ยกระดับ 30 บาทรักษาได้ทุกที่ ดีจริง? ตอบโจทย์?

กทม. 22 ก.ย.-เสียงสะท้อนจากแพทย์ นโยบายยกระดับบัตรทอง 30 บาท รักษาทุกโรค โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ดีกับประชาชน ตอบโจทย์การให้บริการจริงหรือ?

นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ ม.วิทยาลัยขอนแก่น ให้สัมภาษณ์กองบรรณาธิการวิทยุ สำนักข่าวไทย สะท้อนมุมมองที่มีต่อนโยบายยกระดับบัตรทอง 30 บาท รักษาทุกโรค โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่ของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขว่า บัตรทองเป็นเรื่องดีสำหรับระบบหลักประกันสุขภาพของคนไทย การยกระดับมาตรฐานบัตรทองให้สูงขึ้นถือเป็นสิ่งที่ดี


ก่อนหน้านี้ รัฐบาลชุดที่แล้วก็มีนโยบายการยกระดับบัตรทอง คือโครงการผู้ป่วยมะเร็งรักษาได้ทุกที่ หรือ Cancer Anywhere ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก เนื่องจากมะเร็งเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษาทันที การที่ผู้ป่วยต้องรอการรักษาจากโรงพยาบาลที่เราใช้สิทธิ์อยู่ อาจจะไม่ทันเวลา และโครงการนี้มีการส่งต่อข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลต้นทาง และปลายทางอย่างชัดเจน

มาถึงรัฐบาลชุดนี้ประกาศนโยบายบัตรประชาชนใบเดียวสามารถรักษาได้ทุกโรงพยาบาลที่ผู้ป่วยต้องการ หากมองดูแบบยังไม่ลงลึกรายละเอียดถือเป็นสิ่งที่ดีต่อผู้ป่วย เพราะได้รับความสะดวกสบาย สามารถรักษาที่ไหนก็ได้ แต่อาจจะมีผลกระทบตามมา เช่น บางครั้งเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเป็นอะไร ความรุนแรงของโรคระดับไหน ต้องได้รับการรักษาเร่งด่วนแค่ไหน และหากผู้ป่วยต้องการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ โดยไม่เลือกรับการรักษาในโรงพยาบาลใกล้บ้านก่อน อาจทำให้ได้รับการรักษาที่ล่าช้าไป และอาจไปสร้างความแออัดให้กับโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ทำให้บุคลากรทางการแพทย์มีภาระงานเพิ่มขึ้น เพราะการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลขนาดใหญ่จะต้องมีการตรวจเพิ่มขึ้น หากผู้ป่วยไม่ได้นำข้อมูลจากโรงพยาบาลต้นทางมาด้วย


นพ.สมศักดิ์ มองว่าหากจะทำให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การสร้างความรู้ให้ประชาชนว่าโรคส่วนใหญ่ 80-90% สามารถรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านได้ มีเพียงบางโรคเท่านั้นที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ จึงจะก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง

ข้อที่ 2 ควรเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างโรงพยาบาล ในเขตจังหวัด หรือในเขตสุขภาพอย่างเป็นระบบมากขึ้น เช่น แพทย์สามารถเข้าไปดูข้อมูลคนไข้ในโรงพยาบาลอื่นๆ ในเขตจังหวัด หรือ เขตพื้นที่สุขภาพ เดี่ยวกันได้ รวมถึงหากเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กับโรงเรียนแพทย์ได้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก

และข้อที่ 3 จะต้องพัฒนาประสิทธิภาพการส่งต่อผู้ป่วยที่เหมาะสม ซึ่งหมายความว่า หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรง เกินความสามารถของโรงพยาบาลต้นทางจะรักษาได้ จะต้องมีระบบส่งต่อ และยืนยันว่าผู้ป่วยจะได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพสูงทันที ซึ่งสิ่งนี้เป็นการตอบโจทย์ผู้ป่วยมากกว่า โดยที่ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องดิ้นรนไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่ แต่ระบบจะถูกส่งต่อโดยอัตโนมัติพร้อมข้อมูลทางการแพทย์ ประวัติการรักษา และนี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วย


อย่างไรก็ตาม แม้ข้อมูลจาก สปสช. จะระบุว่า มีผู้ป่วยเพียง 5%เท่านั้น ที่ต้องการเข้ารับการรักษาที่ไหนก็ได้ แต่ นพ.สมศักดิ์ มองว่า หากมีการเปิดใช้ระบบบัตรประชาชนใบเดียวรักษาได้ทุกที่อย่างจริงจังจะเกิดการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลใกล้บ้านไปโรงพยาบาลขนาดใหญ่มากขึ้นโดยไม่จำเป็น เกิดการรักษาที่ซ้ำซ้อน ต้องเริ่มนับหนึ่งในการรักษาใหม่ เกิดความไม่ต่อเนื่องในการรักษา และเป็นการสิ้นเปลือง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ฤดูฝนมา จับตาความพร้อม Cell Broadcast

14 พ.ค. – ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า ปริมาณฝนปีนี้จะมากกว่าค่าปกติ 5% ในระยะนี้ต้องติดตามพายุไซโคลนที่อาจก่อตัวในทะเลอันดามัน ขณะที่ปลายฤดูอาจเจอพายุโซนร้อน 1-2 ลูก ล่าสุดภาครัฐยกระดับการแจ้งเตือนภัย แต่ต้องรอลุ้นว่า Cell Broadcast จะใช้ได้เต็มระบบทั่วประเทศทันฤดูฝนนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]

ศาล รธน.สั่ง “ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ

ศาลรัฐธรรมนูญ 14 พ.ค.- มติศาลรัฐธรรมนูญเอกฉันท์ สั่ง “พ.ต.อ.ทวี​” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ และรองประธานบอร์ดคดีพิเศษ เหตุสงสัยว่าแทรกแซงรับสอบฮั้วเลือก สว. ส่วน “ภูมิธรรม” ยังรอด ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของสมาชิกวุฒิสภาที่ขอให้วินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้ถูกร้องที่ 1 และพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีผู้ถูกร้องทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษเป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการ […]

แก๊งเผานั่งยางหนีขึ้นภูเขา จนท.จัดกำลังเร่งล่า

ตรัง 14 พ.ค. – เกาะติดคดีเผานั่งยาง เจ้าหน้าที่ชุดสืบกว่า 50 นาย เร่งวางกำลังไล่ล่า 4 มือเผา หลังได้เบาะแสทั้งหมดหนีขึ้นไปบนเขา ที่โรงเรียนบ้านเขาหลัก หมู่ 7 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ชุดสืบสวนสอบสวน ภาค 9 ชุดสืบสวนสอบตำรวจภูธรจังหวัดตรัง รวมกว่า 50 นาย พร้อมกับพราน และชาวบ้านที่ชำนาญพื้นที่ ร่วมกันวางแผนติดตาม 4 ผู้ต้องหา คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือแจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]