นนทบุรี 30 ก.ย.-แม่อัดคลิปเด็กอนุบาลเล่าเหตุการณ์นาทีถูกครูทำร้าย ดึงหู ตบหน้า หยิกแขน ขังในห้องน้ำ พ่อ-แม่ แจ้งความ ยันดำเนินคดีถึงที่สุด พร้อมให้ลูกออกจากโรงเรียน
นี่เป็นเรื่องราวจากปากของน้องนักเรียนชั้นอนุบาล ห้อง KG.1E หรืออนุบาล 1 ห้อง E ห้องครูพี่เลี้ยงจุ๋ม ซึ่งผู้ปกครองได้อัดคลิปนาทีน้องเชียร์เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าถูกครูเปิ้ลผลักหัว ตบหน้า หยิกแขน ขังในห้องน้ำ คลิปนี้เป็นหลักฐานอีกส่วนหนึ่งที่จะเอาผิดครูของโรงเรียนที่กระทำกับเด็ก
โดยเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ยังคงมีผู้ปกครองหลายรายทยอยเดินทางเข้าแจ้งความหลังจากเมื่อวานทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ มาเปิดให้กับผู้ปกครองดูแต่ไม่ให้บันทึกภาพ ถ้ามีภาพปรากฏในกล้องวงจรปิดเป็นลูกของผู้ปกครองคนไหนที่ถูกครูทำร้ายให้แจ้งความได้ทันที
ซึ่งนายทรงพล แสงรัตนายนต์ และ น.ส.อรอุมา ตะพัง พ่อแม่ของน้องเชียร์ ก็มาขอดูคลิปเพิ่มเติมจากตำรวจด้วย โดยเปิดเผยว่าในคลิปเห็นน้องโดนผลักหัวและจะเอาสมุดฟาดหน้าตอนนี้ รอแจ้งความพร้อมกับผู้ปกครองคนอื่นรอบ 2 ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเช็กดูคลิปว่าน้องคนไหนโดนกระทำบ้าง แล้วจะติดต่อผู้ปกครองแต่ละคนให้มาแจ้งความ หลังจากนี้คงไม่ให้ลูก 2 คน เรียนต่อที่นี่อีกแล้วแล้ว รู้สึกไม่โอเคกับคำพูดของผอ.ที่ไม่มีใจรักเด็ก รู้สึกว่าที่นี่เป็นธุรกิจมากกว่าสถานศึกษา ไร้ความรับผิดชอบ
ขณะที่ น.ส.อรอุมา ผู้เป็นแม่บอกว่า ผอ.โรงเรียนดูถูกผู้ปกครองมาก ตั้งแต่มีเรื่องมามีแต่คำพูดที่เป็นนามธรรม โรงเรียนไม่เคยมาเยียวยาใดๆ ตามที่เป็นข่าว เงียบมาตลอด ยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยผู้ปกครองได้อัดคลิปนาทีน้องเชียร์เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าถูกครูเปิ้ลผลักหัว ตบหน้า หยิกแขน ขังในห้องน้ำ พอผู้ปกครองพูดถึงชื่อครูมาวิน น้องเชียร์ถึงกลับผวาจะร้องไห้บอกกับแม่ที่กำลังอัดคลิปไม่ให้พูดถึงชื่อครูมาวิน
ด้านนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรียกนายพิสุทธิ์ ยงค์กมล ลูกชายผู้ก่อตั้งโรงเรียนในเครือสารสาสน์ พร้อมผู้บริหารเข้าชี้เเจงแนวทางเเก้ปัญหา ก่อนทำข้อตกลงเป็นหนังสือหลังหารือนานกว่า 4 ชั่วโมง โดยโรงเรียนยืนยันรับผิดชอบเเบ่งเป็น 2 กรณีใหญ่ กรณีเเรกหากฝ่ายผู้ปกครองในห้องเรียนของบุตรหลานที่ถูกกระทำและยังประสงค์จะให้บุตรหลานเรียนที่โรงเรียนต่อนั้น โรงเรียนจะดำเนินการดังนี้
- พร้อมคืนค่าธรรมเนียมในทุกกรณี ของปีการศึกษา 2563
- เร่งติดตั้งกล้องวงจรปิดเเละให้ผู้ปกครองดูออนไลน์ได้
- แสดงชื่อรูปภาพและตำเเหน่งใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพครู ทุกคน หน้าห้องเรียน เเละเผยเเพร่ในเว็บไซต์ของโรงเรียน
- รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เด็กต้องพบแพทย์ทั้งบาดแผลทางกายและจิตใจ
- จัดนักจิตวิทยาประจำโรงเรียน เยียวยาและฟื้นฟูจิตใจนักเรียน
- อนุญาตให้ผู้ปกครอง เข้าตรวจสอบสุขอนามัยของนักเรียนในโรงเรียน
- จัดอาหารกลางวันตามหลักโภชนาการ โดยเเจ้งรายการอาหารให้ผู้ปกครองทราบ
- จัดให้มีการคัดกรองด้านสุขภาพจิตให้แก่ครูไทยเเละครูต่างชาติ
- จัดระบบรถรับส่ง นร.ให้มีที่นั่งเพียงพอ และติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในรถ
- จัดประชุมผู้ปกครองทุกระดับชั้นทุกปีการศึกษา
ส่วนกรณีที่ 2 หากผู้ปกครองจะย้ายบุตรหลายไปเรียนต่อที่อื่น จะเพิ่มเติมเรื่องการอำนวยความสะดวกในการจัดทำเอกสารส่งตัวนักเรียนให้ และจ่ายค่าชดเชย-ค่าบำรุงขวัญนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ โดยรมช.ศธ.ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อเร่งรัดติดตามการแก้ไขปัญหาด้วย.-สำนักข่าวไทย