สบส.ห่วงคนทำงานกลางแจ้ง แนะวิธีดูแลสุขภาพด้วยสุขบัญญัติ

22 มี.ค. – กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) ห่วงประชาชนที่ทำงานกลางแจ้ง อากาศร้อนเสี่ยงผื่นแดด เพลียแดด ลมแดด อาจช็อกฮีทสโตรก แนะปฏิบัติด้วยสุขบัญญัติ ดื่มน้ำบ่อยๆ สวมเสื้อผ้าที่สะอาด พักในสถานที่มีอากาศเย็น ระบายอากาศได้ดี และบันทึกหมายเลขโทรศัพท์เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินป้องกันอุบัติภัยด้วยความไม่ประมาท


นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ประเทศไทยในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนของทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้หลายพื้นที่มีอากาศร้อนมากกว่าปีที่ผ่านมา อุณหภูมิอาจจะสูงถึง 40-43 องศาเซลเซียส ซึ่งความร้อนจากแสงแดดส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคและภัยสุขภาพต่าง ๆ หากอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดผื่น ตะคริวจากความร้อน เป็นลมแดด ฮีทสโตรก และเสี่ยงต่อชีวิตได้ และหากมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง พักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้เพลีย อาจทำให้เกิดการวูบ และพลัดตกจากที่สูงได้ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร พนักงานรักษาความปลอดภัย คนสวน กรรมกรก่อสร้าง เกษตรกร ประมง พนักงานงานส่งของ (ไรเดอร์) และพนักงานที่ต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพห่วงผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง แดดแรงจัด แนะสุขบัญญัติดูแลสุขภาพตนเอง และไม่ประมาทจากการทำงานกลางแจ้ง

นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ประชาชนที่ทำงานกลางแจ้งสามารถดูแลสุขภาพตนเอง และป้องกันอุบัติภัยต่างๆ ด้วยการไม่ประมาท ตามหลักสุขบัญญัติ ดังนี้


  1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะความเหนื่อยล้า ทำให้เพลียแดด และเป็นลม พลัดตกจากที่สูงได้
  2. ดื่มน้ำสะอาดบ่อยๆ และให้นำน้ำดื่มติดตัว ในระหว่างที่ปฏิบัติงานกลางแจ้ง
  3. ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  4. ควรสลับการทำงานและพักเป็นระยะ ให้พักในสถานที่ที่มีอากาศเย็น มีการระบายอากาศที่ดี
  5. สวมเสื้อผ้าที่สะอาด สีอ่อน เบาสบาย ระบายอากาศได้ดี และให้เปลี่ยนชุดถ้าเสื้อผ้าชุ่มเหงื่อ
  6. ควรมีการสังเกตอาการ และดูแลเพื่อนในกลุ่ม หากมีอาการผิดปกติจะได้ปฐมพยาบาลได้ทันการณ์ 7. ควรมีหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของสถานพยาบาล เช่น 1669 ไว้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข่าวสารข้อมูลความรู้ บทความสุขภาพ เรื่องราวสุขภาพที่น่าสนใจได้ทางเว็บไซต์กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ www.hed.go.th. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