สธ.14ส.ค.-สธ.เตือนคนไทยตกค้างในต่างประเทศเข้ากรุ๊ปไลน์รับคำ ปรึกษาสุขภาพจากทีมแพทย์ไทย ขณะที่ กต.เผยยอดคนไทยในต่างแดนกลับเข้าไทยแล้ว กว่า 6.9 หมื่นคน
นายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า จากการติดตามช่วยเหลือคนไทยในต่างประเทศ ในช่วงวิกฤติโควิด -19 พบว่า ตั้งแต่เม.ย. จนถึง ปัจจุบัน สามารถการพาคนไทยกลับมายังประเทศไทยแล้วกว่า 6.9 หมื่นคน รอเดินทางกลับเข้ามาในวันที่ 16 ส.ค.นี้ จากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย 50 คน จากปรุงปารีส และสหรัฐอเมริการวมๆ ร้อยกว่าคน
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้การดูแลคนไทยในต่างประเทศ เบื้องต้นมีการจัดทีมแพทย์ พยาบาล 10 ทีม ทีมละ 5-6 คน ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ด้านโรคติดเชื้อ ด้านโรคปอดและระบบทางเดินหายใจ เข้าไปอยู่ในกรุ๊ปไลน์ของสถานกงสุลและคนไทยในต่างประเทศ แบ่งเป็นรายประเทศ เพื่อให้คำปรึกษาเรื่องการดูแลตัวเอง ส่วนกรณีประชาชนมีความกังวล หรือมีปัญหาสุขภาพก็จะมีการทำเทเลเมดิซีนร่วมด้วย
ทั้งนี้ จากการให้คำปรึกษาผ่านกรุ๊ปไลน์ พบว่า มีคนไทยจำนวนหนึ่งที่มีปัญหาสุขภาพ มีโรคประจำตัวอื่น ๆ อาทิ เบาหวาน ความดัน มะเร็ง โรคสมอง และอื่นๆ ซึ่งรายที่ต้องการกลับเข้ามารักษาตัวในเมืองไทยก็จะมีการประสานงาน และจัดหาสถานพยาบาลรองรับ เป็นฮอสพิทัล ควอรันทีน คือเข้ามาเพื่อรับการรักษาโรคประจำตัว และกักตัวตัวไปด้วย ที่น่าห่วงตอนนี้ คือที่เกาหลีใต้ ซึ่งมีแรงงานจำนวนหนึ่งที่เข้าเมืองแบบผิดกฎหมายทำให้เวลาเจ็บป่วยไม่กล้าที่จะไปรับการรักษา เข้าไม่ถึงระบบสาธารณสุขของประเทศนั้นๆ เช่นเมื่อวันที่13 ส.ค.ก็มีแรงงานป่วย เส้นเลือดสมองแตก ก็ต้องดูแลกันต่อไป ฉะนั้น ตอนนี้คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศที่ยังไม่ได้อยู่ในกรุ๊ปไลน์ ขอให้ติดต่อสถานกงสุล เพื่อเข้ากรุ๊ปที่มีแพทย์ไทยคอยดูแล ให้คำปรึกษาอยู่
นพ.สมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีที่ประชาชนกังวลว่าคนที่พ้นการกักตัว 14 วันแล้วยังมีอาการหรือว่าติดเชื้อซ้ำได้หรือไม่นั้น ขอยืนยันว่าการกักตัวจะอยู่ในระยะ14 วัน หากไม่มีเชื้อสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ถ้าระหว่างกักตัวแล้วตรวจเจอเชื้อก็ต้องรักษาจนหายและเริ่มนับระยะปลอดภัยกันใหม่ แต่ยืนยันว่าถึงแม้ตรวจไม่เจอเชื้อแล้วแต่ยังมีอาการไข้ ไอ ก็จะไม่มีการอนุญาตให้ออกจากสถานที่แยกกัก และขอชี้แจงด้วย จากข้อมูลหลักฐานจนถึงปัจจุบันยังไม่รายงานว่ามีผู้ป่วยหายแล้วจะเกิดการติดเชื้อซ้ำแต่อย่างใด..-สำนักข่าวไทย