เชียงใหม่เข้มโควิด จ่อสั่งจำกัด “ดื่มเหล้าในร้านแค่ 5 ทุ่ม”

เชียงใหม่ 5 เม.ย.-จังหวัดเชียงใหม่ออกมาตรการเข้ม หลังพบผู้ป่วยใหม่ 4 ราย ล้วนเชื่อมโยงสถานบันเทิงที่กรุงเทพ เร่งสอบสวนเพื่อเติม พร้อมติดตามผู้สัมผัส เตรียมสั่งทุกร้านจำกัดให้ “ดื่มเหล้าในร้านได้แค่ 5 ทุ่ม”

วันที่ 5 เม.ย. 64 เวลา 15.30 น. ที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารเฉพาะกิจจังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ โดย นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนถึงสถานการณ์โรคโควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แจงว่า วันนี้จังหวัดเชียงใหม่ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 จำนวน 4 ราย เบื้องต้นคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มีมติให้มีการยกระดับการควบคุม ป้องกันโรคเพิ่มขึ้น อาทิ การจัดขบวนแห่ อนุญาตให้เฉพาะวัฒนธรรมจังหวัด ดำเนินงาน คนร่วมขบวนไม่เกิน 200 นอกนั้นไม่อนุญาต ผู้ร่วมงาน ผู้ชมต้องสวมหน้ากาก 100%


“สำหรับสถานบริการ และสถานประกอบการที่มีลักษณะคล้าย และร้านอาหารที่มีการจำหน่ายสุรา ให้เปิดจำหน่าย และบริโภคสุรา ได้ไม่เกิน 23.00 น. โดยให้มีผลตั้งแต่ วันที่ 6 – 30 เม.ย. 64 พร้อมกันนี้มีการประกาศพื้นที่สี่เหลี่ยมรอบคูเมืองให้เป็นพื้นที่ควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด รวมถึงสถานประกอบการ สถานบริการต้องปรับปรุงเรื่องระบบระบายอากาศ พร้อมกันนี้ได้แจ้งให้ ศปก.ทุกระดับ ออกตรวจสถานที่เสี่ยงหากพบว่าไม่มีมาตรการป้องกันโรค ให้เสนอคณะกรรมการโรคติดต่อ เพื่อพิจารณาสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว” รอง ผวจ.เชียงใหม่ กล่าว

ด้าน นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แจงว่า การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 รายใหม่ ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้ง 4 ราย เป็นผู้ที่มีประวัติเดินทางไปยังสถานบันเทิงในย่านรัชดา กรุงเทพฯและนนทบุรี ที่พบการระบาดของโรคโควิด-19 ตามที่ทางกรมควบคุมโรคได้ประกาศ โดย


ผู้ป่วยรายที่ 1 เป็นชายไทย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประวัติเดินทางไปสถานบันเทิงย่านรัชดา กทม. เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2564 พร้อมกับเพื่อน 4 คน ก่อนจะแยกตัวเดินทางกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทาง โดยเที่ยวบิน VZ2104(สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่) วันที่ 31 มีนาคม 2564 เวลา 17.30 น. ที่นั่ง 19F เข้าพักที่บ้านพักส่วนตัว และในวันที่ 1 มีนาคม ได้รับข่าวการระบาดที่สถานบันเทิงในกรุงเทพฯ จึงได้แยกกักตัวเอง ต่อมาจึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 4 เมษายน 2564 มีอาการไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก ผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์

ผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 26 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ประวัติเดินทางไปสถานบันเทิงย่านรัชดา กทม. พร้อมกับผู้ป่วยรายที่ 1 และได้เดินทางกลับเชียงใหม่ โดยรถยนต์ส่วนตัว พร้อมเพื่อนอีก 3 คนที่ไปเที่ยวในสถานบันเทิงเดียวกัน เมื่อเดินทางมาถึงเชียงใหม่ ในวันที่ 1-2 เมษายน ได้รับข่าวการระบาดในสถานบันเทิง กทม. จึงได้แยกกักตัวในห้องพักส่วนตัวเพียงคนเดียว และเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวันที่ 4 เมษายน ไม่มีอาการ ผลยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์

