นายกฯ ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น​กับเยาวชน​ “น้องถามพี่ตอบ​”

ทำเนียบฯ 11 ม.ค. – นายกฯ ร่วมวงแลกเปลี่ยนความเห็นกับเยาวชน บอก​ 3 แรงบันดาล​ใจ​คือพ่อเคยเป็นนายกรัฐมนตรี​ สานต่อนโยบาย​ 30 บาท​รักษาทุกโรค​ ลั่น​ภูมิใจหากไม่ได้อยู่ในตำแหน่งแต่นโยบายยังอยู่กับประชาชน


นางสาวแพทองธาร​ ชิน​วัตร​ นายกรัฐมนตรี​ ร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น​กับเยาวชน​ “น้องถามพี่ตอบ​” โดยนายกรัฐมนตรี​เปิดใจหลังเข้ามารับตำแหน่ง​ว่า ตนเชื่อว่าทุกอาชีพทุกตำแหน่งเหนื่อยคนละแบบ เป็นนายกรัฐมนตรีก็เหนื่อย​ แต่เหนื่อยปกติที่คนอื่นเขาเหนื่อยกัน อาจจะมีวันหยุดน้อย เพราะหากเราหยุดอาจโดนติเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วไม่เหนื่อย​ เพราะมีกำลังใจที่ดีมาก เวลาผลงานที่ออกไปเราทำอะไรด้วยความตั้งใจ เพราะตั้งใจทำ ได้รับประโยชน์จากตรงนั้นตรงนี้ก็อิ่มใจฟู​ ซึ่งตนจะทำเรื่องของทุนการศึกษา​ หากใครมีโอกาสในการศึกษาเพิ่มขึ้น และพูดว่าด้านการศึกษาเพิ่มขึ้นจากรัฐบาลนี้​ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ตนนั้นหายเหนื่อย

ส่วนนายกรัฐมนตรี​ที่เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดยากหรือไม่​ นายกรัฐมนตรี​ ระบุว่า​ ทุกอายุมีความสามารถ การเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดก็สร้างประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทย ตนคิดว่าด้วยเนื้องานของการทำงานไม่ได้ต่างจากผู้ชาย ตนคิดว่าคนที่มีความตั้งใจสามารถทำได้อย่างแน่นอน แต่อยากจะมีในเรื่องการบูลลี่ในเรื่องของความเป็นผู้หญิง​ ซึ่งในสังคมเปิดกว้างขึ้นโลกเปิดกว้างขึ้น มีการพัฒนาตรงนี้มากขึ้น คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะน้อยลง​ ตนเคยอ่านหนังสือเขาบอกว่านักการเมืองหญิงทั่วโลกจะถูกบูลลี่ในเรื่องต่างๆ​ บูลลี่คืออะไร เป็นผู้หญิงจะถูกล้อทำไมใส่ชุดนั้นชุดนี้ เป็นผู้ชายใส่ชุดเดียว สิ่งที่ยากคือตรงนี้​ แล้วถามว่าจะทำอย่างไรกับการโดนบูลลี่​ เราต้องรู้คุณค่าจากตัวเราก่อนว่าเรามาทำตรงนี้เพื่ออะไร มีความตั้งใจอย่างไร เรามีดีอะไรบ้าง เราอยากทำเรื่องดีๆ ให้ใครบ้าง นี่คือสิ่งที่เราตั้งใจและมีสติให้มาก คำว่าสติเขาจะสอนมาตั้งแต่ตัวเล็กๆ ให้มีสติ เราจะฟังกันผ่านๆ เมื่อโตขึ้นเมื่อชีวิต มีเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้น เราจะคิดว่าตรงนี้จะสำคัญขึ้นเรื่อยๆ บอกไว้ก่อน เมื่อโตขึ้นไปก็จะรู้ว่าคำนี้นั้นสำคัญมากๆ


