ก.ยุติธรรม 28 ต.ค. – “สมศักดิ์” เร่งแก้ปัญหาขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์กระท่อม เสนอ อย.ปรับระยะเวลาศึกษาเป็น 3 ช่วง เพื่อนำข้อมูลมากำหนดสารไมทราไจนีนในผลิตภัณฑ์ได้ก่อน ไม่ต้องรอ 1 ปี ชี้กำหนด 0.2 มิลลิกรัม ไม่สอดคล้อง หลังเจอกระท่อม 1 ใบ มีไมทราไจนีน 1.2-1.4 มิลลิกรัม แนะเก็บข้อมูลบ้านนาสาร คนกินมากว่า 30 ปี
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการประสานงาน เร่งรัด ส่งเสริมและสนับสนุนการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยา อาหาร และเครื่องสำอางที่ผลิตจากพืชกระท่อม โดยมีนายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส., ภก.วราวุธ เสริมสินสิริ ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, ผศ.นพ.วรวิทย์ วาณิชย์สุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและนวัตกรรมทางการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สถาบันอาหาร เข้าร่วมที่กระทรวงยุติธรรม
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ ตนมักจะถูกประชาชนสอบถามถึงความคืบหน้าการขออนุญาตทำพืชกระท่อมเป็นผลิตภัณฑ์ จึงได้เชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือวันนี้ เพื่อจะได้นำความคืบหน้าไปตอบประชาชนว่า ขณะนี้หน่วยงานต่างๆ ได้มีการขับเคลื่อนในด้านใดไปแล้วบ้าง ซึ่งจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการเกิดความสบายใจในการจะลงทุน เพราะขณะนี้ของต่างประเทศ อย่างอเมริกา ก็มีผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อม อยู่จำนวนหนึ่งแล้ว
ขณะที่ ภก.วราวุธ ชี้แจงว่า อย. ได้มีการขับเคลื่อนด้วยการรวบรวมข้อมูลว่า ผลิตภัณฑ์อาหาร ควรมีสารไมทราไจนีนเท่าไหร่ ซึ่งการดำเนินการมีความคืบหน้าเป็นลำดับ โดยจากนี้ก็ต้องมีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในการศึกษาวิจัย เพื่อนำข้อมูลมาสนับสนุน กำหนดมาตรฐานกลางสารไมทราไจนีน ในผลิตภัณฑ์ ขณะที่ผู้ประกอบการ ก็ต้องจัดอบรมเพิ่มความรู้ เพราะที่ผ่านมามีหลายรายที่ยื่นมา แต่ยังไม่สามารถเตรียมเอกสารบางรายการได้ ทาง อย. จึงให้คำแนะนำเรื่องเอกสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจ พร้อมคอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ส่วนการกำหนดสารไมทราไจนีนในผลิตภัณฑ์ ไม่เกิน 0.2 มิลลิกรัม เพราะอ้างอิงจากข้อมูลวิทยาศาสตร์ เพื่อความปลอดภัยต่อประชาชน รวมถึงยังมีสิ่งที่ต้องระวังอีกคือสารปนเปื้อน โลหะหนัก ดังนั้น นอกจากมีการเตรียมข้อมูลทางวิชาการแล้ว ก็ต้องมีการทำคู่ขนานในการให้ความรู้เกษตรกรให้ได้มาตรฐานด้วย
ส่วน ผศ.นพ.วรวิทย์ กล่าวเสริมว่า ถ้าจะเพิ่มสารไมทราไจนีนในผลิตภัณฑ์ให้สูงขึ้น ก็ต้องดูเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ถึงแม้จะมีข้อมูลว่า ใบกระท่อม 1 ใบ จะมีสารไมทราไจนีน เฉลี่ย 1.2-1.4 มิลลิกรัม หรือบางพื้นที่จะมีถึง 4 มิลลิกรัม แต่ก็ต้องรองานวิจัย ที่ขณะนี้กำลังศึกษาว่าปริมาณ 10 มิลลิกรัม จะสามารถใช้กับคนได้หรือไม่ โดยมีการทดสอบกับอาสาสมัครสุขภาพดี จำนวน 400 คน ในระยะเวลา 6 เดือน และจะเก็บข้อมูลครบถ้วนในระยะเวลา 1 ปี ซึ่งหากไม่มีผลข้างเคียง ก็จะทำให้สามารถเพิ่มสารไมทราไจนีนในผลิตภัณฑ์ได้
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การศึกษาข้อมูล 1 ปี สามารถปรับเป็น 3 ระยะได้หรือไม่ เช่น ระยะสั้น 3 เดือน ระยะกลาง 6 เดือน และระยะยาว 1 ปี เพื่อที่จะได้นำข้อมูลมากำหนดมาตรฐานกลางสารไมทราไจนีนได้ก่อน ซึ่งถ้าจะใช้เวลา 1 ปีอย่างเดียว ตนก็ไม่อยากคุยด้วยแล้ว เพราะจะไม่สามารถไปตอบประชาชนได้ อย่างพื้นที่บ้านนาสาร ก็กินใบกระท่อมมากว่า 30 ปี ซึ่งก็สามารถไปเก็บตัวอย่างมาประกอบการกำหนดมาตรฐานกลางได้ เพราะเป็นข้อมูล จากผู้ใช้จริง โดยสามารถนำเลือดไปตรวจ เพื่อรวบรวมเป็นข้อมูลได้เลยว่า คนที่ใช้มาเป็นระยะเวลานานเป็นอย่างไรบ้าง
“คนที่อยากค้าขาย เขาบอกว่า 1 ใบ มีสารไมทราไจนีนถึง 1.5 มิลลิกรัม ถ้าใส่ปุ๋ยดี จะมีถึง 4 มิลลิกรัม ซึ่งปกติคนก็จะกินหมดใบ ดังนั้น การที่เราออกตัวเลขต้องสอดคล้องกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการ ซึ่งตอนนี้จะต้องใช้เวลา 1 ปี ในการเร่งศึกษาข้อมูลเพื่อหาตัวเลขที่เป็นมาตรฐานกลาง รวมถึงสารสำคัญที่ต้องดู นอกจากสารไมทราไจนีนแล้วยังต้องดูในเรื่องของสารปนเปื้อน โลหะหนัก จุรินทรีย์ด้วย ทำให้ขณะนี้รอข้อมูลให้ครบถ้วนทั้งหมด เพื่อจะได้กำหนดสารไมทราไจนีนในผลิตภัณฑ์ได้เหมาะสม” รมว.ยุติธรรม กล่าว .-สำนักข่าวไทย