กรุงเทพฯ 18 ส.ค. – การออกมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ทั้งชู 3 นิ้ว ผูกริบบิ้นขาว และการแสดงออกทางการเมืองของนักเรียนหลายโรงเรียนในขณะนี้ กำลังเป็นประเด็นร้อนระหว่างครูและนักเรียน มุมมองและทางออกร่วมกันควรเป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน
ภาพนักเรียนรวมตัวแสดงจุดยืนทางการเมือง เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและความเป็นประชาธิปไตย ที่เกิดขึ้นในหลายโรงเรียนขณะนี้ ลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งระหว่างครูและนักเรียน เมื่อมีการปิดกั้นและห้ามแสดงออก เป็นปรากฏการณ์ที่สังคมกำลังจับตา
นักวิชาการด้านการศึกษา ให้มุมมองว่า การมีความคิดเห็นที่แตกต่าง เป็นเรื่องปกติของการอยู่ร่วมกันในสังคม การออกมาแสดงจุดยืนของเด็กในหลายโรงเรียน เป็นสิ่งสะท้อนว่า เยาวชนตื่นตัวกับประเด็นทางสังคม บ้านเมือง และไม่เพิกเฉย การห้ามแสดงความเห็นต่างในโรงเรียน ไม่ใช่ทางออก ยิ่งเป็นการผลักเด็กให้ออกไปชุมนุมบนถนน สิ่งสำคัญคือ การเปิดใจรับฟัง ให้พื้นที่ เพราะโรงเรียนคือพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก
ขณะที่จิตแพทย์วิเคราะห์พฤติกรรมการแสดงออกของเด็กว่า มาจากสภาพสังคมเปลี่ยน ทั้งครอบครัว ความคิด จากสภาพแวดล้อม การเข้าถึงเทคโนโลยีได้ง่าย ช่วยหาคำตอบที่สงสัย เบ้าหล่อความคิด จึงไม่ใช่พ่อแม่ บวกมีโลกโซเชียล เชื่อมคนที่มีความคิดคล้ายกันได้มาพูดคุย แสดงทางออก จึงทำให้เกิดมองเป็นภาพรวมของเยาวชนกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ ความคิดเห็นเหล่านี้ไม่มีถูก ไม่มีผิด ความแตกต่างเป็นสมดุลที่ทุกสังคมต้องมี และต้องอยู่ร่วมกันได้ ฉะนั้น ครู นักเรียน หรือแม้แต่พ่อแม่ ต้องค่อยๆ พูดจาอย่างมีสติ ไม่ใช้ความรุนแรง หรือพูดเหยียดความคิด ปรามาสอนาคตของฝ่ายตรงข้ามด้วยความชัง
การแสดงออกทางความคิดโดยเสรี เป็นสิทธิพื้นฐานของประชาธิปไตย แต่ต้องเคารพซึ่งกันและกัน ไม่กล่าวโทษ เพื่อความสวยงามทางประชาธิปไตย. – สำนักข่าวไทย