ผู้ป่วยรายที่ 3 ชายไทย อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ร่วมเดินทางกับผู้ป่วยรายที่ 2 เดินทางไปและกลับด้วยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมกัน หลังจากกลับมาถึงเชียงใหม่ได้พักในบ้านพักส่วนตัวกับแฟนสาว และในวันที่ 4 เมษายน เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไม่มีอาการ ผลตรวจยืนยัน เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 พบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารักษาตัวที่ห้องแยกความดันลบ โรงพยาบาลนครพิงค์ สำหรับเพื่อนอีก 2 คนที่เดินทางไปด้วยกัน ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อ


“ทีมสวบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรค ค้นหาผู้สัมผัส พบผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูง 32 ราย(ผู้สัมผัสในครอบครัว 6 ราย , ผู้สัมผัสในชุมชน 3 ราย) และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 99 ราย(ผู้สัมผัสบนเครื่องบิน) รวม 131 ราย ทางทีมสอบสวนโรคได้ติดตามและนัดตรวจหาเชื้อในบ่ายวันนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ” นพ.สสจ.เชียงใหม่ กล่าว

นพ.จตุชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ป่วยรายที่ 4 ชาย สัญชาติจีน อายุ 28 ปี อาศัยในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ มีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดนนทบุรี เป็นเวลา 7 วัน หลังเดินทางกลับเชียงใหม่ โดยมีไทม์ไลน์ ดังนี้
วันที่ 1 เมษายน 2564 ด้วยเที่ยวบิน FD416 เวลา 18.20 น. (ดอนเมือง- เชียงใหม่) เข้าบ้านพักส่วนตัวกับภรรยา ช่วงเย็นเดินทางไปรับประทานอาหารปิ้งย่าง
วันที่ 2 เมษายน 2564 เดินทางไปรับประทานอาหารใกล้สนาบิน และทานอาหารเย็นที่ตลาดทิพย์เนตร
วันที่ 3 เมษายน 2564 เดินทางไปเซ็นทรัลเฟสติวัล ตลาดทิพย์เนตร กาดมณี
วันที่ 4 เมษายน 2564 เดินทางไปรับประทานอาหารใกล้สนามบิน และเริ่มมีอาการไข้ต่ำๆ ไอ เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก จมูกได้กลิ่น จึงได้เข้าขอรับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 5 เมษายน 2564 ผลตรวจยืนยันพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดเพิ่มเติม

นายแพทย์จตุชัย กล่าวอีกว่า การพบผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง 4 รายนี้ เป็นการนำเชื้อเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะนี้ยังไม่พบการระบาดในจังหวัดเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการยกระดับมาตรการของจังหวัดในระดับสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ขอความร่วมมือประชาชนร่วมมือกันป้องกันตนเอง และปฏิบัติตนตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดเชียงใหม่ ให้ทำปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันควบคุมโรคของจังหวัดเชียงใหม่อย่างเคร่งครัด

ทางสำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ผู้ที่ไปเที่ยวในสถานบันเทิงดังกล่าวตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป หากมีอาการผิดปกติให้ไปโรงพยาบาลเพื่อรับการตรวจหาเชื้อ หากมีความกังวลขอรับคำปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือติดต่อที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ 053-211048-50, 084-8052121 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผนังโรงงานถล่มทับรถยนต์เสียหาย 7 คัน-เจ็บเล็กน้อย 1 คน

ชลบุรี 16 พ.ค. – ผนังอาคารโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ถล่มทับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้างเสียหายรวม 7 คัน และพนักงานบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน ผนังอาคารพังถล่มที่บริษัทแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ อ.พานทอง จ.ชลบุรี โดยส่วนที่พังเป็นฝาผนังที่ต่อเติมยื่นออกมาของอาคารชั้น 2 ถล่มลงมาทับรถยนต์ที่จอดอยู่ด้านข้าง เสียหายรวม 7 คัน เบื้องต้นมีพนักงานบริษัทเป็นหญิงได้รับบาดเจ็บ 1 คน บริษัทนำส่งโรงพยาบาล สอบถามพนักงานบริษัทเล่าว่า ได้ยินเสียงตึ้มเลยพากันวิ่งออกมา ตอนแรกนึกว่าเสียงฟ้า โดยตรงนั้นเป็นอาคารฝ่ายบุคคล จะไม่มีคนไปนอน ด้านผู้กำกับการ สภ.พานทอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย วิศวกรบริษัทเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และบริษัททำประกันภัยไว้ คงไม่มีปัญหาอะไร ซึ่งต้องประเมินความเสียหายทั้งอาคารและรถยนต์ที่เสียหาย เพื่อชดใช้ตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]