เตือนดื่มเหล้า-ผิงไฟในเต็นท์ คลายหนาว อันตรายถึงชีวิต

กทม. 27 พ.ย.-กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตือน ประชาชนที่รับมือกับลมหนาว ไม่ควรดื่มเหล้าหรือผิงไฟในเต็นท์ เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย อาจจะทำให้เสียชีวิตได้

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ประชาชนบางกลุ่มยังมีความเข้าใจผิดหรือมีความเชื่อสืบต่อกันมาว่า การดื่มเหล้าจะสามารถช่วยคลายหนาวได้ ซึ่งในทางการแพทย์นั้นจัดว่า เป็นเรื่องที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทำให้มีความรู้สึกร้อนวูบวาบหรือร่างกายอบอุ่นขึ้น แต่ความจริงแล้วการขยายตัวของหลอดเลือดฝอยเป็นช่องทางให้ความร้อนถูกระบายออกจากร่างกาย ยิ่งดื่มเหล้ามากขึ้น ความร้อนก็จะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้นด้วย ส่งผลให้อุณหภูมิภายในร่างกายจะลดลงต่ำกว่าปกติ และเมื่อร่างกายสัมผัสอากาสเย็นเป็นเวลานานขณะนอนหลับ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ นอกจากนี้ อีกวิธีหนึ่งที่ประชาชนมักใช้เพิ่มความอบอุ่นแก่ร่างกายคือ การผิงไฟ ซึ่งในการก่อไฟแต่ละครั้งนั้น จะปล่อยควันไฟออกมา และเมื่อสูดดมเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ดังนั้น จึงควรก่อไฟในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ขณะผิงไฟควรนั่งหรือยืนอยู่เหนือทิศทางลม และกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้บริเวณที่มีการก่อไฟ รวมทั้งควรหลีกเลี่ยงการนำเตาถ่านหรือตะเกียงน้ำมันก๊าดเข้าไปจุดผิงไฟในเต็นท์ เนื่องจากจะมี ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ ไม่มีกลิ่น เมื่อร่างกายสูดดมก๊าซ 2 ชนิดนี้เข้าไปจะทำให้เซลล์ของอวัยวะต่าง ๆ ขาดออกซิเจนไปเลี้ยง โดยเฉพาะสมองทำให้เกิดอาการง่วง หลับโดยไม่รู้ตัว และเสียชีวิตได้ ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้หรือถูกไฟคลอกจนเสียชีวิตด้วย


“ทั้งนี้ แนวทางการป้องกันตนเองจากลมหนาวมีหลากหลายวิธี ได้แก่ สวมเสื้อกันหนาวหรือห่มผ้าหนา ๆ แต่หากไม่มีให้สวมเสื้อผ้าหลาย ๆ ชั้นแทนได้ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 7 – 9 ชั่วโมงต่อคืน กินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือ ดื่มน้ำสมุนไพรรสร้อน เช่น น้ำขิง เลือกกินอาหารที่มีส่วนผสมของสมุนไพร รสชาติเผ็ดร้อน อาทิ พริก ขิง ข่า กะเพรา เพื่อเพิ่มอุณหภูมิความร้อนให้กับร่างกายช่วยให้คลายหนาวได้ ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก

นายกฯ สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ จากภาคใต้ ร่วมประชุม WEF อวดผ้าไทยสู่สายตาโลก หารือผู้นำและภาคเอกชนชั้นนำของโลก

กทม.จำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามรถบรรทุกวิ่ง เริ่มคืนนี้!

ผู้ว่าฯ กทม. ติดตามสถานการณ์ฝุ่น กทม. คาดสุดสัปดาห์ระบายอากาศดีขึ้น พร้อมจำกัดพื้นที่ชั้นใน ห้ามวิ่งรถบรรทุก เริ่มคืนนี้! ย้ำประชาชนช่วยสอดส่องการลอบเผา ต้นเหตุฝุ่น PM 2.5

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ว วันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้ แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟน ฝากลูกหลานช่วยด้วย