กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี” สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนปฏิบัติการพัฒนาระบบส่งคืนขยะพลาสติกสู่การรีไซเคิลที่ได้มาตรฐานและครบวงจร มุ่งสู่การเป็นวัตถุดิบยุคใหม่ สนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-curve ดึงทุกภาคส่วน รัฐ เอกชน ชุมชน ประชาชน พัฒนาวงจรใช้พลาสติกอย่างเข้าใจ
นายอภิชัย เจริญสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ส.อ.ท. เปิดเผยว่า กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งมีสมาชิกสามัญในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรวม 28 บริษัท พร้อมร่วมประกาศเจตนารมณ์กับสมาคมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เพื่อจัดการพลาสติกและขยะอย่างยั่งยืนตามหลักการเศรษฐกิจหมุนเวียน ( PPP Plastics) โดยมุ่งมั่นร่วมกันขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนพลาสติก ตามโรดแมปของประเทศว่าด้วยการจัดการขยะพลาสติก ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกแล้ว ยังเพิ่มขีดความสามารถของประเทศในการสร้างอุตสาหกรรมต้นน้ำให้กับอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (S-curve) ที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศแบบคาร์บอนต่ำ ลดภาวะโลกร้อน และรักษาความหลากหลายทางชีวภาพไปด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับระบบเศรษฐกิจไทยและการแข่งขันในเวทีการค้าโลก
การมุ่งสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมรีไซเคิลพลาสติกครอบคลุมทุกลำดับขั้นการจัดการขยะ (Waste Hierarchy) เพื่อพัฒนาเป็นวัตถุดิบต้นทางคุณภาพสูงเหมาะในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ โดยการมีระบบดึงขยะพลาสติกเข้าสู่การจัดการขยะที่ถูกต้อง ที่ปัจจุบันได้เกิดความร่วมมือของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดการผลิตและใช้พลาสติกอย่างเข้าใจทั้งระบบ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งในมิติเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
“ปิโตรเคมี เป็นอุตฯต้นน้ำ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศจากวัตถุดิบธรรมชาติได้มากถึง 10–25 เท่า มูลค่าตลอดValue Chain จนถึงการแปรรูป สร้างมูลค่ารวมกว่า 2.4 ล้านล้านบาท คิดเป็นประมาณ 13% ของGDP (ข้อมูลปี 2566)ส่งออกเกือบ 5 แสนล้านบาท หรือประมาณ 5% ของการส่งออกทั้งหมด สร้างงานกว่า 4 แสนตำแหน่งและสนับสนุน SME มากกว่า 3,000 ราย ซึ่งไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกของ UN ที่ได้ประกาศเจตนารมณ์ ในวันสิ่งแวดล้อมโลกปี 2568 ภายใต้แนวคิด “Beat Plastic Pollution: Ending global plastic pollution ใช้พลาสติกอย่างเข้าใจ เปลี่ยนประเทศไทยให้ยั่งยืน” นายอภิชัย กล่าว
ที่ผ่านมา กลุ่มอุตสาหกรรมมีความร่วมมือที่เข้มแข็งในเครือข่าย PPP Plastics มาตั้งแต่ปี 2561 มุ่งมั่นร่วมกันในการจัดการขยะพลาสติกด้วยหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน ส่งเสริมสนับสนุนนการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทุกภาคส่วนควรร่วมตั้งแต่นกระบวนการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งภาคเอกชนได้ลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่สามารถผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงเทียบเท่าเม็ดพลาสติกใหม่ที่ผลิตจากปิโตรเลียม (Virgin Plastic) อีกทั้งเพื่อเตรียมรับกับข้อกำหนดต่าง ๆ ภายใต้ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืนที่คาดว่าจะมีการประกาศใช้ในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้ไทยถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีปัญหาขยะพลาสติกในทะเลลดลงในเชิงปริมาณเปรียบเทียบ จากอันดับที่ 6 เมื่อปี 2553 เป็นอันดับที่ 10 ของโลกในปี 2564 และกำลังดีขึ้นเป็นลำดับ. -511-สำนักข่าวไทย