กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมชลประทาน แจ้งเตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เนื่องจากคาดว่าฝนที่จะตกเพิ่มขึ้นจากพายุดีเปรสชัน จะทำให้ปริมาณน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น โดยทยอยปรับเป็นขั้นบันไดในอัตราไม่เกิน 1,500 ลบ.ม./วินาที จะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้น 60 ซม. ถึง 1 เมตร
นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยากล่าวว่า เตรียมปรับเพิ่มการระบายเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราไม่เกิน 1,500 ลบ.ม./วินาที จากปัจจุบันซึ่งระบายที่ 1,099 ลบ.ม./วินาที คาดว่า จะเริ่มปรับเพิ่มอัตราการระบายประมาณวันที่ 22 – 23 กันยายนและจะทยอยปรับแบบขั้นบันได โดยพิจารณาจากปริมาณน้ำที่ไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ที่อาจจะสูงขึ้นจากฝนที่ตกเพิ่มขึ้นด้วยอิทธิพลของพายุดีเปรสชัน ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศแจ้งเตือน
ก่อนหน้านี้กรมชลประทานได้ปรับลดการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาต่อเนื่องประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำด้านท้ายเขื่อน แต่ฝนที่จะตกเพิ่มขึ้นจากพายุดังกล่าว จะส่งผลให้มีน้ำท่าไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอีกระลอก กรมชลประทานใช้ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกที่อยู่เหนือเขื่อนเจ้าพระยารับน้ำเข้าไปตามศักยภาพของคลอง รวมทั้งควบคุมการระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำท่าและฝนที่ตกทางตอนบนด้วย
การปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาแบบจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อน บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยบริเวณตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดน อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมประมาณ 60 เซนติเมตรถึง 1 เมตร
ขอให้ประชาชนติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำจากทางหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ โดยสามารถติดต่อขอรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือสายด่วน กรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา.-512.-สำนักข่าวไทย