บอร์ด สปสช.เพิ่ม “ยา-วัคซีน-เวชภัณฑ์” รักษาโควิดเข้าสิทธิบัตรทอง

กรุงเทพฯ 24 ก.ย. – ที่ประชุมบอร์ด สปสช. เห็นชอบเพิ่มยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับตรวจคัดกรอง-ตรวจยืนยัน-ดูแลรักษาโรคโควิด-19 ให้เป็นสิทธิประโยชน์บัตรทอง ตามเกณฑ์แบบ Green channel รวมถึงเห็นชอบหลักการจ่ายชดเชยและวงเงินเบื้องต้นสำหรับรักษาโควิด-19 ผ่านงบประมาณจากกองทุนบัตรทอง ปี 2565


ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 9/2565 เมื่อวันที่ 5 ก.ย.65 โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบการเตรียมความพร้อมด้านยาต้านไวรัสรักษาโรคโควิด-19 เสนอโดย รศ.พญ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข โดยให้ยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ และชุดตรวจห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจคัดกรอง ตรวจยืนยัน และการดูแลรักษาที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 ตามแนวทางเวชปฏิบัติฯ ของกรมการแพทย์ และกระทรวงสาธารณสุข กำหนดทุกรายการ ให้เป็นสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) ตามเกณฑ์การพิจารณาแบบ Green channel

ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากประกาศของทางสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) เมื่อวันที่ 27 ก.ค.65 ในการเตรียมความพร้อมด้านยาต้านไวรัสรักษาโควิด-19 เพื่อรองรับการเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเข้ารับการรักษาตามสิทธิ โดยให้หน่วยบริการบริหารจัดการยาและเวชภัณฑ์ในระบบปกติ ตั้งแต่ 1 ก.ย.65


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์และแนวทางการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ยังคงมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จึงควรใช้เกณฑ์การพิจารณาแบบ Green channel ต่อไป

นพ.จเด็จ กล่าวต่อไปว่า ด้านคาดการณ์เป้าหมาย อัตราจ่าย และภาระงบประมาณ พบว่า งบประมาณที่ต้องใช้เป็นค่าบริการสำหรับโรคโควิด-19 รวมทั้งค่ายาสำหรับหน่วยบริการนอกสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สป.สธ.) ระหว่างวันที่ 1-30 ก.ย.65 จำนวนประมาณ 25.966 ล้านบาทนั้น ประกอบด้วย การจ่ายค่ายากรณีผู้ป่วยนอก 7.2 ล้านบาท และจ่ายค่าบริการและค่ายาผู้ป่วยใน 18.766 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ราคาค่ายาที่ใช้ในการคำนวณ เป็นราคาเบื้องต้นและอาจมีการปรับเปลี่ยนภายหลังได้อัตราราคายาจากสภาเภสัชกรรมแล้ว

ทั้งนี้ ในส่วนของแหล่งงบประมาณที่ใช้ จะมาจากงบกองทุนฯ ปี 2565 สำหรับค่าบริการผู้ป่วยในทั่วไปที่เกินกว่าอัตราจ่ายเบื้องต้น เปลี่ยนมาจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขสำหรับโรคโควิด-19 และค่าบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง


สำหรับแนวทางการจ่ายค่ายาต้านไวรัสรักษาโรคโควิด-19 จะเป็นไปตามข้อบ่งชี้การใช้ยาที่กรมการแพทย์กำหนด โดยจ่ายชดเชยเป็นเงิน (On top) ซึ่งจะกำหนดรายการยาเป็น Fee schedule หรือการจ่ายตามแต่ละประเภทบริการ ได้แก่ กรณีผู้ป่วยนอก จ่ายชดเชยค่ายา 4 รายการ ประกอบด้วย ฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) โมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) แพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) เรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) กรณีผู้ป่วยใน จะจ่ายชดเชยเฉพาะรายการยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความจำเป็นสำหรับผู้ป่วยบางราย

“การกำหนดการจ่ายแบบ on top สำหรับการใช้บริการสาธารณสุขโรคโควิด-19 มีแผนสิ้นสุดการจ่ายในปีงบประมาณ 2565 โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.65 เป็นต้นไป จะเป็นการจ่ายชดเชยตามสิทธิประโยชน์ในระบบปกติของกองทุนฯ เพื่อเป็นไปตามมาตรการเข้าสู่โรคประจำถิ่น” เลขาธิการ สปสช. ระบุ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้โรงอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย

เพลิงไหม้โรงงานอบลำไย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่เร่งนำรถดับเพลิงเข้าระงับเหตุ เพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้

พุ่งไม่หยุดราคาทองคำโลกนิวไฮอีก คาดไปต่อถึง 3 พันดอลลาร์/ออนซ์

ราคาทองคำตลาดโลกพุ่งแตะ 2,800 ดอลลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ นักวิเคราะห์คาดมีโอกาสพุ่งต่อถึง 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลราคาทองไทยวันนี้ขึ้นต่อจากราคาปิดวานนี้ และทำนิวไฮเท่าวานนี้

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : คอมมาลา แฮร์ริส

รายงานศึกชิงทำเนียบขาว 2024 พาไปรู้จักกับนางคอมมาลา แฮร์ริส ที่เพิ่งได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต ไม่กี่เดือนก่อนเลือกตั้ง เปรียบเหมือนการเปลี่ยนม้าใหม่กลางศึก หากชนะได้เธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐด้วย

เปิดโครงการ “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 10

นายกฯ ควง “คุณหญิงพจมาน-ครอบครัว” นำ ครม.-ประชาชน ร่วมโครงการเดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

สาว อบต.ตกใจ ตำรวจตามรอยเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน

สาว อบต. ตกใจ ตำรวจมาถึงที่ทำงาน ถามถึงเงิน 39 ล้านบาท ที่แท้ชื่อซ้ำกัน ยันไม่เคยรู้จัก “มาดามอ้อย-ทนายตั้ม” มาก่อน