ชายวัย 54 ดื่มเหล้าหวังแก้หนาว สุดท้ายพบเป็นศพ-แพทย์เตือนอันตราย

บุรีรัมย์ 13 ม.ค. – อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ อากาศหนาวจัด หนุ่มวัย 54 ปี ดื่มเหล้าหวังแก้หนาว พบเสียชีวิตภายในห้องนอน แพทย์เตือนดื่มเหล้าหวังแก้หนาวเป็นความเชื่อที่ผิดและอาจทำให้เสียชีวิตได้


พ.ต.ท.อภิชา เตียงประโคน สารวัตร (สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเสียชีวิตในบ้าน หมู่ 2 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จึงประสานหน่วยกู้ภัยร่วมตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบร่างนายวินัย อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน นอนเสียชีวิต ตรวจสอบร่างกายเบื้องต้นไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลการถูกทำร้าย

สอบถามนายภูกฤษ น้องชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติพี่ชายจะอยู่บ้านคนเดียว ทุกวันจะออกมาเล่นอยู่หน้าบ้าน วันนี้ไม่เห็นจึงเข้าไปดู พบว่าเสียชีวิตแล้ว ยอมรับว่าพี่ชายชอบดื่มเหล้าประจำ เชื่อว่าพี่ชายน่าจะดื่มหนัก ประกอบกับสภาพอากาศหนาวเย็น


เช่นเดียวกับนางอนง พี่สาวผู้เสียชีวิต เล่าว่า ปกติน้องชายจะดื่มเหล้าขาวทุกวัน น้องชายมักชวนเพื่อนมาดื่ม บอกว่าดื่มแก้หนาว พยายามห้ามแล้วน้องไม่สนใจ บอกว่ายอมตายเพราะเหล้า สุดท้ายเป็นเหมือนคำพูด

ด้านนายแพทย์ ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จ.นครราชสีมา ย้ำการดื่มเหล้าหวังแก้หนาวเป็นความเชื่อที่ผิด การดื่มเหล้าแก้หนาวมีโทษมากกว่า เพราะการดื่มเหล้าจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว ทำให้ร่างกายสูญเสียความร้อนมากขึ้นกว่าปกติ จะทำให้อุณภูมิในร่างกายลดต่ำลง และถ้าคนเมาจนหมดสติอาจทำให้เสียชีวิตได้ เพราะอุณภูมิจะลดต่ำลงมาก ดังนั้น การดื่มเหล้าไม่ใช่เป็นการแก้หนาว

ส่วนช่วงเช้าวานนี้ (12 ม.ค.) ร.ต.อ ปรีชาศักดิ์ ศักดิ์ยปรีชา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านปราสาท ว่าพบชายนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณบ้านของชาวบ้าน จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านด่าน ทราบชื่อนายสุข อายุ 69 ปี นอนหงายใส่กางเกงในตัวเดียว ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 4 ชั่วโมง ห่างกันประมาณ 50 เมตร บริเวณริมคลองน้ำส่งน้ำ พบเสื้อผ้าเปียกน้ำของผู้ตายกองอยู่ใกล้กับรั้วลวดหนามริมถนนใกล้คลอง


สอบถามนางอัมพร อายุ 51 ปี เจ้าของบ้านและเป็นคนพบศพ เล่าว่า ช่วงประมาณ 22.00 น. คืนที่วันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงเหมือนคนมารื้อค้นอยู่บริเวณที่พบศพ จึงคิดว่าเป็นแมว ประกอบกับอุณหภูมิ 13 องศาเซลเซียส จึงไม่อยากออกมาดู พอตื่นเช้าเห็นถุงปุ๋ยคลุมวัตถุบางอย่างจึงหยิบออกเพื่อเก็บให้เรียบร้อย พอเปิดออกถึงกับเข่าอ่อน เพราะเป็นร่างคนแข็งทื่อและคิดว่าเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

ด้านนายชาย อายุ 60 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า พี่ชายตาบอดมากว่า 10 ปี ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวตามลำพัง คาดว่าพี่ชายน่าจะเดินกลับบ้านแต่มาพลาดตกคลองส่งน้ำ แล้วพยายามช่วยเหลือตัวเอง ซึ่งพี่ชายน่าจะรีบถอดเสื้อผ้าออก เพราะอากาศหนาวจัด คาดว่าน่าจะพยายามหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาว จึงคลานไปบ้านหลังนี้ แต่ไม่มีใครออกมา จึงคว้าสิ่งใกล้ตัวที่พอคว้าได้ คือถุงปุ๋ยเอามาคลุมร่าง ซึ่งอาจจะทนกับสภาพอากาศที่หนาวจัดไม่ได้จนเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

Satellite images show Palisades Fire

ไฟป่าแอลเอเหลือเผาไหม้รุนแรง 3 จุด

ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส หรือแอลเอเคาน์ตี้ ของสหรัฐ ยังเหลือลุกไหม้รุนแรงอยู่ 3 จุด ภัยคุกคามจากไฟป่ายังคงสูงจนถึงวันพุธ เนื่องจากกระแสลมพัดกระโชกแรง

ดอยอินทนนท์หนาวจัด

อากาศหนาวปกคลุมภาคเหนือ ยอดดอยอินทนนท์ อุณหภูมิเหลือ 1 องศาฯ

อากาศหนาวระลอกใหม่ปกคลุมภาคเหนือ ทำให้ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ อุณหภูมิลดลงเหลือแค่ 1 องศาฯ ส่วนจุดชมวิวกิ่วแม่ปาน เช้าวันนี้ (13 ม.ค.) อุณหภูมิ 5 องศาฯ นักท่องเที่ยวรอชมแสงแรกจนเต็มพื้นที่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสานตอนบน หนาวจัด กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 16 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือตอนบน ภาคอีสานตอนบน อากาศหนาวจัด ส่วนประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน อุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยกับมีลมแรง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาฯ

รถรางโดยสารชนกันในฝรั่งเศส บาดเจ็บ 68 คน

รถรางโดยสาร 2 ขบวน ชนประสานงากันในเมืองสตราสบูร์ก ทางตะวันออกของฝรั่งเศส เมื่อวันเสาร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 68 คน