ส่วนแรงบันดาลใจในการทำงาน​ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า คุณพ่อของตนเคยเป็นนายกรัฐมนตรี​ เคยทำนโยบายไว้ให้ประเทศชาติจนถึงทุกวันนี้คือ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ซึ่งเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนฝั่ง นโยบายนี้ยังอยู่ ตนรู้สึกว่าไม่ต้องพูดถึงชื่อพ่อ แต่คนยังได้ประโยชน์จากนโยบายนี้อยู่ จนรู้สึกว่าตนอยากทำนโยบาย ไม่ว่าตัวของตนจะไปอยู่ที่ใด แต่ประโยชน์นี้ยังคงอยู่กับประชาชน ถ้าทำได้ตนจะมีความภูมิใจเป็นอย่างมากว่าเราไม่ต้องป่าวประกาศ แต่เรื่องดีๆ เหล่านี้ยังตกอยู่ที่ประชาชน ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปกี่ยุคกี่สมัย นอกจากนี้แรงบันดาลใจของตนคือการเห็นประเทศชาติวุ่นวาย แล้วเรามีโอกาสมาทำตำแหน่งนี้ ทำเรื่องต่างๆ ให้เปลี่ยนแปลงไปได้ นั่นคือแรงบันดาลใจ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ประชาชนได้เยียวยา​ ถนนได้ถูกซ่อม​ ชีวิตได้ถูกดูแล​ นั่นคือแรงบันดาลใจที่สำคัญ​ และสิ่งสำคัญคือแรงบันดาลใจที่บ้านคือลูก ลูกคือความหวัง คืออนาคต โตขึ้นมาอย่างสวยงาม คุณพ่อคุณแม่ภูมิใจเรา มีสิ่งดีๆ ในตัวเราเยอะ ตนจึงรู้สึกว่าลูกคือแรงบันดาลใจ ถ้าอย่างน้อยๆ ในช่วงที่ตนเป็นนายกฯ ได้สร้างอะไรดีๆ ให้กับประเทศ นั่นก็เป็นเหมือนการเตรียมพร้อมอนาคตส่วนหนึ่งให้กับลูก

ขณะที่จะสามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้อย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นั่นคือหน้าที่ของรัฐบาล นั่นคือความตั้งใจของ ครม. และของทุกคน ไม่ว่าจะเป็น สส.ในพื้นที่ ความเดือดร้อนของประชาชนทำให้เราก้าวเข้ามาในการเมือง เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่เราพยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา

นายกรัฐมนตรี ถามเด็กๆ ว่า​ตอนนี้เด็กๆ มีปัญหาอะไรบ้าง​ ทำให้เด็กอธิบายว่าเป็นปัญหาน้ำท่วม ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงว่าเมื่อเกิดน้ำท่วมรัฐบาลจะต้องดูแลเป็นหลัก ซึ่งตนอยากให้จะมีการแก้ไขปัญหาในระยะยาว หาพื้นที่ใดสามารถมีสิ่งก่อสร้างใดๆ หรือแก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยีทางการได้บ้างให้หายไปได้หรือลดน้อยลงไปได้ จะพยายามมุ่งไปสู่ทางนั้น แต่อะไรที่ต้องรอการสร้างขอให้รอสักหน่อย รับการเยียวยาไปก่อนหรือดูแลเรื่องถูกยังชีพ ซึ่งพื้นที่ไหนที่มีน้ำท่วม ตนเข้าใจว่าอยากให้แก้ไขปัญหาเพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซากอีก


นายกรัฐมนตรี​ ยังระบุว่า​ รู้​หรือไม่ว่าทุกวันนี้ที่เราเป็นเด็กตื่นขึ้นมาสดใส แต่งตัวออกไปทานข้าว ไปโรงเรียน ตั้งใจเรียน มีเพื่อน นั่นคือได้ทำเพื่อประเทศแล้ว ก่อนจะถามกลับว่ารู้ไหมว่าทำไม เพราะการหาความรู้ไว้จะเป็นคนที่มีคุณภาพขึ้นเรื่อยๆ มีความรู้มีแนวทาง ที่อีกหน่อยเมื่อโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่จะสามารถช่วยประเทศได้ในด้านต่างๆ เราไม่ยุ่งกับยาเสพติดนั่นก็ทำให้ประเทศชาติมีคนที่มีคุณภาพเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องมาแก้ไขปัญหา ตำรวจไม่ต้องมาเสียเวลาจับเรื่องยาเสพติด เพราะทุกคนไม่มีใครยุ่งกับยาเสพติด แค่นี้ก็ช่วยประเทศชาติได้เยอะมากแล้ว​ เรื่องเด็กๆ พวกนี้ที่กำลังตั้งใจเรียนกันอยู่ เรียนทำไมวิชานี้วิชานั้นเรียนกันทำไม มันได้ใช้เพราะจะทำให้มีประสบการณ์ที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และสามารถหาความรู้ได้ทุกโอกาส เพราะฉะนั้นขอให้ตั้งใจเรียน

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี​ยังขอให้เด็กๆ ใช้วัยเด็ก​อย่างเต็มที่​ ตั้งใจเรียนเล่นกับเพื่อนให้เต็มที่ เพราะเพื่อนที่เราเล่นกันอยู่ทุกวันนี้คือเป็นการปรับตัวอย่างหนึ่ง พยายามเปิดใจให้กว้าง มีน้ำใจกับเพื่อนๆ รอบข้าง จริงๆ แล้วสังคมเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ จึงอยากให้ทุกคนพร้อมปรับตัว และสร้างโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้จากทุกคน เพราะความรู้เป็นสิ่งเดียวที่ไม่มีใครเอาไปจากเราได้

นายกรัฐมนตรี​ยังตอบคำถามถึงความเห็นในครอบครัวที่ไม่ตรงกัน​ว่า ปัญหานี้ไม่ใช่เกิดขึ้นบ้านใดบ้านหนึ่ง แต่หลายๆ บ้านความต้องการของผู้ปกครองและเด็กไม่ตรงกัน ซึ่งอย่างแรกเราควรจะพูดคุยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนสามารถแนะนำได้ก็จะพูดว่าเราควรจะฟังจากน้องๆ ก่อนว่าเขานั้นคิดอย่างไร จึงได้ตัดสินใจออกมาเป็นแบบนี้ประสบการณ์ของน้องๆ คืออะไร เพราะจริงๆ แล้วแต่ละคนคิดไม่เหมือนกัน สำคัญคือที่เด็กๆ และน้องๆ รับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ก็จะเป็นประโยชน์ เนื่องจากผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มาก่อน บางทีเขาจะมองโลกในมุมที่กว้างกว่าเรา ซึ่งวันหนึ่งเราจะมองได้กว้างอย่างเขา แต่อาจจะต้องใช้เวลาสักนิด เพราะฉะนั้นต้องกล้าที่จะพูดคุยกัน​ อย่าคิดว่าพ่อแม่จะไม่รับฟัง การพูดคุยกันในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญตนคิดว่าอย่างไรพ่อกับแม่รักและหวังดีกับเราเสมอ เพราะฉะนั้นการเปิดทางผ่านการพูดคุยจะทำให้การแก้ไขปัญหาได้

นายกรัฐมนตรี​ ยังกล่าวถึงหการทำเมนูอาหารสมัยที่ตนมีลูกสาวคนแรก​ ซึ่งตรงกับช่วงการแพร่ระบาดของโควิด- 19 ต้องอยู่บ้านทำอาหารเอง 3 มื้อ ลูกยังพูดไม่ได้​ ยังไม่มีคอมเมนต์ว่าชอบหรือไม่ชอบ​ แต่ก็พอทำได้อยู่​ ส่วนเมนูโปรดที่ทานกับลูกจะทำอะไรที่เด็กๆ ชอบทานและเข้าใจว่าคืออะไร ที่บ้านก็จะปลูกผักปลอดสารพิษ ให้น้องๆ ได้เก็บผักบุ้งมาทอดกรอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ง่าย ให้เด็กๆ ได้ทดลองทำ ซึ่ง 3-4 ขวบ สามารถทำได้ ซึ่งจริงๆ แล้วเด็กนั้นอย่าไปห้าม​ ขอให้เติม​

ส่วนความท้าทายที่เด็กและผู้ปกครองเจอทุกวันนี้​ นายกรัฐมนตรี​ มองว่า สำหรับตนที่เป็นแม่ตนมองว่าโลกภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป คือความท้าทายที่สุด ตนคิดว่าพ่อแม่ที่มีความสุขคือพ่อแม่ที่ดี เพราะพ่อแม่เองไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกเรื่อง เขาก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีประสบการณ์มากกว่า แต่ทุกเรื่องไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมดบางทีเด็กตัวเล็กๆ รอพ่อแม่ต้องแก้ปัญหาได้คือโลกทั้งใบของเรา แต่เขามีมุมมองหรือแง่คิดเป็นคนที่มีความสุขและให้กำลังใจทำให้สามารถผ่านเรื่องทุกอย่างไปด้วยกันได้ เพราะความท้าทายมีเยอะมาก หากที่บ้านมีความสุขมีความเข้าใจรับฟังกัน จะเป็นพื้นฐานจิตใจที่เข้มแข็งให้ไปเจอสิ่งที่ท้าทายได้ เพราะฉะนั้นความสุขของพ่อแม่สำคัญที่สุด.-315-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย