เชียงใหม่เข้มโควิด จ่อสั่งจำกัด “ดื่มเหล้าในร้านแค่ 5 ทุ่ม”

เชียงใหม่ 5 เม.ย.-จังหวัดเชียงใหม่ออกมาตรการเข้ม หลังพบผู้ป่วยใหม่ 4 ราย ล้วนเชื่อมโยงสถานบันเทิงที่กรุงเทพ เร่งสอบสวนเพื่อเติม พร้อมติดตามผู้สัมผัส เตรียมสั่งทุกร้านจำกัดให้ “ดื่มเหล้าในร้านได้แค่ 5 ทุ่ม”

วันที่ 5 เม.ย. 64 เวลา 15.30 น. ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดย นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจงว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 จำนวน 4 ราย เบื้องต้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มีมติให้มีการยกระดับการควบคุม ป้องกันโรคเพิ่มขึ้น อาทิ การจัดขบวนแห่ อนุญาตให้เฉพาะวัฒนธรรมจังหวัด ดำเนินงาน คนร่วมขบวนไม่เกิน 200 นอกนั้นไม่อนุญาต ผู้ร่วมงาน ผู้ชมต้องสวมหน้ากาก 100%


“สำหรับสถานบริการ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้าย และร้านอาหารที่มีการจำหน่ายสุรา ให้เปิดจำหน่าย และบริโภคสุรา ได้ไม่เกิน 23.00 น. โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 6 – 30 เม.ย. 64 พร้อมกันนี้มีการประกาศพื้นที่สี่เหลี่ยมรอบคูเมืองให้เป็นพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงสถานประกอบการ สถานบริการต้องปรับปรุงเรื่องระบบระบายอากาศ พร้อมกันนี้ได้แจ้งให้ ศปก.ทุกระดับ ออกตรวจสถานที่เสี่ยงหากพบว่าไม่มีมาตรการป้องกันโรค ให้เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อพิจารณาสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว” รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

ด้าน นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจงว่า การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 รายใหม่ ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 4 ราย เป็นผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังสถานบันเทิงในย่านรัชดา กรุงเทพฯและนนทบุรี ที่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ตามที่ทางกรมควบคุมโรคได้ประกาศ โดย


ผู้ป่วยรายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประวัติเดินทางไปสถานบันเทิงย่านรัชดา กทม. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 พร้อมกับเพื่อน 4 คน ก่อนจะแยกตัวเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทาง โดยเที่ยวบิน VZ2104(สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่) วันที่ 31 มีนาคม 2564 เวลา 17.30 น. ที่นั่ง 19F เข้าพักที่บ้านพักส่วนตัว และในวันที่ 1 มีนาคม ได้รับข่าวการระบาดที่สถานบันเทิงในกรุงเทพฯ จึงได้แยกกักตัวเอง ต่อมาจึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 4 เมษายน 2564 มีอาการไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์

ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประวัติเดินทางไปสถานบันเทิงย่านรัชดา กทม. พร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 1 และได้เดินทางกลับเชียงใหม่ โดยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมเพื่อนอีก 3 คนที่ไปเที่ยวในสถานบันเทิงเดียวกัน เมื่อเดินทางมาถึงเชียงใหม่ ในวันที่ 1-2 เมษายน ได้รับข่าวการระบาดในสถานบันเทิง กทม. จึงได้แยกกักตัวในห้องพักส่วนตัวเพียงคนเดียว และเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 4 เมษายน ไม่มีอาการ ผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์

ผู้ป่วยรายที่ 3 ชายไทย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ร่วมเดินทางกับผู้ป่วยรายที่ 2 เดินทางไปและกลับด้วยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมกัน หลังจากกลับมาถึงเชียงใหม่ได้พักในบ้านพักส่วนตัวกับแฟนสาว และในวันที่ 4 เมษายน เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไม่มีอาการ ผลตรวจยืนยัน เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์ สำหรับเพื่อนอีก 2 คนที่เดินทางไปด้วยกัน ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ


“ทีมสวบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 32 ราย(ผู้สัมผัสในครอบครัว 6 ราย , ผู้สัมผัสในชุมชน 3 ราย) และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 99 ราย(ผู้สัมผัสบนเครื่องบิน) รวม 131 ราย ทางทีมสอบสวนโรคได้ติดตามและนัดตรวจหาเชื้อในบ่ายวันนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ” นพ.สสจ.เชียงใหม่ กล่าว

นพ.จตุชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ป่วยรายที่ 4 ชาย สัญชาติจีน อายุ 28 ปี อาศัยในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดนนทบุรี เป็นเวลา 7 วัน หลังเดินทางกลับเชียงใหม่ โดยมีไทม์ไลน์ ดังนี้
วันที่ 1 เมษายน 2564 ด้วยเที่ยวบิน FD416 เวลา 18.20 น. (ดอนเมือง- เชียงใหม่) เข้าบ้านพักส่วนตัวกับภรรยา ช่วงเย็นเดินทางไปรับประทานอาหารปิ้งย่าง
วันที่ 2 เมษายน 2564 เดินทางไปรับประทานอาหารใกล้สนาบิน และทานอาหารเย็นที่ตลาดทิพย์เนตร
วันที่ 3 เมษายน 2564 เดินทางไปเซ็นทรัลเฟสติวัล ตลาดทิพย์เนตร กาดมณี
วันที่ 4 เมษายน 2564 เดินทางไปรับประทานอาหารใกล้สนามบิน และเริ่มมีอาการไข้ต่ำๆ ไอ เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก จมูกได้กลิ่น จึงได้เข้าขอรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 5 เมษายน 2564 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติม

นายแพทย์จตุชัย กล่าวอีกว่า การพบผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 4 รายนี้ เป็นการนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ยังไม่พบการระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการยกระดับมาตรการของจังหวัดในระดับสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนร่วมมือกันป้องกันตนเอง และปฏิบัติตนตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ทำปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันควบคุมโรคของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด

ทางสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ผู้ที่ไปเที่ยวในสถานบันเทิงดังกล่าวตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป หากมีอาการผิดปกติให้ไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจหาเชื้อ หากมีความกังวลขอรับคำปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือติดต่อที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ 053-211048-50, 084-8052121 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“พี สะเดิด” เปิดใจเป็นมะเร็งเต้านมนานเกือบ 20 ปี แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – “พี สะเดิด” เจ้าของเพลงฮิต “จี่หอย” เผยเป็นมะเร็งเต้านมมานานเกือบ 20 ปี ตัดสินใจหยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเองแข็งแกร่งต่อสู้กับโรค จนค่ามะเร็งดีขึ้น แพทย์ชี้พบได้น้อยมากในผู้ชาย “พี สะเดิด” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 46 ปี เปิดใจว่าป่วยเป็นมะเร็งเต้านม มาเกือบ 20 ปีแล้ว รักษาโรคนี้โดยที่ไม่บอกใครเลย เพราะกลัวครอบครัวเป็นห่วง ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้าอก และพบว่าก้อนเนื้อมันขึ้นเรื่อยๆ ขนาดเท่าลูกมะนาว คิดว่าเป็นเพราะไม่ดูแลตัวเอง ทำงานหนัก กิน-นอนไม่เป็นเวลา แต่เพราะเป็นคนที่ตรวจสุขภาพตลอดทุก 6 เดือน พอเช็กดูเลยรู้ว่ามีเชื้อมะเร็งเต้านม หมอบอกว่าโอกาสน้อยที่จะเห็นผู้ชายเป็นมะเร็งเต้านม จะเป็นหนึ่งในล้าน หรือหนึ่งในสิบล้าน พี สะเดิด บอกว่าตอนแรกก็กลัว เลยตัดสินใจหันหน้าเข้าทางธรรม และปรับปรุงตัวเองควบคู่กันไป กินของที่มีประโยชน์ หยุดบุหรี่ หยุดเหล้า ทำให้ตัวเราแข็งแกร่งต่อสู้กับโรคมะเร็งของตัวเอง จนตอนนี้อยู่ทุกระยะค่ามะเร็งดีขึ้น ค่อยๆ ลดลงมา จนเหลือ 0 […]

