สองแม่ลูกเวียดนามจมน้ำทะเลเสียชีวิต

ภูเก็ต 31 ก.ค. – สลด! สองแม่ลูกชาวเวียดนามลงเล่นน้ำทะเลหาดในทอน จ.ภูเก็ต ตั้งแต่เช้าตรู่ ก่อนจมน้ำเสียชีวิต


ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตได้รับแจ้งว่า มีนักท่องเที่ยวหญิง 2 คน จมน้ำบริเวณหาดในทอน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เสียชีวิต หลังได้รับแจ้งได้สั่งการให้สายตรวจเขต 1 อ.ถลาง ตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้น ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สภ.สาคู และเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางฮวงไห่ อายุ 52 ปี กับนางสาวนวล อายุ 16 ปี สัญชาติเวียดนาม ทั้งคู่เป็นแม่ลูกกัน โดยเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณใกล้กับหาดในทอน เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา และมีกำหนดเช็กเอาท์ในวันนี้ ( 31 ก.ค.) แต่มาประสบเหตุเสียชีวิตก่อน เจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่สถานทูตเวียดนามประจำประเทศไทย เพื่อประสานญาติของผู้เสียชีวิตมารับศพไปประกอบพิธีต่อไป

จากการสอบถามนายสิน ผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งกำลังทำความสะอาดอยู่บริเวณชายหาดดังกล่าว ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 06.30 น. กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามทั้ง 3 คน คือ ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน และเพื่อนของนางสาวนวล ซึ่งรอดชีวิตและไม่ได้รับบาดเจ็บ ได้ลงเล่นน้ำทะเลบริเวณชายหาดดังกล่าว ปรากฏว่าในระหว่างนั้นเกิดคลื่นลมแรง ตนพยายามกวักมือเรียกกลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวให้กลับเข้ามายังฝั่งแต่ไม่เป็นผล กลุ่มนักท่องเที่ยวยังคงเล่นน้ำต่อไป กระทั่งสังเกตเห็นว่าสองคนแม่ลูกถูกคลื่นซัดออกไปนอกฝั่งและกำลังจะจมน้ำ จึงให้หลานชายลงไปช่วยเหลือและนำกลับขึ้นมายังฝั่ง ขณะนั้นทั้งคู่ไม่ได้สติแล้ว และมีการช่วยชีวิตเบื้องต้น พร้อมโทรศัพท์แจ้ง 1669 เพื่อเข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นนำตัวส่งโรงพยาบาลถลาง โดยแพทย์พยายามช่วยชีวิตแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา


ทั้งนี้ ปกติแต่ละวันบริเวณหาดในทอน จะมีไลฟ์การ์ดประจำ 2 จุด จุดละ 2 คน ปฏิบัติงานระหว่าง 08.00-19.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน เมื่อเห็นนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำเกินจากจุดที่กำหนด จะมีการเป่านกหวีดแจ้งให้นักท่องเที่ยวขึ้นจากน้ำในจุดที่อาจจะเป็นอันตรายทันที รวมทั้งมีการติดตั้งธงแดงห้ามลงเล่นน้ำตลอดแนวหาด ซึ่งในช่วงที่นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำและเกิดเหตุนั้นอยู่ในช่วงเวลาก่อนปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ด แต่มีการติดตั้งธงแดงตลอดแนวหาด พร้อมมีป้ายแจ้ง “อันตราย ห้ามลงเล่นน้ำห่างจากฝั่งเกิน 20 เมตร” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก