กทม. 7 เม.ย. – ผลกระทบจากมาตรการป้องกันและแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะมาตรการห้ามทำการบินเข้าไทย ยาวจนถึงวันที่ 18 เม.ย. ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยต้องประสบปัญหาทั้งการตกค้างที่สนามบิน และวีซ่าหมดอายุไม่สามารถต่อได้ แม้พวกเขาจะเข้าใจสถานการณ์ แต่อยากได้ความชัดเจนจากรัฐบาล
มาตรการยกระดับความเข้มข้น ประกาศห้ามอากาศยานทำการบินเข้าประเทศไทยเป็นการชั่วคราว ครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 7 เม.ย. จนถึงวันที่ 18 เม.ย.นี้ เวลา 23.59 น. แม้จะทำให้คนในประเทศอุ่นใจกับมาตรการป้องกันการนำเข้าเชื้อโควิดจากต่างประเทศ แต่สำหรับคนไทยในต่างประเทศที่กำลังจะเดินทางกลับ ได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางออกมาจากประเทศต้นทางแล้วต้องต่อเครื่อง ทำให้ติดค้างอยู่ที่สนามบิน อีกกลุ่มคือผู้ที่มีวีซ่าเรียนและทำงานกำลังจะหมดอายุ เมื่อล็อกดาวน์การบิน และยังไม่มีความชัดเจนว่าจะขยายเวลาอีกหรือไม่ เท่ากับปิดช่องทางการต่อวีซ่าไปโดยปริยาย
สำนักข่าวไทยได้พูดคุยกับน้องไอซ์และน้องเพา นักเรียนไทยในสหรัฐ ที่กำลังจะเดินทางกลับบ้าน แต่ต้องติดค้างอยู่ที่ท่าอากาศยานฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างต่อเครื่องกลับไทย ทั้งคู่เล่าว่า ตกใจมากเมื่อได้รับแจ้งว่าเครื่องบินถูกยกเลิก บินกลับไทยไม่ได้ ตอนนี้มีผู้ติดค้างรวม 15 คน เป็นนักเรียน 5 คน ผู้ใหญ่ 9 คน และมีผู้สูงอายุ 1 คนที่มีโรคประจำตัวเบาหวาน แม้จะได้รับการรช่วยเหลือเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่สถานทูตในการจัดหาอุปกรณ์ยังชีพ มีหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ เครื่องนอน และจัดหาสถานที่ภายในสนามบินให้อยู่ แต่เพื่อความสบายใจทุกคนอยากกลับบ้านและพร้อมกักตัว
คนไทยที่ติดค้างในสนามบินฮาเนดะ
เช่นเดียวกับญาดา จักรไชย หรือปั๊ป บอกว่าเธอได้วีซ่า J1 ที่รัฐบาลสหรัฐออกให้เพื่อฝึกงานระยะเวลา 1 ปี แม้ขยายต่อได้อีก 30 วัน แต่วีซ่ากำลังจะหมดลงในอีก 10 วันข้างหน้า ทั้งที่วางแผนจองตั๋วเครื่องบินกลับไทยแล้ว แต่ไม่สามารถกลับได้ เมื่อสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตกลับไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน บอกเพียงให้ไปยื่นหนังสือขออนุญาตที่สถานทูตสหรัฐ เพื่อให้อนุโลมในช่วงโควิดระบาด จึงอยากให้รัฐบาลช่วยประสานงานกับสหรัฐ ให้ช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้คนไทยจำนวนมากที่ประสบปัญหาเดียวกันต้องติดแบล็กลิสต์จากการ OVER STAY ที่ผ่านมาตนเคารพกฎระเบียบ ทำอะไรถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง
นี่เป็นเสียงสะท้อนหนึ่งที่ออกมาจากผลกระทบมาตรการของรัฐบาล พวกเขาหวังเพียงว่าแม้จะยังไม่ได้รับความช่วยเหลือในขณะนี้ เนื่องจากเข้าใจว่าทุกคนต่างเดือดร้อนทั้งหมด แต่การเยียวยาเบื้องต้นที่ควรจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากภาครัฐ เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องอยู่อย่างเคว้งคว้าง. – สำนักข่าวไทย