fbpx

10 ปีสุขภาวะชุมชน ขยายผล “ตำบลพันธุ์ใหม่”

กรุงเทพฯ 29 ต.ค..- สสส. โชว์ผลงานสุขภาวะชุมชนครบรอบ 10 ปี ร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ขับเคลื่อนพัฒนาคุณภาพชีวิต ส่งต่อ “กลไก-เครื่องมือ-หลักสูตร” ต่อยอด หวังขยายผล “ตำบลพันธุ์ใหม่” ครอบคลุมเต็มพื้นที่ อีก 4,000 ตำบล


ในงานเวทีสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น วาระ: ทศวรรษร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ (A Decade of Togetherness in Co-Creating Healthy Communities) โดยมีนายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย มอบโล่ประกาศเกียรติคุณและเกียรติบัตรสุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น ให้ “ศูนย์จัดการเครือข่ายสุขภาวะชุมชน” “ศูนย์เรียนรู้การจัดการสุขภาวะชุมชน” และ “ศูนย์ประสานงานเครือข่ายเฉพาะประเด็น” “ศูนย์เรียนรู้ ระดับดีเยี่ยม” รวมทั้งสิ้น 98 อปท. นายสมพร ใช้บางยาง ประธานเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ นำประกาศความมุ่งมั่น “สุดยอดผู้นำชุมชนท้องถิ่น” โดยมีอปท.กว่า 2,000 คน ร่วมงาน

นายธวัชชัย ฟักอังกูร ประธานกรรมการบริหารแผน คณะที่ 3 สสส. กล่าวว่า ตลอด 10 ปีการทำงานของสสส. ได้ก่อให้เกิดชุมชนเข้มแข็งที่สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงมากกว่า3,000 แห่ง ภารกิจต่อจากนี้คือ จะขยายผลทำอย่างไรให้อปท.อีก 4,000 แห่ง นำกลไก เครื่องมือ และหลักสูตร แนวทางการทำงานไปใช้ โดยได้มีการส่งมอบภารกิจเพื่อผลักดันไปสู่นโยบาย ทั้งการทำงานโดยอาศัยพื้นที่เป็นตัวตั้ง การใช้ระบบข้อมูลเพื่อทำให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม ความเป็นเจ้าของ ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นนำไปบรรจุในนโยบาย เพื่อให้ทุกพื้นที่นำเครื่องมือดังกล่าวไปใช้และส่งมอบภารกิจไปยังกรมกิจการผู้สูงอายุ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ รองรับสังคมสูงอายุ ซึ่งสสส.ดำเนินการ 4 เรื่อง คือ 1.สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ(ศพส.) 12 แห่ง ในด้านวิชาการต่างๆ และพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ 2.สนับสนุนพัฒนาศักยภาพและการดำเนินงานของศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ(ศพอส.) และศูนย์พัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและคนพิการ 3.ประสานหนุนเสริมการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง 4.สนับสนุนพัฒนานวัตกรรมรูปแบบการดำเนินงานของพื้นที่นำร่องเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ทำให้เกิดศูนย์เรียนรู้ระบบการดูลผู้สูงอายุโดยชุมชนท้องถิ่น 63 แห่ง


นางสาวดวงพร เฮงบุณยพันธ์ ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโสกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะชุมชน กล่าวว่า สสส.ทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่เป็นสมาชิกเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่กว่า3,000 อปท. ซึ่งถือเป็น 1 ใน 3 ของอปท.ทั่วประเทศ ได้พิสูจน์ผลการทำงานตลอด 10 ปีแล้วว่า เป็นต้นแบบตำบลสุขภาวะ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น “ตำบลพันธุ์ใหม่” ที่มีลักษณะเด่น 3 ประการ คือ 1. สามารถทำงานโดยอาศัยความร่วมมือของ 4 องค์กรหลักในพื้นที่ ได้แก่ ท้องถิ่น ท้องที่ หน่วยงานภาครัฐ และภาคประชาสังคม เพราะหากทั้ง 4 ส่วนไม่ร่วมกันทำงาน งานก็ไม่ประสบความสำเร็จ 2.การทำงานโดยอาศัยฐานข้อมูลชุมชน ที่เป็นของชุมชน และสอดคล้องกับความจริง 3.การตั้งเป้าหมายร่วมกันในพื้นที่ ชุมชนต้องมีเป้าหมายเดียวกัน คือ พัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน ทำให้ทุกข์น้อย สุขมาก ซึ่งทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถจัดการตนเองได้ และคาดว่า จะสามารถขยายผลตำบลพันธุ์ใหม่ ครอบคลุมอปท.ทั่วประเทศได้ภายใน 5 ปี โดยนำกลไก เครื่องมือ และหลักสูตรแนวทางต่างๆ ไปปรับใช้

ด้านรศ.ดร. ขนิษฐา นันทบุตร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาระบบสุขภาพชุมชน(ศวช.) กล่าวว่า 10 ประเด็นสำคัญ ที่สสส. ได้สรุปบทเรียน ได้แก่ 1.คุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ 2. การดูแลเด็กปฐมวัยในชุมชน 3.การเฝ้าระวังความรุนแรงในครอบครัว 4. การจัดการขยะ 5.การจัดการภัยพิบัติ 6. การดูแลสุขภาพในชุมชน(การแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่างๆ) 7. การจัดการอาหารในชุมชน 8.เศรษฐกิจชุมชน 9.การควบคุมการบริโภคยาสูบและสารเสพติด 10. การลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอุบัติเหตุจราจร เหล่านี้เป็นปัญหาของชุมชนที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน ด้วยกลไกการทำงานของสสส.และเครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ทำให้เกิดการรวมตัวเรียนรู้และแก้ปัญหา เกิดข้อเสนอ แนวทาง และวิธีการปฏิบัติ ต้นแบบนำร่องด้านต่างๆ ที่หากชุมชนเกิดปัญหา ก็สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการทำงานได้ทันที โดยใช้กลไกการสานพลังในพื้นที่ สานพลังผู้นำ และสานพลังองค์กร เป็นปัจจัยความสำเร็จในการทำงานของเครือข่ายฯ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

ข่าวแนะนำ

คุมเพลิงไหม้ “วิน โพรเสส” ได้แล้ว 95%

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย วินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง วันนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้แล้ว 95% เหลือเพียงจุดความร้อนที่อยู่ใต้ซากกองเพลิง ซึ่งยังต้องใช้สาร F500 ฉีดลดความร้อน แต่ยังมีกลิ่นฉุนแอมโมเนีย ด้านกรมโรงงานอุตสาหกรรมเช็กกล้องวงจรปิดตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิงเพื่อทำลายหลักฐานเช่นเดียวกับเหตุที่เกิดขึ้นใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา หรือไม่

นายกฯ แจงเรียก “สุชาติ-รัฐมนตรี” เข้าพบ แค่ตามงาน

นายกฯ อารมณ์ดี เดินลงตึกไทยฯ พบสื่อ แจงเรียก “สุชาติ-รมต.” มีชื่อหลุด ครม.เข้าพบแค่ตามงาน ย้ำปรับ ครม.เสร็จเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้ ยันกินข่าวเที่ยงวานนี้ไม่มี ”ทักษิณ“

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กทม.ครั้งแรกของปี

วันนี้เป็นครั้งแรกของปีที่ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับพื้นที่ กทม. ส่งผลให้ดวงอาทิตย์เคลื่อนผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะ หรือตั้งฉากกับพื้นที่บริเวณต่างๆ ของไทย 2 ครั้งต่อปี คือช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. และเดือน ก.ค.-ก.ย.