fbpx

เตรียมฝากขัง “อาผะ” ผู้ต้องหาลักพาตัว “น้องจีน่า”

เชียงใหม่ 13 ก.ย. – ตำรวจเตรียมคุมตัวนายอาผะ ผู้ต้องหาลักพาตัว “น้องจีน่า” ส่งฝากขังเรือนจำในวันนี้ และยังต้องรอผลทางนิติวิทยาศาตร์เพื่อสาวถึงตัวผู้บงการ


นายอาผะ หรือ “เสี่ยว” อายุ 44 ปี เพื่อนสนิทของพ่อ “น้องจีน่า” และเป็นผู้ต้องหาคดีลักพาตัว “น้องจีน่า” จากบ้านพักในหมู่บ้านห้วยฝักดาบ ต.อินทขิล อ.แม่แตง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 กันยายน กระทั่งพบตัว “น้องจีน่า” ถูกทิ้งไว้ในห้างสวนใกล้หมู่บ้านเมื่อ 5 วันก่อน

นายอาผะยังถูกคุมตัวอยู่ที่ สภ.แม่แตง และเตรียมนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่ในวันนี้ หลังแจ้งข้อหาพรากเด็กอายุกว่า 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา และกักขังหน่วงเหนี่ยวให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย รวมถึงข้อหาหลบหนีเข้าเมือง โดยเมื่อ 2 วันก่อน ตำรวจได้นำตัวนายอาผะไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 11 จุด และฝากขังที่ สภ.แม่แตง ครบ 48 ชั่วโมงแล้ว


ด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตอนนี้ต้องรอผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือแฝง และผลตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นตามจุดต้องสงสัยต่างๆ อย่างไรก็ตาม ใน 1-2 วันนี้ ทีมสหวิชาชีพจะเข้าไปพูดคุยกับ “น้องจีน่า” แต่ต้องรอให้แพทย์ประเมินความพร้อมก่อน

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะมีการสอบสวนอย่างไร น้องพูดคุยรู้เรื่องแล้วหรือไม่ หรือจะให้น้องดูรูปภาพคนที่ดูแลน้องในช่วงหายตัวไปหรือไม่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ บอกเพียงว่า ทีมสหวิชาชีพมีเทคนิคและวิธีการพูดคุยกับเด็กอยู่แล้ว

เบื้องต้นมีรายงานว่าตำรวจยังคงส่ง DNA ของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ไปตรวจสอบเพิ่มเติมอีก 4 คน ซึ่งมีทั้งคนในครอบครัวแม่ของ “น้องจีน่า” และชาวบ้านห้วยฝักดาบบางคน คาดว่าหากผลตรวจออกมาทั้งหมดแล้วจะสามารถเชื่อมโยงกลุ่มคนที่ร่วมขบวนการ รวมทั้งสาเหตุการลักพาตัว “น้องจีน่า” ได้. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้