รมว.ยุติธรรม จี้ ป.ป.ส.เร่งทลายยา 12 จังหวัดอีสานตอนบน

กทม. 18 ธ.ค.- “สมศักดิ์” จี้ ป.ป.ส.เร่งทลายยาภาคอีสานตอนบน 12 จังหวัด หลังปี 65 จับยาบ้ากว่า 94 ล้านเม็ด ลั่นเปิดศักราชปราบยาเสพติดเข้มข้น พร้อมโชว์ผลงาน 2 เดือนครึ่งยึดทรัพย์ไปแล้ว 11,280 ล้านบาท ชวนชาวบ้านแจ้งเบาะแสรับรางวัล 5% เผยกำลังสร้างระบบ Blockchain ป้องกันข้อมูลผู้แจ้ง มั่นใจหน่วยงานบูรณาการช่วยกันทิศทางดีขึ้นมาก


กระทรวงยุติธรรม โดย สำนักงาน ป.ป.ส. จัดงานโครงการสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 12 จังหวัด อาทิ จ.อุดรธานี ขอนแก่น มหาสารคาม นครพนม และหนองคาย โดยวันที่ 17 ธ.ค. จัดที่โรงแรมสยามแกรนด์ อ.เมือง จ.อุดรธานี และวันที่ 18 ธ.ค. จัดที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ ผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. หัวหน้าส่วนราชการ ประธานชมรมพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดภาค 4 ผู้นำชุมชนและประชาชนรวมกว่า 2,000 คนร่วมงาน

นายสมศักดิ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดและถือว่าเป็นวาระเร่งด่วนแห่งชาติ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแนวทางให้เพิ่มความเข้มข้น ควบคุม การนำเข้า ส่งออก สารเคมี  คือ โซเดียมไซยาไนด์ เบลซิลคลอไรด์ และเบนซิลไซยาไนด์ การขยายผลทำลายเครือข่ายนักค้ายาเสพติด ด้วยการยึด อายัดทรัพย์สิน เพื่อตัดวงจรทางการเงิน ค้นหาผู้ติดยาเสพติด เพื่อส่งเข้ารับการบําบัดรักษาอย่างเร่งด่วน และเอาผิดอย่างเด็ดขาด กับเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดย ป.ป.ส. บูรณาการร่วมกับ 27 หน่วยงาน เช่น กระทรวงกลาโหม, กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงยุติธรรม, ปปง. และกรมสรรพากร รวมถึงกลุ่มประเทศในลุ่มน้ำโขง เพื่อช่วยกันป้องกันและปราบปราม  โดยยาบ้า 1 ล้านเม็ดขึ้นไป จะลักลอบเข้าไทย ทางภาคเหนือเป็นหลัก และนำเข้ามาพักเก็บที่ภาคกลาง เช่น อยุธยา ส่วนสาเหตุยาบ้า ราคาถูกลง เพราะเทคโนโลยี ของขบวนการค้า มีความทันสมัยมากขึ้น จากแต่ก่อนที่ใช้หัวตอกชิงเกิลพันซ์ ผลิตได้วันละ 64,800 เม็ด แต่วันนี้มีการใช้เครื่องโรตารี่ 39 หัวตอก ผลิตได้วันละ 3,931,200 เม็ด ซึ่งในรอบประเทศ มีกลุ่มการค้า 7 กลุ่ม มีกำลังผลิตวันละ 280 ล้านเม็ด ซึ่งการใช้สารเคมีผลิต ทำให้ยาบ้า มีต้นทุนแค่ 55 สตางค์