“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ

รัฐสภา 13 ส.ค.-“ชยพล” แฉ “กองทัพบก” ซื้ออุปกรณ์ฟิตเนสผู้ช่วยทูตทหารพนมเปญ ทั้งที่ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชาแล้ว ด้าน “อนุสรณ์” แจงยัน กมธ.ไม่ได้ตีเช็คเปล่า แต่ตรวจเช็กความพร้อมให้ทหาร การอภิปรายมาตรา 8 กระทรวงกลาโหม วงเงิน 9.51 หมื่นล้านบาท นายชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) อภิปรายว่า ปีนี้ตัดงบกระทรวงกลาโหมยาก เมื่อถามหารายละเอียดจะมีคนพูดว่าปล่อยไปเถอะ ตอนนี้มีสถานการณ์ชายแดน ซึ่งตนเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องใช้งบประมาณ เพราะเป็นห่วงทหารหน้างานเช่นกัน เลยต้องดูงบประมาณว่าใช้ถูกจุดหรือไม่ นายชยพล กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ตนเห็นงบเกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ คิดว่าเป็นอุปกรณ์ผ่าตัดแต่กลายเป็นว่าเป็นอุปกรณ์สำหรับม้า ตนหาอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อดูว่าใส่ใจทหารมากแค่ไหน แต่กลับไม่พบอุปกรณ์สำหรับขันชะเนาะห้ามเลือดที่ใช้ได้ด้วยมือข้างเดียว มีแค่สายยางไส้ไก่ ถ้าอยู่คนเดียวจะทำอย่างไร อยากถามว่าเราใส่ใจบุคลากรของเราจริงหรือไม่ และที่ข้องใจคือเราตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับกัมพูชา มีการเรียกทูตไทยประจำพนมเปญกลับ แต่ปรากฏว่ากองทัพบกสั่งอุปกรณ์ฟิตเนสไปเติมที่บ้านผู้ช่วยทูตทหารอยู่เลย จะมีใครได้อยู่ใช้หรือไม่ “นี่เป็นเหตุผลว่าแม้อยู่ในความขัดแย้งแต่ต้องตรวจสอบกองทัพอย่างเข้มข้น การที่รัฐบาลเซ็นเช็คเปล่าให้กองทัพโดยไม่ตรวจสอบ คือการทำให้กองทัพอ่อนแอ คนที่ชอบออกมาพูดเชียร์ทหารอยากให้คิดไว้ด้วยว่า หากรักชีวิตทหารจริง ก็อยากให้ฟังทหารชายแดนว่าเขาลำบากอย่างไร การทำงานของนายพลสะท้อนความต้องการคนเหล่านั้นจริงหรือไม่” ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ กมธ.เสียงข้างมากชี้แจงว่า […]

“สืบพงษ์” ขึ้นศาลสืบพยานนัดแรก กรณียื่นฟ้องรักษาการอธิบดี ม.รามฯ ข้อหาเบิกความเท็จ

