ในหลวงพระราชทานทรัพย์ 128 ล้าน ช่วย 19 เรือนจำ

กรมราชทัณฑ์10 พ.ย.- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ


กรมราชทัณฑ์ เผยแพร่ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ วันนี้ (10 พ.ย.) ว่าพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 128 ล้านบาท แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ระยะที่ 2

โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เกิดขึ้นด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงมีพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลโดยทรงเห็นว่าสุขภาพกาย สุขภาพใจที่ดีนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ไม่เว้นแม้แต่ผู้ต้องขัง ซึ่งก็คือประชาชนเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ทรงเห็นว่าการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ การพยาบาล รวมไปถึงการได้รับความรู้ ในการดูแลสุขภาพของผู้ต้องขังเป็นสิทธิของผู้ต้องขังที่ควรได้รับเท่าเทียมกับบุคคลภายนอก ตามหลักมนุษยธรรม ข้อจำกัดในด้านการได้รับความรู้ด้านสุขอนามัย ตลอดจนการเข้าถึงบริการ ด้านสุขภาพของผู้ต้องขังจึงมีความสำคัญที่จะต้องพิจารณาปรับปรุง จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ริเริ่มโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ขึ้น เพื่อเป็นการเติมเต็มสิทธิของผู้ต้องขังให้ได้รับบริการทางสุขภาพเฉกเช่นประชาชนทั่วไป


โดยกรมราชทัณฑ์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 217 ล้านบาท ในระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2562 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งได้จัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์จำนวน 756 รายการ พระราชทานให้กับเรือนจำ ทัณฑสถานเป้าหมาย 25 แห่ง ประกอบด้วย เรือนจำความมั่นคงสูงสุด 5 แห่ง เรือนจำกำหนดโทษสูง 12 แห่ง ทัณฑสถานหญิง 7 แห่ง และทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ 1 แห่ง

ในปลายปีนี้โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดีเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ได้ดำเนินงานเป็นระยะเวลา 1ปี พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 128 ล้านบาท เพื่อดำเนินงานโครงการฯ เข้าสู่ระยะที่ 2 สำหรับจัดซื้อเครื่องมือและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ แก่เรือนจำ 19 แห่ง และโรงพยาบาลแม่ข่ายของเรือนจำ ซึ่งได้แก่ เรือนจำอำเภอฝาง เรือนจำอำเภอเทิง เรือนจำอำเภอแม่สอด เรือนจำอำเภอสวรรคโลก เรือนจำอำเภอแม่สะเรียง เรือนจำอำเภอพล เรือนจำอำเภอสีคิ้ว เรือนจำอำเภอนางรอง เรือนจำอำเภอกันทรลักษ์ เรือนจำอำเภอรัตนบุรี เรือนจำอำเภอกบินทร์บุรี เรือนจำอำเภอธัญบุรี เรือนจำอำเภอทุ่งสง เรือนจำอำเภอปากพนัง เรือนจำอำเภอนาทวี เรือนจำอำเภอเบตง เรือนจำอำเภอหลังสวน เรือนจำอำเภอทองผาภูมิ และเรือนจำอำเภอหล่มสัก

กรมราชทัณฑ์ และผู้ต้องขัง รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ นับเป็นขวัญกำลังใจและสิริมงคลของข้าราชการผู้เกี่ยวข้องตลอดจนผู้ต้องขังราชทัณฑ์ที่ต่างพร้อมน้อมรับพระบรมราโชบาย นำไปดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและสัมฤทธิ์ผลต่อไป .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน

พระยันตระ

ปิดตำนาน “อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตในวัย 73 ปี ที่สหรัฐ

“อดีตพระยันตระ” เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 73 ปี ที่วัดในสหรัฐอเมริกา ปิดตำนานอดีตพระภิกษุที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดรูปหนึ่งของวงการสงฆ์ไทย

อดีตผู้บังคับบัญชา “ผู้กำกับโจ้” เผยสมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร

อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดประวัติอดีตผู้กำกับโจ้ สมัยเป็นลูกน้องไม่ใช่คนเกเร เชื่อได้รับผลกรรมที่ทำแล้ว

ข่าวแนะนำ

Exclusive! เปิดห้องขังแดน 5 “อดีต ผกก.โจ้”

กรมราชทัณฑ์ เปิดห้องขัง แดน 5 ของ “อดีต ผกก.โจ้” ให้สังคมได้เห็นสภาพความเป็นจริงอีกด้าน พบด้านในยังรักษาพื้นที่ และข้าวของเครื่องใช้ของอดีต ผกก.โจ้ เอาไว้ เผื่อเจ้าหน้าที่จะเข้ามาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน

รัฐบาลเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงละศีลอด เดือนรอมฎอน ปี ฮ.ศ. 1446 ขณะที่นายกรัฐมนตรี ร่วมส่งใจให้พี่น้องชาวมุสลิมตั้งจิตมุ่งมั่นปฏิบัติศาสนกิจถือศีลอด ในช่วงเวลาแห่งเดือนอันศักดิ์สิทธิ์

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท