รัฐมนตรีคลังอาเซียน คาดจีดีพีปี 68 โตร้อยละ 2.8

กรุงเทพฯ 5 พ.ค. – รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 ครั้งที่ 28 หวั่นเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยง หลัง IMF หั่นจีดีพีโลกปี 68 โตร้อยละ 2.8 อาเซียน+3 โตร้อยละ 3.8


นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน+3 (ASEAN+3 Finance Ministers’ and Central Bank Governors’ Meeting: AFMGM+3) ครั้งที่ 28 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ที่ประชุมฯ สรุปได้ ดังนี้

1. การประชุม AFMGM+3 ครั้งที่ 28 ที่ประชุมได้หารือและแสดงความเห็นในประเด็นสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคอาเซียน+3 คาดว่าเศรษฐกิจโลกและภูมิภาคอาเซียน+3 ในปี 2568 และ 2569 ยังมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในการดำเนินมาตรการทางการค้าของสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะส่งผลกระทบทางลบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของโลกและภูมิภาคอาเซียน+3 อย่างมีนัยสำคัญ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ IMF ได้ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจโลกในปี 2568 ร้อยละ 3.3 ลดลงเหลือร้อยละ 2.8 ขณะที่ ASEAN+3 คาดเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียน+3 ในปี 2568 โตร้อยละ 3.8 และ 2569 โตร้อยละ 3.4

    อาเซียนมุ่งใช้นโยบายทางการคลังเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชนและการบริโภคในประเทศ และสนับสนุนการบูรณาการทางการค้าและบริการภายในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพ เพื่อกระจายการส่งออกและลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐอเมริกา หารือความช่วยเหลือทางการเงินของภูมิภาค การเสริมสร้างประสิทธิภาพของมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี การจัดหาเงินทุนเพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การดำเนินการของ AMRO มาตรการริเริ่มพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย และข้อริเริ่มภายใต้กรอบความร่วมมือทางการเงินอาเซียน+3

    2. การประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการคลังระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 นอกจากการประชุม AFMGM+3 ครั้งที่ 28 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการคลังระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และความคิดเห็นในการดำเนินนโยบายของประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ใน 2 หัวข้อหลัก ประกอบด้วย (1) การส่งเสริมการเติบโตควบคู่กับการรักษาความยั่งยืนทางการคลัง (Promoting Growth While Maintaining Fiscal Sustainability) และ (2) การรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ (Addressing Population Aging)


      นายจุลพันธ์ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วมและยั่งยืน ควบคู่กับการรักษาวินัยทางการคลัง ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยใช้ยุทธศาสตร์ 3 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มรายได้ภาครัฐ การส่งเสริมการลงทุนเพื่อดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชน และการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวคิดเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (Bio – Circular – Green (BCG) Economy) พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับความร่วมมือระดับภูมิภาคผ่านความร่วมมืออาเซียน+3 เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ ความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน และการเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืนร่วมกัน

      นอกจากนี้ ในประเด็นการรับมือกับสังคมผู้สูงอายุ ประเทศไทยเผชิญความท้าทายด้านโครงสร้างจากปัญหาสังคมสูงวัย ซึ่งในปี 2567 ผู้สูงอายุจะมีสัดส่วนเกินร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด ซึ่งส่งผลต่อกำลังแรงงานและภาระทางการคลังที่เพิ่มขึ้น ประเทศไทยจึงดำเนินกลยุทธ์หลายด้าน เช่น การจัดตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ การส่งเสริมการจ้างงานและพัฒนาทักษะผู้สูงวัย การลงทุนในระบบสุขภาพเพื่อผู้สูงอายุ การส่งเสริมการออมโดยสมัครใจพร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษี และการเปิดตัวสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณเพื่อกระตุ้นการออมระยะยาว ทั้งนี้ ประเทศไทยเห็นความสำคัญของความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อรับมือกับปัญหาสังคมสูงวัยร่วมกันอย่างยั่งยืนในระยะยาว

      3. การประชุมหารือทวิภาคี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) ได้หารือทวิภาคีกับนาย Scott Morris รองประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank: ABD) ถึงแนวทางในการเร่งผลักดันการดำเนินโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและ ADB ที่มีความสำคัญ ได้แก่ โครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และโครงการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข เพื่อก่อสร้างอาคารและขยายเตียงการให้บริการรองรับผู้ป่วย รวมทั้งโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตร ระหว่าง ADB กองทุน Climate Investment Funds (CIF) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ (ธพว.) ตลอดจนความเป็นไปได้ในการกระชับความร่วมมือในภูมิภาคอาเซียน เพื่อรับมือกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว.-515-สำนักข่าวไทย


