึ้นให้การเพื่อเอาผิดไวน์สตีนเป็นครั้งที่สอง จำใจต้องขึ้นเบิกความบอกเล่าทุกรายละเอียดเรื่องราวรอยแผลในใจที่ถูกล่อลวงไปยังอพาร์ตเมนต์ของไวน์สตีนเมื่อเกือบ 20 ปีก่อน ผู้อำนวยการสร้างหญิงเผยว่ามีความพยายามฟอกขาวให้กับจำเลย และถูกขู่เอาชีวิต เธอจึงต้องยืนขึ้นเพื่อความจริง และหนุนให้เหยื่อทุกคนรู้ว่าทุกเรื่องราวสำคัญ ทุกเสียงสำคัญ และทุกคนไม่ได้เดียวดาย
คดีนี้ยังมีผู้เสียหายอีก 2 คน ถึงแม้ว่ายังพิจารณากรณีนักแสดงคนหนึ่งไม่แล้วเสร็จ และอีกคนเป็นนางแบบนั้น ตัดสินไม่มีความผิด แต่ก็เพียงพอให้ฮาวีย์ ไวน์สตีน วัย 73 ปี ต้องถูกจองจำไปทั้งชีวิต
เมื่อ 8 ปีก่อน ฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ถูกผู้หญิงรวมกว่า 100 คน ทยอยออกมากล่าวหาว่าเขาข่มขืน คุกคาม และล่วงละเมิดทางเพศ ผู้เสียหายหลายคนเป็นนักแสดงและนางแบบแถวหน้าอย่าง แอชลีย์ จัดด์, แอนเจลีนา โจลี ยังตกเป็นเหยื่อทางเพศ ยังไม่นับผู้ที่ไม่เปิดเผยตัว ทำให้เขาฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ต้องคดีแรกที่ศาลในนครลอสแอนเจลีส เขาถูกตัดสินจำคุก 16 ปี
จากการเปิดโปงพฤติกรรมฉาวยาวนาน 30 ปี ของฮาร์วีย์ ไวน์สตีน ได้จุดกระแส #MeToo ไปทั่วโลก สตรีที่ตกเป็นเหยื่อชายทรงอิทธิพลและฐานะทางสังคมสูงกว่า ได้ประกาศร่วมกันว่าฉันก็เป็นเหยื่อเช่นกัน ลามไปในโลกอินเทอร์เน็ต ตีแผ่ว่าทุกคน ทุกเพศทุกวัย ทุกที่ทุกเวลา อาจเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศ ตัวเองไม่ได้โดดเดี่ยวเดียวดายบนโลกใบนี้ นำไปสู่การปฏิรูปกฎหมาย และความตื่นตัวในการสร้างมาตรการป้องกันในที่ทำงานเป็นต้น
นอกจากวงการบันเทิงฮอลลีวูด แวดวง French Cinema สะท้อนถึงปัญหาใหญ่มากในสังคมฝรั่งเศส ดาราใหญ่อย่าง เจร์ราร์ด เดพาดูร์ ที่เป็นไอคอนแห่งการแสดง ถูกศาลตัดสินว่าล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ในคดีที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของกระแส #MeToo ในฝรั่งเศส
สำหรับในสหรัฐ ที่ให้กำเนิด #MeToo ความเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิผู้ถูกล่วงละเมิด ผ่านกาลเวลาและการกลั่นกรองทางสังคม ทำให้พบว่ามีข้อเสียอยู่บ้าง เช่น ก่อให้เกิดศาลเตี้ย ตัดตอนกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้ร้ายผู้อื่น การมุ่งเน้นให้ความสำคัญเฉพาะเหยื่อคนดัง แต่ไม่เหลียวแลเหยื่อผู้ด้อยโอกาสเท่าที่ควร จนทำให้เกิดกลุ่มต่อต้านหลายกลุ่ม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งที่คนในแวดวงกังวลกันมากคือ การเมืองในสมัยรัฐบาลนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีเรื่องฉาวเกี่ยวกับการล่วงละเมิดมานาน ในวาระที่สองนี้เขายังได้แต่งตั้งรัฐมนตรีถึง 3 คน ที่มีเรื่องมัวหมองจากข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ จนถูกวิจารณ์ว่าเรื่องนี้เป็นเสมือนคุณสมบัติของรัฐมนตรีรัฐบาลนี้
นายทรัมป์ ถูกตั้งข้อสงสัยมานานแล้วถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิด ฐานะเพื่อนสนิทกับนายเจฟฟรีย์ เอ็บสตีน เศรษฐีผู้ถูกคดีพรากผู้เยาว์ และเป็นธุระจัดหา ซึ่งจบชีวิตในเรือนจำ จนเมื่อนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐี ปูดว่านายทรัมป์ ก็เป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในรายชื่อผู้ใช้บริการ แต่เรื่องนี้ดูจะเงียบหายไป #MeToo กำลังถอยหลังเข้าคลอง หรือเลือนหายไปแล้วหรือ
สำหรับ มีเรียม เฮลีย์ ทนายของเธอ และอีกหลายคน คดีฮาวีย์ ไวน์สตีน ทำให้เชื่อแน่ว่ากระแส #MeToo ยังมีชีวิตอยู่.-สำนักข่าวไทย