กรุงเทพฯ1 พ.ย..- กสศ.เดินหน้าทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง รุ่นที่ 2 ผลิตบุคลากรสายอาชีพรองรับอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 21 พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมเด็กพิการนำร่อง 5 สถานศึกษาเป็นปีแรก
กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) จัดกิจกรรม “ปลุกพลัง สร้างโอกาสแห่งอนาคต กับทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ปีการศึกษา 2563” โดยมีนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่นที่ 2 เข้าร่วมกิจกรรม มีการถ่ายทอดสดสู่ 23 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ ในระบบออนไลน์ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
ศาสตราจารย์ ดร.นักสิทธ์ คูวัฒนาชัย ประธานคณะอนุกรรมการกำกับทิศทางโครงการส่งเสริมนักเรียนขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาสเพื่อศึกษาต่อสายอาชีพชั้นสูง กล่าวว่า ปัจจุบันไทยประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความชำนาญเฉพาะด้านในระดับอาชีวศึกษาจำนวนมาก ทำให้สถาบันการศึกษาต้องเร่งผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นพื้นที่หลัก โดยโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ถือเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรสายอาชีพได้ ปีนี้ กสศ. ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สามารถสร้างโอกาสให้น้องๆ ได้เรียนต่อสายอาชีวศึกษารวมทั้งสิ้นกว่า 4,700 คน จาก 47 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นรุ่นแรก 2,000 คน และรุ่นที่ 2 จำนวน 2,700 คน มีสถาบันการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ 66 แห่ง
ซึ่งทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่น 2 นี้ กสศ. ได้ขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมถึงเด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์และมีความต้องการพิเศษ (พิการ) โดยทดลองเปิดทุนใหม่เพื่อพัฒนาหลักสูตร-ระบบที่เหมาะสม ร่วมกับวิทยาลัย จากการดำเนินการรุ่นที่ 1 พบว่า นักศึกษาทุนมีศักยภาพแต่มีความเปราะบางในชีวิตจากพื้นฐานครอบครัว จึงเป็นความท้าทายที่กสศ. ต้องทำงานกับวิทยาลัยต่างๆ ในการดูแลเด็กให้มีภูมิคุ้มกันเอาตัวรอดในสังคมได้ อยากฝากถึงนักศึกษาที่ได้รับทุนทุกคน เวลาตั้งเป้าหมายทำอะไรต้องมียุทธศาสตร์ว่าทำอย่างไรถึงจะสำเร็จ อย่าลืมที่จะให้ความสำคัญต่อการเรียน ต้องมีวินัย เข้าใจเนื้อหา และรู้จักปรับตัว ส่วนสถาบันการศึกษาขอให้ผู้บริหาร ครู อาจารย์ดูแลนักศึกษาผู้รับทุนอย่างลูกหลาน ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนน้องๆให้มากที่สุด
นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า นักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่น 1 เราพบว่าเด็กมีผลการเรียนดีมีเกรดเฉลี่ยอยู่ที่ 3.00 หรือกว่าร้อยละ 67 ถือเป็นผลที่น่าพอใจ ดังนั้นผู้บริหารสถานศึกษาและครูจึงมีส่วนสำคัญที่จะช่วยเหลือดูแลเด็กๆกลุ่มนี้ สำหรับการดำเนินการรุ่นที่ 2 กสศ. เชื่อว่าเด็กทุกคนมีคุณภาพ และจะมีชีวิตที่ดีหลุดพ้นจากความยากจนได้หากได้รับการศึกษา
ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงมีภารกิจที่สำคัญ 2 ด้าน คือ 1.ให้ทุนการศึกษากับเด็กเยาวชนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่มีขีดความสามารถในการเรียนรู้ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม และ2.จัดสรรงบประมาณให้กับสถาบันการศึกษาสายอาชีพที่เข้าร่วมโครงการไปพัฒนาการเรียนการสอนและครูให้มีคุณภาพที่สูงขึ้นในระดับอินเตอร์ เพื่อเป็นแนวหน้าในระดับอาเซียน
การปฐมนิเทศนักศึกษาทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูงรุ่น 2 กสศ. จึงไม่ใช่แค่ให้เด็กนั่งเรียนรู้ทฤษฏีและจดบันทึก แต่จะเป็นการทำกิจกรรมเสริมสร้างทักษะความรู้ที่รองรับกับทักษะศตวรรษที่ 21 ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่ครอบคลุมถึงหลักการเรียน การปรับตัวและการทำงานเป็นทีม รวมถึงการเสริมทักษะการบริหารจัดการรายรับและรายจ่ายอย่างถูกต้อง
ผศ.ดร.ชนิศา ตันติเฉลิม อาจารย์ประจำภาควิชาวิจัยและจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวหน้าโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง สำหรับผู้เรียนที่มีความพิการ กล่าวว่า โครงการ“เปลี่ยนความพิเศษให้เป็นพลัง” เป็นโครงการย่อยของโครงการทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ที่ส่งเสริมให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และมีความต้องการพิเศษ (พิการ) ได้รับโอกาสทางการศึกษา ปัจจุบันมีสถาบันอาชีวศึกษาเข้าร่วมและนำร่อง 5 วิทยาลัย อาทิ วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก กรุงเทพฯ วิทยาลัยเทคโนโลยีพระมหาไถ่ พัทยา ฯลฯ โดยสถาบันการศึกษาและกสศ.จะร่วมกันออกแบบการเรียนการสอน พร้อมเข้าไปหนุนเสริมการทำงานของวิทยาลัยเพื่อวัดความรู้เด็กให้พร้อมสู่การมีงานทำ มีระบบดูแลช่วยเหลือติดตามหลังเรียนจบการศึกษา โดยจะติดตามถอดบทเรียนการทำงานอย่างรอบด้าน จากการเก็บข้อมูลเด็กพิเศษมากว่า 6 เดือน เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เช่น เด็กที่ได้รับทุนต้องต่อสู้กับอุปสรรคเป็นสองเท่าเพื่อเอาชนะข้อจำกัดของตนเองนั้น กลับมีแววตาที่แสดงออกถึงความฝันที่อยากจะเป็นมากขึ้น มีความหวัง มีกำลังใจไม่ท้อแท้ อย่างไรก็ตามการแก้ปัญหาเด็กพิเศษต้องแก้ตั้งแต่เกิดซึ่งเด็กจะรู้จักตัวเองและฉายแววความโดดเด่นออกมา และมีโอกาสตอบแทนสังคมได้มากกว่าเด็กที่ได้รับการพัฒนาตอนโต
นางสาวพัชรีญา ก้องสูงเนิน อาจารย์วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า วิทยาลัยได้รับทุนนวัตกรรมสายอาชีพรุ่น 2 จำนวน 21 ทุน แบ่งเป็น 5 สาขาวิชา อาทิ ช่างไฟฟ้ากำลัง สาขาอิเล็กทรอนิกส์ ทุนนี้ได้ช่วยต่อยอดชีวิตทางการศึกษาให้เด็กได้อย่างมาก หากไม่มีทุนการศึกษาก็ไม่รู้ว่าเด็กจะได้เรียน หรือมีอนาคตไปทางไหน เพราะไม่สามารถโฟกัสความมั่นคงชีวิตได้ ทุนนี้ยังขยายไปสู่ครอบครัวเด็ก เพราะนอกจากใช้ในการศึกษาแล้ว เด็กยังเก็บสำรองไว้เรียนได้โดยที่ไม่ต้องรบกวนผู้ปกครอง ทุนนี้จะช่วยให้เด็กจบสูงขึ้น การทำงานดีขึ้น .-สำนักข่าวไทย