กรุงเทพฯ 27 ต.ค.-สภาสังคมสงเคราะห์ฯ ชวนส่งคลิปวิดีโอ รณรงค์ให้เด็กสวมหมวกกันน็อก ป้องกันความพิการและเสียชีวิต จากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ ชิงถ้วยพระราชทานและรางวัลเลิศ กว่า 100,000บาท
พญ.สุวณี รักธรรม รองประธานสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนางอารยา อรุณานนท์ชัย ประธานคณะกรรมการโครงการเผยแพร่การป้องกันความพิการและการฟื้นฟูสมรรถภาพ และ นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ร่วมแถลงข่าว โครงการรณรงค์การป้องกันความพิการ ผ่าน การประกวด “ร้อง เล่น เต้น เพลงพี่หัวดี” โดยเชิญชวน นักเรียน นักศึกษา และสถานศึกษา ร่วมส่งผลงานการจัดทำคลิปวิดีโอ รณรงค์การใส่หมวกกันน็อก และประชาสัมพันธ์ถึงความสำคัญของการสวมหมวกกันน็อก โดยใช้เพลง พี่หัวดี ประกอบผลงาน และความยาวไม่เกิน 2 นาที
เนื่องจากสาเหตุสำคัญของความพิการและเสียชีวิตในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ที่เกิดจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คือการไม่สวมหมวกกันน็อก โดยสามารถส่งผลงาน เข้าประกวด ภายในวันที่ 30 พ.ย.63 นี้ และจะประกาศผล วันที่ 16 ธันวาคม 2563 โดยผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ จะได้รับเงินรางวัลกว่า 100,000บาท พร้อมถ้วยพระราชทาน
นางอารยา กล่าวว่า สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการโครงการเผยแพร่การป้องกันความพิการและการฟื้นฟูสมรรถภาพ ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดความพิการ โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากผู้ขับขี่ขาดความรู้ ความเข้าใจ ในการขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่เคารพกฏจราจร รวมไปถึงขาดจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการสวมใส่หมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อก สาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ต้องเสียชีวิตหรือพิการเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อให้เด็กหันมาใส่หมวกกันน็อกตั้งแต่ครั้งแรกที่ขับขี่หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
นพ.แท้จริง กล่าวว่า อุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์ เป็นสาเหตุสำคัญทำให้เกิดความสูญเสีย โดยพบว่าเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ร้อยละ7 เท่านั้น ที่สวมหมวกกันน็อก เมื่อเกิดอุบัติเหตุทำให้เสียชีวิตกว่าปีละ 1,000 คนและเกิดความพิการกว่า 6,000 คน หากมีการรณรงค์อย่างจริงจัง ฝังเข้าไปถึงจิตสำนึกตั้งแต่ยังเด็ก จะสามารถลดความพิการและเสียชีวิตได้ จะทำอย่างไรให้เด็กไทย สวมหมวกกันน็อกตั้งแต่เริ่มก้าวขาซ้อนมอเตอร์ไซค์ เหมือนการสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน และอยากให้มองว่า หมวกกันน็อก คือวัคซีน หากเด็กอยากหัวดี ไม่ใช่เรียนพิเศษอย่างเดียว แต่ต้องใส่หมวกกันน็อกเพื่อป้องกันหัวของตัวเองด้วย จึงตั้งชื่อเพลงว่า พี่หัวดีและเพื่อให้เด็กจดจำว่า เมื่อต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์ ต้องใส่หมวกกันน็อกเป็นนิสัย ขณะที่ร้องเล่นเต้น จะมีเพลงอยู่ในหัวใจ เมื่อโดขึ้นก็จะสวมหมวกกันน็อกอัตโนมัต เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ .-สำนักข่าวไทย