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้แก้กฎหมายยาเสพติด เน้นการยึดอายัดทรัพย์สิน โดยกระทรวงยุติธรรม ขับเคลื่อนแก้กฎหมายยาเสพติด 24 ฉบับ เป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด บังคับใช้เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2564 เพื่อเพิ่มโทษกับผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ให้หนักขึ้น ด้วยการยึดทรัพย์ย้อนหลังได้ถึง 10 ปี หรือที่เรียกว่า แวลูเบท โดยบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปราบปรามยาเสพติด ตั้งคณะทำงาน ปราบปรามยึดทรัพย์สินยาเสพติด ภายใต้ปฏิบัติการ พาลีปราบยา โดยมี ป.ป.ส. ดีเอสไอ บช.ปส. สมาคมธนาคารไทย สำนักงานอัยการ ปปง. และกรมสรรพากร ร่วมกันตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่ออายัดทรัพย์เครือข่ายยาเสพติด ขณะนี้ผ่านมา 2 เดือนครึ่ง อายัดทรัพย์สินได้ 11,280 ล้านบาทแล้ว ตนจึงอยากเชิญชวนทุกท่านมาร่วมแจ้งเบาะแสยาเสพติด ที่สายด่วน 1386 เพื่อรับรางวัลนำจับ 5% แต่ปีที่แล้วมีคนแจ้งแค่ 16,000 สาย ทั้งๆที่ประเทศไทยมีถึง 80,000 หมู่บ้าน อาจจะเพราะคนกลัว ดังนั้นเราจึงทำระบบ Blockchain ที่ปกปิดตัวตนคนแจ้งมีความปลอดภัย 100% และให้เงินรางวัลนำจับผ่าน คริปโตเคอเรนซี่ ช่วยให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยกล้าแจ้งเบาะแสมากขึ้น ขณะนี้กำลังจะทดลองระบบ คาดว่าเดือน ม.ค. จะเสร็จ

“วันนี้เราเริ่มเปิดศักราชของการปราบปรามยาเสพติด เราเดินหน้าเต็มที่ เพราะคนค้ายาเอาเงินของคนไทยไปอย่างมากมาย ทำลายอนาคตของลูกหลานเรา โดยสถิติจับกุมยาเสพติด ปปส.ภาค 4 ปี 2565 จับยาบ้าได้ 94,106,912 เม็ด ไอซ์ 1,238.5 กิโลกรัม เราจะอยู่อย่างไรถ้าเป็นแบบนี้ ดังนั้นขอให้ ป.ป.ส. เร่งจัดการทลายให้สิ้นซาก และเราทุกคนต้องช่วยกัน ผมเชื่อมั่นว่า ความชำนาญงานของแต่ละหน่วยงานมาบูรณาการร่วมกัน กำลังเริ่มเห็นผล พัฒนาการหลายอย่างของเรากำลังจะดีขึ้น และมีการใช้กำไล EM เพื่อเฝ้าระวัง ลดการก่อเหตุ ค้นหา คัดกรอง ผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด และผู้มีอาการทางจิตเวช จากการใช้ยาเสพติด เพื่อนำเข้าสู่การบำบัดรักษา ซึ่งตรงนี้เรามีกฎหมายป้องกันการกระทำผิดซ้ำหรือ JSOC มีกรมคุมประพฤติดูแล เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับสังคมอีกด้วย” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้เรายังได้ปลดล็อกพืชกระท่อม ออกจากบัญชียาเสพติด เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2564  เป็น 78 ปี ที่ประชาชนรอคอย ทำให้ประชาชนทั่วไป สามารถปลูก และใช้ตามวิถีท้องถิ่นได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย เน้นการส่งออก มีตลาดใหญ่ คือ จีน และสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะสารสกัดซึ่งล่าสุดเรากำลังผลักดันการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์พืชกระท่อม โดยร่วมมือกับ อย. ตรงนี้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการเปลี่ยนใบไม้เป็นเงินสด รวมถึงเรายังมีแนวทางการสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ขณะนี้เรากำลังหารือการพัฒนา กฎหมายปศุสัตว์ ยกระดับสัตว์กีฬา เพิ่มมูลค่าสัตว์และการท่องเที่ยวให้กับประเทศอีกด้วย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืน พาญาติช่วยเจรจามอบตัว

