รัฐบาลเผยผลงานการจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย

สำนักข่าวไทย ๙ ต.ค.- รัฐบาลเผยรายงานผลการดำเนินงาน ๑ ปี ในการจัดเตรียมมาตรการรองรับภัยแล้งและอุทกภัย ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่องของรัฐบาล ตัวอย่างผลงานสำคัญของกระทรวงต่างๆ ดังนี้

  • กระทรวงมหาดไทย  “ก่อนเกิดภัย” ปรับปรุงหรือทบทวนแผนปฏิบัติการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  จัดทำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และแผนสนับสนุนการปฏิบัติงานในภาวะฉุกเฉินกลุ่มจังหวัด  โครงการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พ.ศ. ๒๕๖๒ จัดการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุฯ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ระยะเวลา ๑๐ วัน ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมเฉพาะหน้าที่ มีผู้เข้าร่วมการฝึก จำนวน ๕๗๗ คน จาก ๒๓ ประเทศ แบ่งเป็น ประเทศไทย ๓๙๗ คน และต่างประเทศ ๑๘๐ คน   โครงการเสริมสร้างศักยภาพชุมชนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มีการผลิตสื่อวีดีทัศน์ เรื่อง“ชุมชนเตรียมพร้อมป้องกันภัยใกล้ตัว” 
    ๒ การให้ความช่วยเหลือ “ระหว่าง” เกิดภัย จัดซื้อสิ่งของสำรองจ่าย ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณเวลามาตรฐานภายใน ๗๒ ชั่วโมง 
    ๓. การแก้ไขปัญหาใน “ระยะยาว” โดยเฉพาะ “ระบบเตือนภัย” มีโครงการเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยพิบัติด้านการเตือนภัย พร้อมออกโทรสาร รวมทั้งสิ้น ๕๘ ฉบับ และส่งข้อมูลรายงานข่าวแผ่นดินไหว (SMS) รวมทั้งสิ้น ๑๘๒ ครั้ง ดำเนินการบำรุงรักษาหอเตือนภัย จำนวน ๑๙๓ แห่ง  ฝึกซ้อมการปฏิบัติการแจ้งเตือนภัยและอพยพประชาชนจากภัยสึนามิ ในพื้นที่ ๖ จังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามัน และสร้างและพัฒนาเครือข่ายการแจ้งเตือนภัยพิบัติภาคประชาชน
    ๔. การจัดเตรียมมาตรการรองรับอุทกภัย
    ๕. การจัดเตรียมมาตราการรองรับภัยแล้ง  
    ๖. การป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เปิดจุดจ่ายน้ำทั้ง ๑๘ สาขา รวมทั้งสิ้น ๒๗ จุด เพื่อให้บริการในกรณีเกิดปัญหาภัยแล้ง รวมทั้งรณรงค์ให้ประชาชนสำรองน้ำในช่วงภัยแล้งและสามารถรับน้ำได้ที่จุดจ่ายน้ำที่ กปน.จัดเตรียมไว้ 
  • กระทรวงกลาโหม  โครงการจุดเจาะบ่อบาดาล การทำฝายชะลอน้ำ การจัดทำอ่างเก็บน้ำเพื่อการเกษตรให้กับชุมชน
  • กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
    ๑. ประเมินพื้นที่เสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำใน ๓๐ จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อดำเนินการจัดหาแหล่งน้ำต้นทุนในการบริหารจัดการและแจกจ่ายน้ำเพื่อการบริโภค 
    ๒. ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในพื้นที่เป้าหมาย ๒๕ จังหวัด ๑๔๖ อำเภอ ๗๘๔ ตำบล ๔ เทศบาล ๖,๘๔๖ หมู่บ้าน [จังหวัดที่ประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง)] โดยมีผลการดำเนินงาน ระหว่างเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ – ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ สนับสนุนน้ำเพื่อการเกษตร ๑๐๔.๙๑ ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ ๑๗๕ จากเป้าหมาย ๖๐ ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์กว่า ๒๑๕,๔๘๕ ไร่ ใน ๔๙ จังหวัด  สนับสนุนน้ำสะอาด ๓๒.๐๕ ล้านลิตร คิดเป็นร้อยละ ๑๑๔๐ จากเป้าหมาย ๒๒.๗๖ ล้านลิตร ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า ๔๔๔,๘๐๗ ครัวเรือน  ขุดเจาะบ่อน้ำบาดาล ๒,๗๒๓ บ่อ คิดเป็นร้อยละ ๙๖ จากเป้าหมาย ๒,๘๓๑ บ่อ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะได้ปริมาณน้ำ ๒๑๑.๙๔ ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า ๓ แสนครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์กว่า ๗ หมื่นไร่ เติมน้ำใต้ดิน ๕๓๐ แห่ง ๒.๓ เปิด “จุดจ่ายน้ำบาดาล บริการฟรี” กว่า ๒๒ แห่ง ทั่วประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากภาวะภัยแล้งให้แก่ประชาชน ๒.๔ สำรวจทางธรณีวิทยาเพื่อวางแผนการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้ง ๒.๕ การจัดหาแหล่งน้ำ และระบบกระจายน้ำนอกเขตชลประทานกว่า ๖๐๐ แห่ง ความจุเก็บกักน้ำเพิ่มขึ้น ๒๔๒ ล้านลูกบาศก์เมตร ประชาชนได้รับประโยชน์ ๑๕๕,๓๙๙ ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับประโยชน์ ๔๙๙,๔๙๕ ไร่ ๒.๖ การเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์น้ำท่วม โดยเตรียมพื้นที่ลุ่มต่ำ (โขง ชี มูล ปากน้ำชี-มูล) เพื่อรองรับน้ำหลาก และปรับปรุงสิ่งกีดขวางทางน้ำ ๕๗ แห่ง
  • กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ การดำเนินงานภายในบ้านพักเด็กและครอบครัว ๗๗ จังหวัด และการดำเนินงานภายในสถานรับรอง ๓๐ แห่ง
  • กระทรวงพลังงาน โครงการสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์สู้ภัยแล้งเพื่อการเกษตรส่งเสริมการติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ภัยแล้ง ปี ๒๕๖๒ สนับสนุนโครงการสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร จำนวน ๑,๒๓๖ ระบบ (ดำเนินการแล้วเสร็จ ๓๑๙ ระบบ)  ปี ๒๕๖๓ อยู่ระหว่างพิจารณากลั่นกรองโครงการของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองงบประมาณของกองทุนรวมได้สนับสนุนติดตั้งระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว จำนวน ๓,๕๒๘ ระบบ มีครัวเรือนภาคเกษตรที่ได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า ๒๔,๖๙๖ ครัวเรือน พื้นที่เกษตรได้รับประโยชน์ ๕๒,๙๒๐ ไร่ มีการผลิตและใช้พลังงานทดแทน ๑,๑๐๗๔๕ toe/ปี
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
    ๑. การจัดการน้ำชลประทาน บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ชลประทานเดิม (๒๕.๔๐ ล้านไร่) ๒. โครงการบรรเทาอุทกภัย จำนวน ๗ โครงการ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมืองนครศรีธรรมราช คลองระบายน้ำบางบาล-บางไทร จ.อยุธยา เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ  ประตูระบายน้ำลำน้ำพุง-น้ำก่ำ จ.สกลนคร  ปรับปรุงคลองยม- น่าน โครงการป้องกันและบรรเทาภัยจากน้ำ ในพื้นที่ เกษตรกรรมและพื้นที่เขตเศรษฐกิจ   
    ๒. การอำนวยการด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร๑. ภัยแล้ง ช่วงภัยเดือน ก.ย. ๖๒ ถึงปัจจุบัน  ด้านพืช ประสบภัย ๒๗ จังหวัด เกษตรกร ๒๖๒,๘๐๘ ราย จ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว ๑๗๘,๐๑๙ราย พื้นที่ ๑,๖๙๗,๔๓๓ไร่ ๑,๘๙๙.๐๗ ล้านบาท และอยู่ระหว่างขอขยายวงเงินทดรองฯ กับ ก.คลัง ๒ จังหวัด (จ.อุทัยธานีและสงขลา วงเงิน ๕๔.๓๕ ล้านบาท) ด้านปศุสัตว์ ประสบภัย ๒ จังหวัด (กาญจนบุรี นครราชสีมา) เกษตรกร ๑,๗๘๓ ราย จำนวนสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัย ๕๐,๑๙๕ ตัว ๒. อุทกภัย ช่วงภัยวันที่ ๒๔ ส.ค. ๖๒- ๓ มี.ค. ๖๓ ด้านพืช พบความเสียหาย ๓๐ จังหวัด ช่วยเหลือตามระเบียบฯ เกษตรกร ๒๔๑,๔๙๔ ราย พื้นที่ ๑,๙๙๔,๑๗๒ ไร่ วงเงินให้ความช่วยเหลือ ๒,๒๓๑.๑๙ ล้านบาท  ด้านประมง เสียหายแล้ว ๒๔  จังหวัด เกษตรกร ๑๓,๕๒๐ ราย พื้นที่เสียหายสิ้นเชิงรวม ๑๒,๒๘๒ คิดเป็นวงเงิน ๖๐.๒๑ ล้านบาท จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรเรียบร้อย   ด้านปศุสัตว์ พบความเสียหายแล้ว ๑๓ จังหวัด เกษตรกร ๑,๐๕๘ ราย สัตว์ตายหรือสูญหาย ๕๘,๖๕๓ ตัว วงเงิน ๓.๐๗ ล้านบาท จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรเรียบร้อยแล้ว  ๓. วาตภัยลูกเห็บ ช่วงภัยเดือน ม.ค. – ก.พ. ๖๓  พื้นที่การเกษตรประสบวาตภัยลูกเห็บ ๒๕ จังหวัด เกษตรกร ๑.๔๕๑ ราย พื้นที่ ๓,๕๒๖ ไร่ วงเงิน ๕.๓๖ ล้านบาท  จ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว ๗๔๖ ราย พื้นที่ ๒,๔๓๓ ไร่ เป็นเงิน ๓.๖๑ ล้านบาท 
    ๓. โครงการการปฏิบัติการฝนหลวง  ปฏิบัติการฝนหลวง ๑,๘๑๙ วัน พื้นที่ได้รับประโยชน์ ๒๑๘.๐๘ ล้านไร่  พื้นที่การเกษตรได้รับการช่วยเหลือ ร้อยละ ๗๔.๑๕ เติมน้ำในเขื่อนได้ร้อยละ ๘๔.๘๖
  • กระทรวงคมนาคม ขุดลอกพัฒนาและบำรุงรักษาร่องน้ำตามแผนงานการบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ศอ บต อนุรักษ์ฟื้นฟู และการใช้ประโยชน์ป่าชุมชน ป่าเศรษฐกิจ ปรับปรุงระบบการจัดการน้ำเพื่อการ เกษตร และอุปโภคบริโภค รวมทั้งแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ จัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมในชุมชนอย่างเป็นระบบ โครงการบูรณาการ “การสร้างสมดุลการพัฒนาสู่ความก้าวหน้าอย่างยั่งยืน” เพื่อเชื่อมโยงงานของส่วนราชการและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้เกิดผลเป็นรูปธรรม


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]