กรุงเทพฯ 23 มิ.ย. – ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง ยอมรับ “แอม ไซยาไนด์” ครรภ์เป็นพิษ แท้งลูกในเรือนจำ หลังเจ้าตัวสงสัยชีพจรลูกไม่เต้น ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว พักรักษาตัวอยู่ รพ.ราชทัณฑ์
จากกรณีมีรายงานข่าวว่า นางสรารัตน์ หรือ แอม ผู้ต้องหาในคดีใช้สารไซยาไนด์ฆ่าผู้อื่นโดไตร่ตรองไว้ก่อน และลักทรัพย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการฝากขังของศาล โดยถูกควบคุมตัวอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง และตั้งครรภ์ 7 เดือน ได้เกิดภาวะแท้งลูก และมีการนำตัวไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ
เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวได้รับการยืนยันจาก น.ส.โศรยา ฤทธิอร่าม ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ว่า เป็นเรื่องจริงที่แอมแท้งลูก เนื่องจากมีภาวะครรภ์เป็นพิษ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมา เจ้าตัวแจ้งกับเจ้าหน้าที่ผู้คุมว่า บุตรในครรภ์ชีพจรไม่เต้น เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ และเชิญแพทย์สูตินรีของราชทัณฑ์เข้าตรวจเช็กด้วย ปรากฏว่า บุตรในครรภ์หัวใจไม่เต้น จึงนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ เพื่อรีเช็กและตรวจร่างกาย จนได้ข้อสรุปว่า แอม สรารัตน์ แท้งลูกจริง ทางเจ้าหน้าที่พยาบาลและแพทย์จึงได้ทำการยุติการตั้งครรภ์ จากนั้นนำตัวกลับมารักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรักษาตัว โดยเจ้าตัวนอนพักรักษาได้ 2 คืนแล้ว อาการปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วทางราชทัณฑ์จะมีการตรวจชีพจรของบุตรผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์เป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา แอมไม่มีลักษณะภายนอกบ่งบอกว่าจะมีการแท้งลูก กระทั่งวันเกิดเหตุที่เจ้าตัวได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นการแท้งที่ไม่ได้เกิดจากการเดินมาก หรือรับประทานอะไรที่ผิดสำแดง
นอกจากนี้ น.ส.โศรยา เผยอีกว่า เจ้าตัวยังได้เปิดเผยกับตนว่า ที่ผ่านมาเคยตั้งครรภ์และมีการแท้งมาก่อน และเกิดเหตุการณ์แท้งลูกบ่อยครั้งมาก นี่จึงไม่ใช่ครั้งแรกที่แท้งลูกด้วยภาวะครรภ์เป็นพิษ และจากการแท้งลูกในครั้งนี้ เจ้าตัวไม่ได้มีอาการเศร้าฟูมฟาย เสียใจ หรือเครียดผิดปกติแต่อย่างใด ยังคงอยู่ระหว่างการพักรักษาตัว อีกทั้งตนยังไม่ได้รับรายงานว่า ทางทนายความของแอมได้ประสานขอเข้าเยี่ยมหรือไม่
ขณะที่ความคืบหน้าคดี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าจะทยอยสรุปสำนวนคดีแอม และผู้ที่เกี่ยวข้อง ส่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ โดยคาดว่า วันอังคารหน้าจะส่งสำนวนของ น.ส.ก้อย ที่เสียชีวิตในพื้นที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ก่อน พร้อมผู้ต้องหา เช่น รองอ๊อฟ อดีตสามีแอม และ ทนายพัช สำนวนที่เหลืออีก 14 สำนวน จะทยอยส่งในวันถัดไป
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้ พนักงานสอบสวนระบุว่า เตรียมแจ้งข้อหาคนใกล้ชิด ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ นั้น เบื้องต้นจากการหารือกับพนักงานอัยการ พบว่าพยานหลักฐานยังไม่ชัดเจนที่จะเอาผิดบุคคลใกล้ชิดคนนี้ในข้อหาดังกล่าวได้ จึงยังไม่มีการแจ้งดำเนินคดี แต่ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนจะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป. – สำนักข่าวไทย