ศาลอาญา 13 ส.ค. – ศาลนัดสืบพยาน “สืบพงษ์” ยื่นฟ้อง รักษาการ อธ.รามคำแหง พร้อมพวก ข้อหาเบิกความเท็จถูกยื่นถอดถอนเมื่อปี 65 ชี้ “ฮุนเซน” ทิ้งใบปริญญาลงโถส้วมเป็นการไม่ให้เกียรติมหาวิทยาลัย วอนยุติพฤติกรรมไม่เหมาะสม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานที่ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ รักษาการอธิการบดี ม.รามคำแหง กับพวกรวม 2 คน ในความผิดฐาน “ฟ้องเท็จ / เบิกความเท็จ นายสืบพงษ์ เปิดเผยว่า ศาลนัดสืบพยานนัดแรกในคดีที่ตนได้ฟ้องผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำแหงฟ้องตนที่ศาลแขวงพระนครเหนือโดยกล่าวหาตนว่ากระทำตนเป็นเจ้าพนักงานทั้ง ๆ ที่ไม่มีอำนาจ จากนั้นทางศาลได้ยกฟ้องคดีดังกล่าว ซึ่งได้ดำเนินคดีที่ศาลอาญาในข้อหาฟ้องเท็จและเบิกความเท็จ โดยวันนี้ตนเองเป็นพยานปากแรกที่ขึ้นเบิกความในวันนี้และจะมีพยานทั้งหมด 5 ปาก สืบพยานในวันนี้และวันที่ 14 ส.ค. ส่วนประเด็นที่ถูกถอดถอนอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2565 นั้น มีการถอดถอนตนเองทั้งหมด 2 ครั้ง หลังจากที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีได้ […]

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

ข่าวแนะนำ

EOD ลุยค้นหาจรวด หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง

13 ส.ค. – EOD ลุยค้นหา-เก็บกู้จรวดในพื้นที่บุรีรัมย์-ศรีสะเกษ หลังชาวบ้านแจ้งเจอต่อเนื่อง ขณะที่คณะ ICRC ลงพื้นที่เก็บข้อมูลผลกระทบเหตุปะทะ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD ลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ยางพาราของชาวบ้านและอีกหลายจุด ในเขต ต.สายตะกู อ.บ้านกรวด หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบหลุมต้องสงสัยอยู่ในที่ดินของตัวเอง จากการตรวจสอบพบสะเก็ดระเบิด และอีกหลายจุดพบเป็นหลุมคล้ายหลุมจรวด BM21 ที่ตกลงมา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และต้องใช้ความระมัดระวัง ขณะที่ชาวบ้านที่เพิ่งเข้ามาอยู่บ้าน ยังไม่มั่นใจกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหลังมีทหารเหยียบทุ่นระเบิดเป็นรายที่ 5 EOD เร่งตรวจสอบ–กู้ระเบิดกระสุนปืนใหญ่ชายแดน ส่วนที่ศรีสะเกษเจ้าหน้าที่ EOD สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณีพบกระสุนปืนใหญ่ตกในเขต ต.เสาธงชัย และ ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน เบื้องต้นพบ 7 จุด บริเวณสวนยางพาราและใกล้เขตชุมชน โดยส่วนใหญ่เป็นลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 100 มิลลิเมตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการขุดตรวจพิสูจน์ พบว่าหลายลูกระเบิดไปแล้ว เหลือเพียงเศษซาก และยังพบอีก 1 จุดในพื้น […]

อึ้งพระอยู่กับสีกา เปิดบนรถเจอกองทิชชูใช้แล้ว

สกลนคร 13 ส.ค. – วงการผ้าเหลืองฉาวอีก ตำรวจตรวจรถเก๋งคันหนึ่งจอดอยู่ข้างทาง พบพระกับสีกาอยู่ด้วยกัน 2 ต่อ 2 คุยไปคุยมา สุดท้ายไปจบที่ลาสิกขา หลังตำรวจ สภ.ขมิ้น จ.สกลนคร ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน พบรถเก๋งต้องสงสัยสีดำ จอดผิดปกติบริเวณ ริมคลอง บ.พาน ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ตำรวจต้องอึ้ง เมื่อเจอพระอยู่กับสีกา 2 ต่อ 2 ในรถ ต่อมาทราบว่า คือ พระชัยณรงค์ อายุ 53 ปี สังกัด วัดแห่งหนึ่ง อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ จึงเชิญตัวไปยังวัดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ เพื่อทำพิธีลาสิกขา และนำตัวมาตรวจปัสสาวะ ผลไม่พบสารเสพติด แต่รถที่พระเเละสีกาดังกล่าวอยู่ด้วยกัน พบเป็นรถที่ถูกสวมทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบ คืบหน้าล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง สภ.ขมิ้น พบรถเก๋งคันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณสถานที่เก็บของกลาง กระจกด้านข้างและด้านหลังติดฟิล์มดำสนิท แต่ด้านหน้าฟิล์มใสมองเห็นถึงภายใน ที่เบาะนั่งข้างคนขับ ยังพบกองจีวรของทิดชัยณรงค์ […]

