ก.แรงงาน 27 ส.ค.-สมาคมประมงฯเสนอ รมว.แรงงาน ช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคประมงทะเล – แก้ไขกฎระเบียบของกระทรวงฯ เรื่องการจ่ายค่าจ้างให้แรงงานเสมอภาคอาชีพอื่นๆ รวมทั้งขอให้ยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าให้กลุ่มแรงงานที่วีซ่าหมดอายุ 30 ก.ย.นี้
นายกำจร มงคลตรีลักษณ์ ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เข้าพบนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง พร้อมหารือให้ช่วยแก้ปัญหาการ ขาดแคลนแรงงานในภาคประมงทะเลและปัญหาต่างๆ เช่น การขยายระยะเวลาการดำเนินการแรงงานต่างด้าวตามมาตรา 83 การแก้ไขกฎระเบียบของกระทรวงแรงงาน เช่น ระเบียบการจ่ายค่าจ้างให้แรงงาน เนื่องจากไม่มีความเสมอภาคกับอาชีพอื่น ๆ แก้ไขกฎหมายให้แรงงานประมงทะเลทุกประเภท สามารถเพิ่มนายจ้างแทนการเปลี่ยนนายจ้างได้
นอกจากนี้ขอให้ยกเว้นการตรวจลงตราวีซ่าให้กลุ่มแรงงานที่วีซ่าหมดอายุ 30 ก.ย.นี้ รวมทั้งหารือกับกระทรวงมหาดไทยในการออกบัตรประชาชนให้คนไทยกว่า 4,000 คน ที่ประสงค์จะทำงานบนเรือประมง แต่ไม่สามารถลงเรือไปทำได้เพราะไม่มีบัตรประชาชน จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกบัตรหมายเลข 0 เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถทำงานบนเรือประมงได้ ตลอดจนขอให้หน่วยเกี่ยวข้องจัดหางานแรงงานไทยเพื่อทำงานในเรือประมงจำนวน 50,000 คน ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด รวบรวมบุคคลที่ต้องการทำงานบนเรือประมง เพื่อจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการทำงานบนเรือประมงในแต่ละประเภทเครื่องมือ
รมว.แรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานจะหารือแก้ไขปัญหาข้อเรียกร้องทั้งหมด พร้อมทั้งจะมอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯดำเนินการและหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป ซึ่งการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคประมงทะเลนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (IUU)
รวมทั้งการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน โดยขอให้แต่ละส่วนราชการบูรณาการการทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะปัญหาแรงงานประมง เพื่อยกระดับไปสู่ Tier 1 เสริมสร้างความมั่นใจให้กับการส่งออกสินค้าไทย เพื่อเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะการเร่งฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลายลง
ด้าน รมช. แรงงาน กล่าวว่า สมาคมประมงเสนอให้กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดำเนินการพัฒนาทักษะให้กับแรงงานไทยที่ว่างงาน หรือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ที่ต้องการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการประมง โดยจัดฝึกอบรมเพื่อพัฒนาฝีมือแรงงานด้านการประมง เช่น ฝึกอบรมให้ความรู้ด้านซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ หรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้บนเรือประมง ทักษะด้านภาษา อาทิ ภาษาพม่า กัมพูชา เป็นต้น เพื่อจ้างแรงงานไทยให้ทำงานบนเรือหรือจุดท่าเรือ ให้สามารถทำหน้าที่สื่อสารระหว่างนายจ้างกับลูกจ้างแรงงานต่างด้าวได้ ช่วยให้การสั่งงานหรือสื่อสารอื่นๆ ที่มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งปัจจุบัน ยังมีความต้องการแรงงานประมงกว่า 50,000 อัตรา ค่าจ้างกว่า 10,000 บาทต่อเดือน
“ขอให้สมาคมประมงสบายใจ และมั่นใจในการทำงานของรัฐบาลและข้าราชการกระทรวงแรงงาน เพราะเรามีความจริงใจที่จะช่วยแก้ปัญหาด้านแรงงงานประมง แต่ขอให้เข้าใจว่าภาครัฐต้องดำเนินการภายใต้ของกฎหมายในหลายมิติ ซึ่งต้องมีการดำเนินงานอย่างละเอียด รอบคอบ ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาแรงงานประมงทะเลให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด” รมช. แรงงาน กล่าวในท้ายสุด