กาญจนบุรี 4 พ.ย.-ชาวบ้านที่กาญจนบุรี ปลูกบ้านอยู่อาศัยมานานหลายปี จู่ ๆ มีนายทุนที่ดินติดกันถมดิน และสร้างกำแพงสูงระดับเดียวกับหลังคาบ้านที่อยู่อาศัย สร้างความเดือดร้อนและความไม่ปลอดภัย ร้องจังหวัดให้ช่วยตรวจสอบและแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน
หลังสื่อมวลชนได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเจ้าของที่ดินแปลงที่อยู่ติดกันถมดินสูง พร้อมสร้างกำแพงสูงมิดหลังคาบ้าน 8 หลัง บริเวณซอยข้างร้านอาหารครัวภักดี ต.ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี โดยเมื่อวานนี้ (3 พ.ย.) นางสาวมธุรส คุ้มประสิทธิ์ อาจารย์สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 8 ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ นำเอกสารยื่นให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปให้ความช่วยเหลือ โดยมอบผ่านสื่อมวลชน เพื่อให้ทราบถึงความเดือดร้อน
หนังสือร้องเรียนระบุว่า “ประมาณปี 2554 ชาวหมู่บ้านซอยครัวภักดี ได้สร้างบ้านที่อยู่อาศัยตามลักษณะพื้นที่เดิม คือสร้างบ้านโดยการถมที่ดินลดหลั่นไปตามพื้นที่จากสูงไปต่ำ โดยบ้านทุกหลังมีทัศนียภาพที่งดงามบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมดี เงียบสงบ แสงสว่างเข้าสู่ตัวบ้านโดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ มีลมพัดผ่านตลอด ทุกบ้านจึงสร้างบ้านด้วยเหตุผลนี้และยังคงผ่อนชำระกับธนาคารเป็นระยะเวลาที่เหลืออีกเกือบ 30 ปี
กระทั่งต้นปี 2563 มีนักธุรกิจมาซื้อที่ดินเปล่ามีลักษณะเป็นป่าธรรมชาติที่อยู่ข้างซอยครัวภักดียาวตลอดหลายไร่ และมีการถมที่ดินสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตลอดทั้งปีจนคนในหมู่บ้านต้องต่อกำแพงให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันดินสไลด์เข้าบ้าน จนปัจจุบันนี้ระดับดินที่ถมได้สูงท่วมเท่ากับหลังคาบ้านทำให้เกิดปัญหามลพิษทางเสียง อากาศ การบดอัดของดินกระทบต่อโครงสร้างของบ้าน คือ บ้านสั่น ทรุด แตกร้าวเสียหาย
หนังสือที่เจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือนร้อน ยังระบุว่า ปลายปี 2563 เกิดฝนตกหนัก น้ำมีลักษณะขุ่น สีแดง ไหลทะลักเข้าบริเวณบ้านเป็นครั้งแรก จากที่อยู่มาเป็นสิบปี เกิดโพรงขนาดใหญ่ เป็นที่ประจักษ์ได้ว่าสาเหตุมาจากการถมที่สูงเกินกว่าระดับข้างเคียงมากจนน้ำทั้งหมดไหลลงมาเข้าหมู่บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงตั้งข้อสังเกตว่า การก่อสร้างกำแพงกันดิน กำแพงบ้าน จำนวนดินที่ใช้ถม ไม่สามารถสร้างความปลอดภัยให้กับชาวบ้านหมู่บ้านซอยครัวภักดีได้ และไม่พบการวางท่อใต้ดินตามแนวกำแพงเพื่อกันน้ำทะลัก กันดินไหล ตามลักษณะกฎหมายว่าด้วยเรื่องกำแพงกันดิน
ทำให้ลูกบ้านซอยครัวภักดีหวั่นวิตก ว่าหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข ไม่มีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการขออนุญาต ตรวจสอบกำแพงกันดิน กันน้ำว่าก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ การบดอัดดิน การนำรถใหญ่มาวิ่งเหยียบไปมาทั้งปี ฝุ่นละอองเกาะหนาทั่วทั้งบ้าน เสียงดังรบกวนการทำงาน และเรียนออนไลน์ ชาวบ้านหมู่บ้านซอยครัวภักดีด้านซ้ายมือจึงขอร้องทุกข์และขอให้ดำเนินการตรวจสอบแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วนเนื่องจากทนทุกข์มาตลอดระยะเวลา 1 ปี
โดยยื่น 4 ข้อเรียกร้อง คือ ขอให้ตรวจสอบหลักฐานการขออนุญาตการถมดินของ ตรวจสอบหลักฐานการสร้างกำแพงกันดิน กันน้ำ ว่ารองวับแรงดันของดินที่สูงถึงระดับหลังคาได้จริงหรือไม่ มีการจัดการระบายน้ำและวางท่อของกำแพงกันดินหรือไม่ ขอให้หยุดสร้างปัญหาด้านเสียงและฝุ่นเพราะมีผลเสียระยะยาวต่อสุขภาพ ขอให้ตรวจสอบโครงการถมดินและก่อสร้างทั้งหมดและขอให้หยุดการก่อสร้างจนกว่าปัญหาทุกข้อจะได้รับการแก้ไข เยียวยา และดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย นี่คือคำร้องทุกข์ของชาวบ้านหมู่บ้านซอยครัวภักดี
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้ กับเจ้าหน้าที่เทศบาลทราบว่า การขออนุญาตถูกต้องและไม่ได้ผิดระเบียบใด ๆ เนื่องจากกฎหมายไม่ได้กำหนด หรือห้ามก่อสร้างกำแพงสูง ซึ่งต้องพูดคุยร่วมกันเพราะชาวบ้านที่มีบ้านอยู่แนวกำแพงสูง หวั่นเรื่องความไม่ปลอดภัย โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เชิญชาวบ้านที่เดือดร้อนไปร่วมเจรจาหาทางออกในเรื่องนี้แล้ว.-สำนักข่าวไทย