สถานการณ์ชายแดนสุ่มเสี่ยงปะทะรอบ 2

สุรินทร์ 13 ส.ค. – กระแสข่าวจากหลายฝ่ายยืนยันตรงกันว่าระยะ 2 วันนี้ สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะเพิ่มความตึงเครียด สุ่มเสี่ยงที่จะมีการปะทะรอบ 2 ฝ่ายปกครอง จ.สุรินทร์ จึงแจ้งเตือนไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ให้ลูกบ้านเตรียมพร้อมรองรับเหตุฉุกเฉิน ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศ ในหมู่บ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือน พบว่า หลายครอบครัวเพิ่งกลับเข้าพื้นที่ 1-2 วัน หลังอพยพหนีภัยการสู้รบในห้วงวันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ได้รับข่าวไม่สู้ดีนัก เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง แจ้งให้เตรียมความพร้อม เก็บสัมภาระไว้เพื่อรองรับสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงการปะทะ รอบ 2 ซึ่งอาจรุนแรงมากกว่ารอบแรก ทำให้ชาวบ้านหลายคนต่างตื่นตระหนก ต้องการอพยพไปอยู่นอกพื้นที่ แต่เมื่อผู้นำหมู่บ้านทำความเข้าใจ ก็คลายความกังวลลงบ้าง โดยสื่อสารข้อความจากนายอำเภอพนมดงรักว่า รอให้มีเสียงปะทะกันเกิดขึ้นก่อน จึงให้อพยพ ซึ่งชาวบ้านก็เชื่อฟัง เพราะส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าจะอพยพไปที่ไหน เพราะยังไม่มีการเปิดศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่หญิงคนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ ใกล้กลุ่มปราสาทตาเมือนตลอดห้าวัน เพราะเป็นห่วงวัวที่เลี้ยงไว้ จึงอาศัยอยู่ในกระต๊อบพร้อมญาติรวมสี่คน และประเมินสถานการณ์ว่า น่าจะปลอดภัย เพราะวิถีกระสุนไปตกไกลกว่า จึงได้ยินเสียงปะทะอย่างชัดเจน […]

คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำ ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัว

มุกดาหาร 13 ส.ค.- คุมตัว “ลุงพล” ส่งเรือนจำมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา หลังศาลอุทธรณ์ตัดสินจำคุก 26 ปี คดีน้องชมพู่ จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเพิ่มโทษให้จำคุก “ลุงพล” 26 ปี ฐานเจตนาฆ่าเด็ก พรากผู้เยาว์ และอำพรางศพ ขณะที่ “ป้าแต๋น” พิพากษายืนยกฟ้อง ในคดีฆาตกรรม น้องชมพู่ ทั้งนี้ภายหลัง ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ “ลุงพล” ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร เสนอไปยังศาลฎีกา ล่าสุด ช่วงเย็นที่ผ่านมา ศาลฎีกายังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่ ทำให้ “ลุงพล” ถูกคุมตัวไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ระหว่างรอคำสั่งขอประกันตัวจากศาลฎีกา ย้อนไปคดีนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2563 น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ หายไปจากบ้านพักภาย ในหมู่บ้านกกกอก ทำให้ชาวบ้านมากกว่า 200 ชีวิต รวมถึง ตัวลุงพล ช่วยกันออกตามหา […]