รมว.ยุติธรรม จี้ ป.ป.ส.เร่งทลายยา 12 จังหวัดอีสานตอนบน

กทม. 18 ธ.ค.- “สมศักดิ์” จี้ ป.ป.ส.เร่งทลายยาภาคอีสานตอนบน 12 จังหวัด หลังปี 65 จับยาบ้ากว่า 94 ล้านเม็ด ลั่นเปิดศักราชปราบยาเสพติดเข้มข้น พร้อมโชว์ผลงาน 2 เดือนครึ่งยึดทรัพย์ไปแล้ว 11,280 ล้านบาท ชวนชาวบ้านแจ้งเบาะแสรับรางวัล 5% เผยกำลังสร้างระบบ Blockchain ป้องกันข้อมูลผู้แจ้ง มั่นใจหน่วยงานบูรณาการช่วยกันทิศทางดีขึ้นมาก


กระทรวงยุติธรรม โดย สำนักงาน ป.ป.ส. จัดงานโครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12 จังหวัด อาทิ จ.อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม นครพนม และหนองคาย โดยวันที่ 17 ธ.ค. จัดที่โรงแรมสยามแกรนด์ อ.เมือง จ.อุดรธานี และวันที่ 18 ธ.ค. จัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. หัวหน้าส่วนราชการ ประธานชมรมพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดภาค 4 ผู้นำชุมชนและประชาชนรวมกว่า 2,000 คนร่วมงาน

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดและถือว่าเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแนวทางให้เพิ่มความเข้มข้น ควบคุม การนำเข้า ส่งออก สารเคมี  คือ โซเดียมไซยาไนด์ เบลซิลคลอไรด์ และเบนซิลไซยาไนด์ การขยายผลทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ด้วยการยึด อายัดทรัพย์สิน เพื่อตัดวงจรทางการเงิน ค้นหาผู้ติดยาเสพติด เพื่อส่งเข้ารับการบําบัดรักษาอย่างเร่งด่วน และเอาผิดอย่างเด็ดขาด กับเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดย ป.ป.ส. บูรณาการร่วมกับ 27 หน่วยงาน เช่น กระทรวงกลาโหม, กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงยุติธรรม, ปปง. และกรมสรรพากร รวมถึงกลุ่มประเทศในลุ่มน้ำโขง เพื่อช่วยกันป้องกันและปราบปราม  โดยยาบ้า 1 ล้านเม็ดขึ้นไป จะลักลอบเข้าไทย ทางภาคเหนือเป็นหลัก และนำเข้ามาพักเก็บที่ภาคกลาง เช่น อยุธยา ส่วนสาเหตุยาบ้า ราคาถูกลง เพราะเทคโนโลยี ของขบวนการค้า มีความทันสมัยมากขึ้น จากแต่ก่อนที่ใช้หัวตอกชิงเกิลพันซ์ ผลิตได้วันละ 64,800 เม็ด แต่วันนี้มีการใช้เครื่องโรตารี่ 39 หัวตอก ผลิตได้วันละ 3,931,200 เม็ด ซึ่งในรอบประเทศ มีกลุ่มการค้า 7 กลุ่ม มีกำลังผลิตวันละ 280 ล้านเม็ด ซึ่งการใช้สารเคมีผลิต ทำให้ยาบ้า มีต้นทุนแค่ 55 สตางค์


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้แก้กฎหมายยาเสพติด เน้นการยึดอายัดทรัพย์สิน โดยกระทรวงยุติธรรม ขับเคลื่อนแก้กฎหมายยาเสพติด 24 ฉบับ เป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด บังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 เพื่อเพิ่มโทษกับผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ให้หนักขึ้น ด้วยการยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ถึง 10 ปี หรือที่เรียกว่า แวลูเบท โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด ตั้งคณะทำงาน ปราบปรามยึดทรัพย์สินยาเสพติด ภายใต้ปฏิบัติการ พาลีปราบยา โดยมี ป.ป.ส. ดีเอสไอ บช.ปส. สมาคมธนาคารไทย สำนักงานอัยการ ปปง. และกรมสรรพากร ร่วมกันตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่ออายัดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ขณะนี้ผ่านมา 2 เดือนครึ่ง อายัดทรัพย์สินได้ 11,280 ล้านบาทแล้ว ตนจึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมแจ้งเบาะแสยาเสพติด ที่สายด่วน 1386 เพื่อรับรางวัลนำจับ 5% แต่ปีที่แล้วมีคนแจ้งแค่ 16,000 สาย ทั้งๆที่ประเทศไทยมีถึง 80,000 หมู่บ้าน อาจจะเพราะคนกลัว ดังนั้นเราจึงทำระบบ Blockchain ที่ปกปิดตัวตนคนแจ้งมีความปลอดภัย 100% และให้เงินรางวัลนำจับผ่าน คริปโตเคอเรนซี่ ช่วยให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยกล้าแจ้งเบาะแสมากขึ้น ขณะนี้กำลังจะทดลองระบบ คาดว่าเดือน ม.ค. จะเสร็จ

“วันนี้เราเริ่มเปิดศักราชของการปราบปรามยาเสพติด เราเดินหน้าเต็มที่ เพราะคนค้ายาเอาเงินของคนไทยไปอย่างมากมาย ทำลายอนาคตของลูกหลานเรา โดยสถิติจับกุมยาเสพติด ปปส.ภาค 4 ปี 2565 จับยาบ้าได้ 94,106,912 เม็ด ไอซ์ 1,238.5 กิโลกรัม เราจะอยู่อย่างไรถ้าเป็นแบบนี้ ดังนั้นขอให้ ป.ป.ส. เร่งจัดการทลายให้สิ้นซาก และเราทุกคนต้องช่วยกัน ผมเชื่อมั่นว่า ความชำนาญงานของแต่ละหน่วยงานมาบูรณาการร่วมกัน กำลังเริ่มเห็นผล พัฒนาการหลายอย่างของเรากำลังจะดีขึ้น และมีการใช้กำไล EM เพื่อเฝ้าระวัง ลดการก่อเหตุ ค้นหา คัดกรอง ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และผู้มีอาการทางจิตเวช จากการใช้ยาเสพติด เพื่อนำเข้าสู่การบำบัดรักษา ซึ่งตรงนี้เรามีกฎหมายป้องกันการกระทำผิดซ้ำหรือ JSOC มีกรมคุมประพฤติดูแล เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมอีกด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้เรายังได้ปลดล็อกพืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2564  เป็น 78 ปี ที่ประชาชนรอคอย ทำให้ประชาชนทั่วไป สามารถปลูก และใช้ตามวิถีท้องถิ่นได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย เน้นการส่งออก มีตลาดใหญ่ คือ จีน และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะสารสกัดซึ่งล่าสุดเรากำลังผลักดันการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์พืชกระท่อม โดยร่วมมือกับ อย. ตรงนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเปลี่ยนใบไม้เป็นเงินสด รวมถึงเรายังมีแนวทางการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ขณะนี้เรากำลังหารือการพัฒนา กฎหมายปศุสัตว์ ยกระดับสัตว์กีฬา เพิ่มมูลค่าสัตว์และการท่องเที่ยวให้กับประเทศอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”