ทำเนียบรัฐบาล 8 มี.ค.- “ธนกร” ย้ำ ผลงานรัฐบาล เพิ่มค่าตอบแทน อสม. เดือนละ 2,000 บาทต่อคน ครม.อัดงบกว่า 13,000 ล้านบาท ไร้ศึกชิงผลงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เป็นผลงานของทุกคน
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการเพิ่มค่าป่วยการอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) เป็นเดือนละ 2,000 บาทต่อคน ว่า ต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจำนวน 13,081 ล้านบาท และเริ่มจ่ายค่าป่วยการอัตราใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ปีงบประมาณ 2567 ซึ่งมติดังกล่าวรัฐบาลภายใต้การกำกับของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เห็นถึงความสำคัญของ อสม. และ อสส. ทั้งหมด 1,090,163 คน เพราะเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมระบบสุขภาพปฐมภูมิ เป็นหมอประจำบ้านช่วยงานด้านสาธารณสุขในชุมชน โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด – 19 ซึ่งค่าป่วยการของ อสม. และ อสส. เดือนละ 1,000 บาท เป็นอัตราที่ใช้มาตั้งแต่ธันวาคม 2561 แต่ปัจจุบันภารกิจเพิ่มขึ้นตามนโยบายรัฐบาลที่เน้นการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค อสม. และ อสส. ต้องมีหน้าที่คัดกรองเพื่อประเมินภาวะสุขภาพผู้สูงอายุในชุมชน ช่วยคัดกรองโควิดและติดตามผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติดในระบบสมัครใจบำบัด จึงพิจารณาเพิ่มค่าป่วยเพื่อตอบแทนความทุ่มเทในการทำงาน
นายธนกร กล่าวว่า การเพิ่มค่าป่วยการ อสม.และ อสส.ถือเป็นผลงานของรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ และเป็นความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาลทุกฝ่าย จึงไม่เป็นห่วงว่า จะทำให้เกิดความขัดแย้งบานปลายระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลในการนำนโยบายไปใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง เพราะเป็นผลงานร่วมกันของทุกคน ตลอดระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรีได้เน้นนโยบายการดูแลกลุ่มเปราะบาง ย้ำเรื่องการใช้งบประมาณให้คุ้มค่าเพื่อเกิดประโยชน์กับประชาชนที่สุด ทุกโครงการที่ทำเพื่อประชาชนตามเงื่อนไขข้างต้นนายกรัฐมนตรีอนุมัติทุกโครงการ ดังนั้นเมื่อเป็นผลงานของรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาลสามารถนำไปต่อยอดเพื่อสานต่อนโยบายได้ ในขณะที่พรรครวมไทยสร้างก็พร้อมสานต่อนโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” เช่น นโยบายบัตรสวัสดิการพลัส การเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 1,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ไม่เกิดความสับสน ประชาชนรักใครชอบใครก็เลือกคนนั้น ผลงานและความทุ่มเทในการทำงานตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาประชาชนรับรู้ได้
นายธนกร กล่าวว่า ล่าสุดนายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้เร่งรัดการพัฒนาระบบคลาวด์กลางด้านสาธารณสุขของไทย (National Health Information Platform) เชื่อมโยงข้อมูลด้านสุขภาพ อำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงระบบสาธารณสุขอย่างทั่วถึง ครอบคลุมการให้บริการผ่านโรงพยาบาลทุกระดับกว่า 15,000 แห่ง รองรับการให้บริการทางการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย