กรมการแพทย์ใช้หุ่นยนต์ฝึกเดินช่วยผู้ป่วยทางระบบประสาทเดินได้เร็วขึ้น

17 พ.ย. – กรมการแพทย์ นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีหุ่นยนต์ฝึกเดิน (Robotic assisted gait training) มารักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยทางระบบประสาทมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันและมีส่วนร่วมในสังคมได้อย่างบุคคลทั่วไป


แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ตามนโยบายสำคัญและเร่งด่วน “Quick Win” ของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็น High Medical Technology ที่มุ่งเน้นพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ซึ่งกรมการแพทย์มีภารกิจดูแล รักษาและฟื้นฟูด้านร่างกาย จึงมีความห่วงใยและเห็นความสำคัญ โดยเฉพาะการเจ็บป่วยจากโรคทางระบบประสาท จึงได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการแพทย์มาปฏิรูประบบการทำงานของโรงพยาบาล เพื่อให้ผู้สูงอายุและคนพิการไทยได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง เข้าถึงบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และส่งเสริมการใช้บริการทางการแพทย์ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่นำมาใช้ คือ เครื่องหุ่นยนต์ฝึกเดิน (Robotic assisted gait training) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เพิ่มการทรงตัวและความมั่นคงในขณะเดินให้แก่ผู้ป่วย คนพิการ โดยกรมการแพทย์ มีการนำมาใช้ใน 2 หน่วยงาน ได้แก่ สถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ และโรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่

แพทย์หญิงภัทรา อังสุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันสิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การฝึกเดินด้วยเครื่องหุ่นยนต์ฝึกเดิน (Robotic assisted gait training) เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการฝึกทักษะการเคลื่อนไหวเรื่องการเดิน ใช้ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ผู้ป่วยบาดเจ็บสันหลัง ผู้ป่วยเด็กสมองพิการ และผู้ป่วยพาร์กินสัน เป็นต้น โดยผู้ป่วยจะได้ฝึกเดินบนสายพานเลื่อนที่มีโครงพยุงน้ำหนักตัวและมีขาของหุ่นยนต์ปะกบกับขาของผู้ป่วย ซึ่งขาของหุ่นยนต์ จะขับเคลื่อนด้วยระบบคอมพิวเตอร์คอยควบคุมการเคลื่อนไหวของข้อสะโพกและข้อเข่า ทำให้ผู้ป่วยเดินด้วยจังหวะและท่าทางการเดินคล้ายธรรมชาติ ซึ่งคล้ายคลึงกับการทรงตัวที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตประจำวัน มีความถูกต้องตามรูปแบบการเดินมากที่สุด ปลอดภัย และสามารถฝึกฝนซ้ำ ๆ ได้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน เป็นการกระตุ้นการเรียนรู้การเคลื่อนไหวทำให้ผู้ป่วย สามารถพัฒนารูปแบบการเดินและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขาได้มากขึ้น โดยมีการฝึกเดิน 3 -5 ครั้งต่อสัปดาห์ ระยะเวลาในการฝึกครั้งละ 30-45 นาที โดยประมาณ 12-20 ครั้ง ของการรักษาจะเห็นการเปลี่ยนแปลง


แพทย์หญิงศศิธร ศิริมหาราช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการแพทย์ โดยโรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ ได้นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์ฝึกเดิน (Robotic Gait Training) มาให้บริการเป็นแห่งแรกในภาคเหนือ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ภาคเหนือที่มีอัตราผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองสูงเป็นอันดับ 1 จาก 5 อันดับของโรคทางระบบประสาท สามารถเข้าถึงและรับบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกัน โดยเปิดให้บริการเมื่อปี พ.ศ.2562 จนถึง ณ ปัจจุบัน มีผู้รับบริการ รวมทั้งสิ้น 2,391 ครั้ง และผู้รับบริการมีความพึงพอใจ คิดเป็นร้อยละ 97 ทั้งนี้ การฝึกเดินด้วยหุ่นยนต์ฝึกเดินร่วมกับการฝึกทางกายภาพบำบัดมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองกลับมาเดินได้เองมากกว่าการฝึกทางกายภาพบำบัดเพียงอย่างเดียว และทำให้การทรงตัวดีขึ้น นอกจากนี้ในกลุ่มผู้ป่วยบาดเจ็บไขสันหลัง ผู้ป่วยเด็กสมองพิการ มีผลทำให้การทรงตัวในการยืนและการย้ายตัวของผู้ป่วยดีขึ้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย

ผบช.สตม. ลั่น ไม่เอาไว้! ต่างด้าวสร้างปัญหาให้บุคลากรการแพทย์เมืองปาย เพิกถอนใบอนุญาต ผลักดันออกนอกประเทศทันที

ตรวจสอบ The Park เขาหลัก งบก่อสร้าง 140 ล้าน คุ้มค่าหรือไม่?

สำนักข่าวไทย ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านให้ช่วยเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา หรือ The Park เขาหลัก ริมหาดบางเนียง หลังมีข้อมูลว่าเป็นโครงการที่ก่อสร้างด้วยงบกว่าร้อยล้านบาท แต่ปัจจุบันกลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ และถูกปล่อยให้อยู่ในสภาพรกร้าง

ลูกสาวสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ดับคากระท่อม

ลูกสาวเปิดปากสารภาพจุดไฟเผาพ่อวัย 73 ปี เสียชีวิตในกระท่อม ข้างลานรับซื้อข้าวเปลือก ต.โนนศิลาเลิง อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

ข่าวแนะนำ

ตัดไฟเมียนมา

ตัดแขนขาเมียนมา ราคาน้ำมันพุ่ง-จำกัดการซื้อ

เข้าสู่วันที่ 3 สำหรับการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่งแม่สอดของไทยไปเมืองเมียวดีของเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะการขาดแคลนน้ำมันในฝั่งเมียวดี