วงจรปิดพบรถต้องสงสัย 3 คัน ก่อนยิงดับเสี่ยรับเหมาภาคใต้

กระบี่ 7 ต.ค.-เปิดภาพวงจรปิด คนร้ายอุกอาจยิงดับเสี่ยรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ภาคใต้ พบรถผู้ต้องสงสัย 3 คันจอดเรียงกันริมถนน ตำรวจตั้ง 3 ประเด็นสังหาร ขัดแย้งส่วนตัว ขัดแย้งธุรกิจ และปมชู้สาว

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายสุวิทย์ ภักสุธีโกศล อายุ70 ปี เสียชีวิต ขณะนำส่ง รพ.ปลายพระยา เหตุเกิดบนถนนสายปลายพระยา เขาต่อ ม.5 ต.ปลายพระยา จ.กระบี่ ห่างจาก สภ.ปลายพระยาประมาณ 1 กม. เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (6 ต.ค.) ขณะที่ผู้ตายกำลังขับรถกระบะอีซูสุตอนครึ่ง สีขาว หลังมาคุมงานโครงการก่อสร้างถนนสายดังกล่าว ซึ่งผู้ตายเป็นผู้รับเหมา ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะผู้ตายจอดตกในคูข้างทาง สภาพด้านหน้าพังยับเยิน นอกจากนี้ยังมีรถกระบะอีกคันที่ถูกรถผู้ตายพุ่งชนท้ายกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร


สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้มาตรวจคุมงานก่อสร้างโครงขยายข่องจราจร ที่ผู้ตายรับเหมาก่อสร้างระยะทาง 2 กิโลเมตร โดยผู้ตายขับรถกระบะมาจอดไว้ หน้าร้านซ่อมไดนาโม จากนั้นก็ขึ้นไปขับรถเกรดถนนเอง ต่อมาลูกน้องผู้ตายเห็นรถกระบะ 2 คันมาจอดประกบรถผู้ตายทั้งสองข้าง ลูกน้องผู้ตายขับรถบรรทุกสิบล้อผ่านมาเห็นจึงไปตามและบอกว่ามีคนมาหา ผู้ตายลงจากรถยนต์ แล้วก็โดยสารรถบรรทุกไปที่รถกระบะที่จอดไว้ หลังส่งผู้ตายก็ขับออกไปทำธุระต่อ พอกลับมาอีกทีพบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว เบื้องต้นคาดว่า ขณะที่ผู้ตายกลับขึ้นไปนั่งที่รถกระบะแล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ ได้มีคนร้ายคาดว่ามารออยู่ก่อนแล้ว ใช้อาวุธปืนจ่อยิงผู้ตาย 1 นัด หลังโดนยิงรถผู้ตายพุ่งไปข้างหน้าไปชนรถกรบะที่จอดอยู่ ก่อนกระเด็กตกข้างทาง ก่อนที่จะมีคนนำตัวส่งโรงพยาบาลปลายพระยาและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ต่อมา นายวิทวัฒน์ ภักดีสุธีโกศล อายุ 41 ปี ลูกชายผู้ตายได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.อ.จงรักษ์ พิมพ์ทอง ผกก.สภ.ปลายพระยา โดยนายวิทวัฒน์ ให้การว่าในช่วงเกิดเหตุตนเองทำงานอยู่อีกจุดหนึ่ง บนถนนสายเดียวกัน ขณะที่ทำงานอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งจากคนงานว่าคุณพ่อขับรถไปชนได้รับบาดเจ็บ จึงรีบไปยังที่เกิดเหตุ พบว่ารถที่คุณพ่อขับตกในคูระบายน้ำ และพบร่างคุณพ่อนั่งในรถในสภาพถูกยิงอาการสาหัส ไม่รู้สึกตัว ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่ง รพ.ปลายพระยาเสียชีวิตขณะนำส่ง รพ. ส่วนความขัดแย้งของคุณพ่อนั้นไม่ทราบเรื่อง แต่ยอมรับว่ามีงานที่ชนะการประมูลงานก่อสร้างในพื้นที่หลายแห่ง ส่วนถนนจุดที่เกิดเหตุนั้นไม่ใช่งานที่ประมูลได้ แต่เป็นการรับงานมาจากอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งก็ไม่มีปัญหาขัดแย้งอะไร


ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายวิทวัฒน์ พร้อมด้วยคนขับรถบรรทุกสิบล้อลูกน้องผู้ตาย ไปชี้จุดเกิดเหตุ โดยคนขับรถบรรทุกสิบล้อ ให้การว่า ขณะที่ขับรถบรรทุกดินผ่านมายังจุดเกิดเหตุ ได้เห็นมีผู้ชายประมาณ 4-5 คน และผู้หญิง 1 คนมายืนล้อมรถกระบะของนายสุวิทย์ จึงได้ขับรถไปบอกนายสุวิทย์ ว่ามีคนมาธุระ จากนั้นนายสุวิทย์ ก็ขึ้นรถบรรทุกให้ตนเองขับมาส่งยังจุดที่จอดรถกระบะ ก่อนขับรถบรรทุกออกไปทำงานต่อ ซึ่งปกติจะมีคนมาหานายสุวิทย์ ประจำจึงไม่ได้สงสัยอะไร

ด้าน พ.ต.อ.จงรักษ์ กล่าวว่า จาการสอบปากคำพยาน บุคคลในที่เกิดเหตุ ทราบว่าหลังจากที่ผู้ตายกลับมาขึ้นรถกระบะ แล้วมีรถต้องสงสัย ซึ่งขับมาจอดเรียงกัน 3 คันริมถนน ด้านหน้ารถของผู้ตาย เมื่อผู้ตายขับรถมาถึง คนร้ายที่จอดรถก็ออกมาดักรอผู้ตาย ผู้ตายก็ลดกระจก แล้วอาจจะพูดคุยตกลงอะไรบางอย่างกับกลุ่มคนร้าย แต่ตกลงกันไม่ได้ คนร้ายจึงใช้อาวุธปืนจ่อยิง จากนั้นรถผู้ตายก็พุ่งไปข้างหน้าแล้วไปชนรถที่จออยู่อีกคันก่อนตกลงข้างทาง ส่วนคนร้ายซึ่งมากับรถกระบะ 1 คัน รถเก๋ง 2 คัน ตามในภาพวงจรปิด หลังเกิดเหตุก็ขับหลบหนี มุ่งไปทางถนนสายเขาต่อ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่หว่างไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี เพื่อตรวจสอบป้ายทะเบียนรถต้องสงสัย

ส่วนประเด็นการสังหาร ตอนนี้ยังคงตั้งไว้ 3 ประเด็นหลัก คือ เรื่องขัดแย้งส่วนตัวที่ผู้ตายเคยมีความขัดแย้งในพื้นที่ เกี่ยวกับเครื่องจักรที่จอดขวางถนน ต่อมาประเด็นความขัดแย้งทางธุรกิจรับเหมา ที่ผู้ตายชนะการประมูลงานหลายพื้นที่ และประเด็นเรื่องชูสาว ซึ่งยังไม่ได้ตัดทิ้ง เนื่องจากก่อนเกิดเหตุพบว่ามีผู้ชาย 3-4 คน และผู้หญิง 1 คนมาที่รถของผู้ตายก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีการเผาเครื่องจักรของผู้ตายและดักยิงคนงาน ที่จังหวัดตรังเมือปี 61 เชื่อว่าไม่มีความเชื่อโยงกันเนื่องจากคดีเกิดขึ้นมานานแล้ว


สำหรับนายสุวิทย์ หรือเสี่ยกบ เป็นผู้รับเหมารายใหญ่ เป็นเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด ภักสุธีโกศลการก่อสร้าง เป็นที่รู้จักกันในวงการก่อสร้างถนน ในพื้นที่ภาคใต้ เคยชนะการประมูลงานก่อสร้างถนนมาหลายจังหวัด เมื่อปลายปี 61 ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเครื่องจักร และคนงานของบริษัทโดนยิงเสียชีวิต เหตุเกิดในพื้นที่จังหวัดตรัง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]