        ดูข่าวเพิ่มเติม

        Top Viewed • อ่านมากสุด

        ดูทั้งหมด

        “อนุทิน” โชว์ตัวว่าที่ รมต.ทีมเศรษฐกิจ ล้อมวงกินเค้กส้ม

        พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “อนุทิน” โชว์ตัว ว่าที่ 3 รมต.ทีมเศรษฐกิจป้ายแดง ล้อมวงกินเค้กส้ม “เอกนิติ” นั่งขุนคลัง เตรียมนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชี้ปล่อยฟื้นคนละครึ่งกระแสเต็มฟีด ขณะ “สีหศักดิ์” เตรียมนั่ง รมว.กต. มั่นใจชื่อนี้นานาชาติยอมรับ รับเผือกร้อนแก้ปมชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะ “อรรถพล” อดีต CEO ปตท. นั่ง รมว.พลังงาน ทำงานได้เลยไม่ต้องรำมวย ยอมรับเก้าอี้กลาโหม ต้องมีความรู้ในวิชาชีพ ปัดตอบชิงดำ “บิ๊กป้อม-ธรรมนัส” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกันที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกันที่บริเวณชั้นบน ทั้งนี้ คาดว่านายสีหศักดิ์ ถูกทาบทาม […]

        “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” ไม่กังวลปมคุณสมบัติ

        พรรคภูมิใจไทย 6 ก.ย.- “ธรรมนัส” ปัดแย่งเก้าอี้กลาโหม “บิ๊กป้อม” อุบตอบ “กล้าธรรม” ได้กระทรวงอะไรเพิ่ม ไม่กังวลปมคุณสมบัติ เหตุตัวเองเป็น “รมต.” มา 2 รอบแล้ว แย้ม เลขาฯ พรรค ต้องได้เก้าอี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เดินทางมายังที่ทำการพรรคภูมิใจไทย เพื่อพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือเป็นการส่วนตัว จากนั้นเวลา 16.50 น. นายอนุทิน และ ร.อ.ธรรมนัส เดินลงจากที่ทำการพรรคมายังร้านกาแฟจาริสต้าร์ ซึ่งมี น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัส รออยู่ ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส สั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่ร้อน ไม่หวาน ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า มาซื้อกาแฟวันนี้ หมายความว่าได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนมารับภรรยา เมื่อถามว่า พรรคกล้าธรรมมีการพูดคุยตำแหน่งรัฐมนตรีลงตัวแล้วหรือไม่ […]

        พายุไต้ฝุ่น ‘เผ่ย์ผ่า’ ถล่มชิซูโอกะในญี่ปุ่น

        โตเกียว 6 พ.ย. – พายุไต้ฝุ่น “เผ่ย์ผ่า” (Peipah) ได้สร้างความเสียหายอย่างหนักในจังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในวันศุกร์ โดยมีรายงานว่าลมกระโชกแรงจากพายุลูกนี้ทำลายอาคารไปอย่างน้อย 220 หลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 23 คน เอ็นเอชเค สื่อสาธารณะของญี่ปุ่นรายงานว่า ตรวจพบกระแสลมแรงใน เขตเทศบาล 4 แห่งของจังหวัดชิซูโอกะ ซึ่งรวมถึงเมืองโยชิดะและเมืองมากิโนะฮาระ เจ้าหน้าที่เมืองมากิโนะฮาระระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อย 20 ราย ณ เวลา 21:30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 19.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย นอกจากนี้ เอ็นเอชเค ยังรายงานด้วยว่า มีอาคารอย่างน้อย 43 หลังในเมืองมากิโนะฮาระถูกทำลายทั้งหมดหรือเสียหายครึ่งหนึ่งและอีก 184 หลังได้รับความเสียหายบางส่วน พายุ “เผ่ย์ผ่า” ได้ลดระดับลงเป็นพายุโซนร้อนเมื่อเวลาประมาณ 21:00 น. ของวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่น […]

        เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

        ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

        ข่าวแนะนำ

        มทภ.2 วอนอย่าหลงเชื่อข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง

        7 ก.ย. – แม่ทัพภาค 2 วอนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปั่นกระแสพูดโยงการเมือง ยันทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ชาติ พระมหากษัตริย์ และประชาชน เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีสื่อโซเชียล นำภาพของตนมาประกอบกับข้อความเรื่องโยงการเมืองว่า ขอพี่น้องประชาชนโปรดอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เป็นการสร้างกระแส ยุยง ปลุกปั่น ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนพูดชัดอยู่แล้วว่า จะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ตนเป็นทหาร ไม่ยุ่งเรื่องการเมืองอยู่แล้ว การเมืองก็ให้เขาว่ากันไป เรามีหน้าที่ดูแลอธิปไตยของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน นี่คือหน้าที่ของทหาร “ถึงผมจะเกษียณอีกไม่กี่วัน แต่ผมก็คือทหาร จะไม่ยุ่งเกี่ยวทางการเมืองอย่างแน่นอน” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

        โคลนผุดบนถนนย่านวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นถนนทรุด

        กทม. 7 ก.ย. – ดินโคลนผุดใต้พื้นถนนบริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ ชาวบ้านหวั่นพื้นทรุดตัว เจ้าหน้าที่เร่งถมยางมะตอย หลังจากฝนตกติดต่อกันหลายวัน ช่วงบ่ายของวันนี้ บริเวณจุดก่อสร้างรถไฟฟ้า ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสินก่อนเข้าวงเวียนใหญ่ มีโคลนสีเหลือง ผุดขึ้นมาบนพื้นถนนจำนวนมาก จนทำให้การจราจรบริเวณนั้นติดขัด โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวกำลังมีการก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก ) ซึ่งสาเหตุที่มีโคลนสีเหลืองผุดขึ้นมาเป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่า ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเข้าไปขังใต้พื้นถนนกลายเป็นดินโคลนที่ผุดขึ้นมา ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่โครงการรถไฟฟ้า ได้นำยางมะตอยเข้ามาถมจุดที่มีโคลนผุดขึ้นมา พร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องการทรุดตัวของพื้นถนน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับประชาชนที่สัญจรเส้นทางดังกล่าว ฝากประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่จะสัญจรเส้นทางดังกล่าว หากไม่มีกรณีเร่งด่วนให้หลีกเลี่ยง หรือเปลี่ยนเส้นทางสัญจร เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน.-สำนักข่าวไทย

        เขมรครึ่งร้อยป่วนบ้านหนองจานอีก

        สระแก้ว 7 ก.ย. – ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย เกณฑ์เด็ก-ผู้หญิง เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน สร้างเพิงพักชั่วคราวใกล้แนวชายแดน ชาวกัมพูชากว่า 50 คน รวมตัวท่ามกลางสายฝน กดดันทหารไทย โดยเกณฑ์เด็กและผู้หญิงเข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ใกล้หลักเขต 46 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทั้งสร้างเพิงพักชั่วคราวบริเวณใกล้แนวชายแดน สถานการณ์โดยรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความวุ่นวาย หรือการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ส่วนบริเวณจุดตรวจ 40 บ้านหนองจาน ผู้กำกับ สภ.โคกสูง ได้จัดกำลังตำรวจเข้าดูแลพื้นที่รักษาความปลอดภัย ช่วงเวลา 11.00 น. มีกลุ่มมวลชนเดินทางเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 20 คน เหตุการณ์ทั่วไปยังปกติ.-สำนักข่าวไทย

        “อนุทิน” ลั่นนั่งนายกฯ ควบ มท.1 เร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน

        พรรคภูมิใจไทย 7 ก.ย.- “อนุทิน” ลั่นไม่ติดหนี้บุญคุณใคร นอกจากประชาชน โพล่งนั่งนายกฯ ควบ มท.1 ประกาศเร่งแก้ปัญหา 4 ด้าน ยันไม่มีแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. ทุกอย่างกางบนโต๊ะโปร่งใส ไม่ยัดเยียดปรุงแต่ง หรือกลั่นแกล้งใคร เหมือนที่เคยโดน สั่งล่วงหน้า ครม.หนู เวลาน้อยแค่ 4 เดือน ต้องไม่เหนื่อย-ไม่ป่วย-ไม่ลา-ทำงานไม่มีวันหยุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า นับเป็นพระมหากรุณากรุณาธิคุณ แก่ตัวกระผมอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ผมยืนยันด้วยความตระหนักดีว่าการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันนี้ อาจมีข้อจำกัดหลายประการหลายด้าน ในการปฏิบัติหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ผมให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีของผมทุกคน จะมุ่งมั่นทุ่มเททำงานด้วยความไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย จะใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกำลังกาย กำลังสมอง เพื่อให้ประเทศไทยของเราได้หลุดพ้นจากสถานการณ์วิกฤตต่าง ๆ โดยเร็วที่สุด ต้องขอขอบพระคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ความมั่นใจโดยผ่านความไว้วางใจและการลงคะแนนเสียงของบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่น้องสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาชนที่ได้ให้การสนับสนุนตนให้เข้ามาแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า และได้เสียสละให้ประเทศไทยมีทางออกและหลังจากลงคะแนนเสียงเรียบร้อยแล้ว ได้กลับไปอยู่ในเจตนารมณ์เดิมของพรรคประชาชนคือการเป็นฝ่ายตรวจสอบ ตนได้ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรรกล้าธรรม […]