สุรินทร์ 15 ส.ค.- เจอตัวแล้ว! ทหารรัวปืนกลางดึก หลบอยู่ในบ้านใกล้ที่เกิดเหตุ ประสานญาติช่วยเจรจามอบตัว เจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายปกครองและตำรวจ นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อติดตามตัวพลทหารก่อเหตุรัวยิงปืนกลางดึก ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ผกก.สภ.กาบเชิง ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจและทหาร ก่อนเดินทางไปติดตามอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาล เบื้องต้นคนเจ็บให้การว่า นั่งดื่มสุรา 5-6 คน ก่อนจะแยกย้ายกันเหลือนั่งอยู่ 2 คน จากนั้นไม่นานพลทหารนายดังกล่าวก็ออกมายืนกราดยิงห่างประมาณ 50 เมตร วัยรุ่น 2 คนจึงรีบหมอบหลบได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ด้านนายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุ ขณะนี้พบตัวทหารผู้ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างประสานไปยังครอบครัวให้เดินทางเข้าพื้นที่ช่วยเจรจามอบตัว -สำนักข่าวไทย

อุตุฯ เตือนตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 15 ส.ค. – กรมอุตุฯ เผยภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก กรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนตกหนักบางพื้นที่ ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบนเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันตอนบน […]

“ลุงพล” นอนคุกยาว ศาลไม่ให้ประกันตัว เกรงหลบหนี

14 ส.ค. – ศาลฎีกายกคำร้อง ไม่อนุญาตให้ประกันตัว “ลุงพล” คดีน้องชมพู่ ชี้เป็นคดีร้ายแรง เกรงจะหลบหนี ส่งผลให้ลุงพลต้องนอนคุกระหว่างฎีกา นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 4 กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ “ลุงพล” ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี รวมเป็น 26 ปี เมื่อวานนี้ ลุงพลยื่นประกันตัวและศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณา เรื่องการปล่อยชั่วคราว โดยวันนี้ศาลฎีกา ได้มีคำสั่งออกมาว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง กระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนัก ทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้จำเลยต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (15 ส.ค.) เจ้าหน้าที่จะนำตัวลุงพลไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูง.-สำนักข่าวไทย

บุกชิงทอง

ควงปืนชิงทองกลางห้างดังย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท ขี่ จยย.หนี

สมุทรปราการ 14 ส.ค. – คนร้ายสวมชุดไรเดอร์ควงปืนจี้ชิงทอง ร้านทองกลางห้าง ย่านบางบ่อ กวาดทอง 163 บาท มูลค่ากว่า 8 ล้านบาท ก่อนขี่จักรยานยนต์หลบหนี ตำรวจเร่งล่าตัว เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ เกิดเหตุอุกอาจภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ คนร้ายรูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดไรเดอร์ ใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ สะพายกระเป๋าข้าง บุกเข้าไปในร้านทองพร้อมใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน กวาดสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวมราว 163 บาท หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8 ล้านบาท วิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า เอ็นแม็ก ที่จอดอยู่ด้านหน้า ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว พนักงานรักษาความปลอดภัยของห้าง ให้ข้อมูลว่า เห็นคนร้ายเดินเข้ามา จึงบอกให้ถอดหมวกกันน็อก แต่คนร้ายไม่สนใจ ก่อนบุกเข้าไปก่อเหตุในร้านทอง พนักงานชายร้านทอง เล่าว่า ผู้ก่อเหตุปีนเข้ามาแล้วพูดว่า ‘หยิบทองมา’ จึงสั่งให้น้องพนักงานหมอบลงเพื่อความปลอดภัย เพราะเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธปืน และไม่เคยเห็นหน้าของคนร้ายมาก่อน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และตำรวจ สภ.บางบ่อ พร้อมผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ เร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป. – […]