fbpx

เตือนผ่าตัดกระเพาะ ไม่ใช่ทางลัดลดน้ำหนัก แนะลดน้ำหนักวิธีธรรมชาติ

3 เม.ย. – กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เตือนการผ่าตัดกระเพาะ ใช้รักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคอ้วน มิใช่ทางลัดในการลดน้ำหนัก แนะหนุ่ม-สาวที่อยากหุ่นเพรียว ใช้วิธีธรรมชาติอย่างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพช่วยลดสัดส่วนร่างกาย ก่อนพึ่งพาศัลยกรรม


นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรม สบส. เปิดเผยว่า ปัจจุบันประชาชนทุกช่วงวัยต่างให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพร่างกาย และบุคลิกภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นหนุ่ม-สาว ที่นอกจากจะมีความต้องการให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงแล้ว รูปลักษณ์ทั้งใบหน้า ร่างกายก็ต้องมีความสวยงาม สมส่วน แต่ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ขาดการเอาใจใส่ต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารที่ให้พลังงาน และไขมันสูง อย่างจังค์ฟู้ด รับประทานไม่เป็นเวลา และขาดการออกกำลังกาย จึงส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันมากเกินกว่าการเผาผลาญจึงก่อให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งโรคอ้วนนอกจากจะส่งผลต่อบุคลิกภาพแล้ว ยังเป็นสาเหตุของโรคอื่นๆ อาทิ โรคหัวใจ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิต ฯลฯ จึงอาจมีประชาชนบางราย ที่ต้องการศัลยกรรม อย่างการผ่าตัดกระเพาะซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวถึงในสื่อโซเชียลมาช่วยในการลดน้ำหนัก

กรม สบส. ขอเตือนประชาชนว่าการผ่าตัดกระเพาะ มิใช่ทางลัดในการลดน้ำหนักแต่อย่างใด แต่การผ่าตัดกระเพาะนั้น เป็นการรักษารูปแบบหนึ่งสำหรับผู้เป็นโรคอ้วนที่มีค่าดัชนีมวลกาย (Body Mass Index : BMI) เกิน 32.5 กิโลกรัมต่อตารางเมตร และผ่านการลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอาหารหรือการออกกำลังกายภายใต้การดูแลของแพทย์แล้วแต่ไม่เป็นผล จึงจะสามารถเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหารได้ โดยมีจุดมุ่งหมายให้ผู้ป่วยมีสุขภาพกายและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มิได้ทำเพื่อความสวยงาม


ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรม สบส. กล่าวต่อว่า การผ่าตัดกระเพาะ เป็นการศัลยกรรมประเภทหนึ่งที่ใช้รักษาโรคเรื้อรัง ซึ่งจะต้องมีการปรึกษากับแพทย์ถึงความเสี่ยง ภาวะแทรกซ้อน และปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และต้องกระทำในสถานพยาบาลที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม การดูแลสุขภาพร่างกายไม่ให้เกิดไขมันสะสมจนเป็นโรคอ้วนนั้น สามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพให้เหมาะสม โดยการออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที และควบคุมอาหาร ลดอาหารที่มีไขมันสูง ของทอดต่าง ๆ เพิ่มการรับประทานผัก ผลไม้ ซึ่งเป็นอาหารที่มีเส้นใย เพื่อช่วยดูดซึมไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งจะเป็นการควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด