กระบี่ 7 ต.ค.-เปิดภาพวงจรปิด คนร้ายอุกอาจยิงดับเสี่ยรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ภาคใต้ พบรถผู้ต้องสงสัย 3 คันจอดเรียงกันริมถนน ตำรวจตั้ง 3 ประเด็นสังหาร ขัดแย้งส่วนตัว ขัดแย้งธุรกิจ และปมชู้สาว
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสุวิทย์ ภักสุธีโกศล อายุ70 ปี เสียชีวิต ขณะนำส่ง รพ.ปลายพระยา เหตุเกิดบนถนนสายปลายพระยา เขาต่อ ม.5 ต.ปลายพระยา จ.กระบี่ ห่างจาก สภ.ปลายพระยาประมาณ 1 กม. เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (6 ต.ค.) ขณะที่ผู้ตายกำลังขับรถกระบะอีซูสุตอนครึ่ง สีขาว หลังมาคุมงานโครงการก่อสร้างถนนสายดังกล่าว ซึ่งผู้ตายเป็นผู้รับเหมา ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะผู้ตายจอดตกในคูข้างทาง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน นอกจากนี้ยังมีรถกระบะอีกคันที่ถูกรถผู้ตายพุ่งชนท้ายกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้มาตรวจคุมงานก่อสร้างโครงขยายข่องจราจร ที่ผู้ตายรับเหมาก่อสร้างระยะทาง 2 กิโลเมตร โดยผู้ตายขับรถกระบะมาจอดไว้ หน้าร้านซ่อมไดนาโม จากนั้นก็ขึ้นไปขับรถเกรดถนนเอง ต่อมาลูกน้องผู้ตายเห็นรถกระบะ 2 คันมาจอดประกบรถผู้ตายทั้งสองข้าง ลูกน้องผู้ตายขับรถบรรทุกสิบล้อผ่านมาเห็นจึงไปตามและบอกว่ามีคนมาหา ผู้ตายลงจากรถยนต์ แล้วก็โดยสารรถบรรทุกไปที่รถกระบะที่จอดไว้ หลังส่งผู้ตายก็ขับออกไปทำธุระต่อ พอกลับมาอีกทีพบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นคาดว่า ขณะที่ผู้ตายกลับขึ้นไปนั่งที่รถกระบะแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ ได้มีคนร้ายคาดว่ามารออยู่ก่อนแล้ว ใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตาย 1 นัด หลังโดนยิงรถผู้ตายพุ่งไปข้างหน้าไปชนรถกรบะที่จอดอยู่ ก่อนกระเด็กตกข้างทาง ก่อนที่จะมีคนนำตัวส่งโรงพยาบาลปลายพระยาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ต่อมา นายวิทวัฒน์ ภักดีสุธีโกศล อายุ 41 ปี ลูกชายผู้ตายได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.อ.จงรักษ์ พิมพ์ทอง ผกก.สภ.ปลายพระยา โดยนายวิทวัฒน์ ให้การว่าในช่วงเกิดเหตุตนเองทำงานอยู่อีกจุดหนึ่ง บนถนนสายเดียวกัน ขณะที่ทำงานอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งจากคนงานว่าคุณพ่อขับรถไปชนได้รับบาดเจ็บ จึงรีบไปยังที่เกิดเหตุ พบว่ารถที่คุณพ่อขับตกในคูระบายน้ำ และพบร่างคุณพ่อนั่งในรถในสภาพถูกยิงอาการสาหัส ไม่รู้สึกตัว ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่ง รพ.ปลายพระยาเสียชีวิตขณะนำส่ง รพ. ส่วนความขัดแย้งของคุณพ่อนั้นไม่ทราบเรื่อง แต่ยอมรับว่ามีงานที่ชนะการประมูลงานก่อสร้างในพื้นที่หลายแห่ง ส่วนถนนจุดที่เกิดเหตุนั้นไม่ใช่งานที่ประมูลได้ แต่เป็นการรับงานมาจากอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งก็ไม่มีปัญหาขัดแย้งอะไร
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายวิทวัฒน์ พร้อมด้วยคนขับรถบรรทุกสิบล้อลูกน้องผู้ตาย ไปชี้จุดเกิดเหตุ โดยคนขับรถบรรทุกสิบล้อ ให้การว่า ขณะที่ขับรถบรรทุกดินผ่านมายังจุดเกิดเหตุ ได้เห็นมีผู้ชายประมาณ 4-5 คน และผู้หญิง 1 คนมายืนล้อมรถกระบะของนายสุวิทย์ จึงได้ขับรถไปบอกนายสุวิทย์ ว่ามีคนมาธุระ จากนั้นนายสุวิทย์ ก็ขึ้นรถบรรทุกให้ตนเองขับมาส่งยังจุดที่จอดรถกระบะ ก่อนขับรถบรรทุกออกไปทำงานต่อ ซึ่งปกติจะมีคนมาหานายสุวิทย์ ประจำจึงไม่ได้สงสัยอะไร
ด้าน พ.ต.อ.จงรักษ์ กล่าวว่า จาการสอบปากคำพยาน บุคคลในที่เกิดเหตุ ทราบว่าหลังจากที่ผู้ตายกลับมาขึ้นรถกระบะ แล้วมีรถต้องสงสัย ซึ่งขับมาจอดเรียงกัน 3 คันริมถนน ด้านหน้ารถของผู้ตาย เมื่อผู้ตายขับรถมาถึง คนร้ายที่จอดรถก็ออกมาดักรอผู้ตาย ผู้ตายก็ลดกระจก แล้วอาจจะพูดคุยตกลงอะไรบางอย่างกับกลุ่มคนร้าย แต่ตกลงกันไม่ได้ คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนจ่อยิง จากนั้นรถผู้ตายก็พุ่งไปข้างหน้าแล้วไปชนรถที่จออยู่อีกคันก่อนตกลงข้างทาง ส่วนคนร้ายซึ่งมากับรถกระบะ 1 คัน รถเก๋ง 2 คัน ตามในภาพวงจรปิด หลังเกิดเหตุก็ขับหลบหนี มุ่งไปทางถนนสายเขาต่อ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่หว่างไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี เพื่อตรวจสอบป้ายทะเบียนรถต้องสงสัย
ส่วนประเด็นการสังหาร ตอนนี้ยังคงตั้งไว้ 3 ประเด็นหลัก คือ เรื่องขัดแย้งส่วนตัวที่ผู้ตายเคยมีความขัดแย้งในพื้นที่ เกี่ยวกับเครื่องจักรที่จอดขวางถนน ต่อมาประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจรับเหมา ที่ผู้ตายชนะการประมูลงานหลายพื้นที่ และประเด็นเรื่องชูสาว ซึ่งยังไม่ได้ตัดทิ้ง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุพบว่ามีผู้ชาย 3-4 คน และผู้หญิง 1 คนมาที่รถของผู้ตายก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการเผาเครื่องจักรของผู้ตายและดักยิงคนงาน ที่จังหวัดตรังเมือปี 61 เชื่อว่าไม่มีความเชื่อโยงกันเนื่องจากคดีเกิดขึ้นมานานแล้ว
สำหรับนายสุวิทย์ หรือเสี่ยกบ เป็นผู้รับเหมารายใหญ่ เป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ภักสุธีโกศลการก่อสร้าง เป็นที่รู้จักกันในวงการก่อสร้างถนน ในพื้นที่ภาคใต้ เคยชนะการประมูลงานก่อสร้างถนนมาหลายจังหวัด เมื่อปลายปี 61 ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเครื่องจักร และคนงานของบริษัทโดนยิงเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดตรัง.-สำนักข่าวไทย