แม่แทบช็อก ไม่ได้คุยลูกชายวันเดียว รู้ข่าวเหยียบทุ่นระเบิด

13 ส.ค. – แม่แทบช็อก เผยไม่ได้คุยกับลูกชายวันเดียว รู้ข่าวเหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บสาหัสที่ข้อเท้าซ้าย ขณะลาดตระเวนบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์


เหตุการณ์ทหาร 7 นาย ลาดตระเวนบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ แล้วเหยียบทุ่นระเบิดของกัมพูชา ที่ลอบวางไว้ จนทำให้ สิบเอก ธีรพล เพียขันที ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 บาดเจ็บสาหัสที่ข้อเท้าซ้าย รักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว

พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ได้ไปตรวจสอบตามแนววางลวดหนามบริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งจุดที่ทหารลาดตระเวนอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำ ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้ากัมพูชาจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่า ช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่ากัมพูชาสลักลอบมาวางกับระเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิงเพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอน หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล ซึ่ง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ขอข้อมูลเร่งด่วนเพื่อทำการประท้วงฝ่ายกัมพูชาต่อไป และจะนำเรื่องนี้ พูดในที่ประชุม RBC ไทย-กัมพูชาครั้งต่อไปด้วย แต่เชื่อว่ากัมพูชาคงไม่ยอมรับเหมือนที่เขาพูดใน GBC

หากว่ากัมพูชาไม่ยอมร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดและทหารไทยเหยียบระเบิดแบบนี้ต่อไป พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ถ้าเหตุการณ์สงบ ก็ต้องให้ศูนย์เก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมเข้ามาดำเนินการเก็บกู้ แต่ถ้าไม่สงบก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ต้องตอบโต้ด้วยกำลัง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องหน้างาน การเจรจาก็เจรจาไป เรามีสิทธิปกป้องและคุ้มครองกำลังพลเช่นกัน

ขณะนี้ได้มีการปรับแผนในการลาดตระเวน เพื่อให้กำลังพลไม่ต้องไปเสี่ยงกับทุ่นระเบิดโดยเพิ่มการใช้กล้องวงจรปิด และใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าเคลียร์เส้นทางลาดตระเวนและเพิ่มการเฝ้าตรวจในระยะไกลขึ้นมาอีกสเต็ป


วันแม่แทบช็อก ไม่ได้คุยลูกชายวันเดียว รู้ข่าวเหยียบทุ่นระเบิด
ขณะที่วานนี้ (12 ส.ค.) เป็นวันแม่ ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของสิบเอก ธีรพล ภายในบ้านมีชาวบ้านที่ทราบข่าวเดินทางมาให้กำลังใจคุณแม่สาคร อายุ 78 ปี แม่ของสิบเอก ธีรพล จำนวนมาก

แม่สาคร เล่าว่า ลูกชายเป็นทหารพรานได้เกือบ 30 ปีแล้ว ทุกครั้งที่ลูกชายจะไปทำงานตามชายแดนหรือกลับจากชายแดนจะเข้ามากราบเท้าแม่ แล้วเอาเท้าแม่เหยียบที่หัว และจะฉีกเอาชายผ้าถุงของแม่ติดตัวไปด้วย ครั้งล่าสุดหลังจากมีคำสั่ง ลูกชายได้เก็บรถ เก็บข้าวของ แล้วเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งลูกชายจะโทรศัพท์มาคุยด้วยทุกวัน เพิ่งคุยครั้งล่าสุดวันที่ 11 ส.ค. ลูกชายบอกว่าสบายดี ไม่เป็นอะไรแล้ว เพราะหยุดรบแล้ว แต่ไม่คิดว่าเพียงข้ามคืนกลับได้รับข่าวว่าลูกชายเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด ยอมรับว่าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ดีใจที่ลูกชายได้รับใช้ชาติ ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว

หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดตรวจพบทุ่นสภาพใหม่พร้อมระเบิด
ขณะที่เพจกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความว่า กองทัพภาคที่ 2 ส่งหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด และพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เกิดเหตุที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด บริเวณฐานปฏิบัติการจุ๊บตะโมก พื้นที่ปราสาทตาเหมือนธม ผลการพิสูจน์ 100% เป็นทุ่นระเบิด PMN-2 และพบเพิ่มเติมอีก 3 ทุ่น ซึ่งอยู่ใน ‘สภาพใหม่’ พร้อมใช้งาน อยู่ในเขตอธิปไตยของไทย

ด้านเพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์ข้อความว่า เมื่อทุ่นระเบิดคืออาวุธแบบรอเวลา สรุปใครใช้อาวุธก่อน? จุดเกิดเหตุที่พบทุ่น คือบริเวณด้านซ้าย ห่างประมาณ 2 เมตร ด้านขวาห่างประมาณ 2 เมตร ด้านหน้าห่างประมาณ 5 เมตร ทั้งหมดเป็นทุ่นระเบิดแบบ PMN-2 กัมพูชา จงใจ!! สร้างภัยคุกคามต่อชีวิตและความปลอดภัย

นอกจากนี้เพจกองทัพบก ทันกระแส ยังโพสต์ข้อความ “หากจำเป็น กองทัพพร้อมใช้สิทธิป้องกันตนเอง กระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงตอบโต้กรณีกองทัพบก ประเทศไทยรายงานข่าวทหารพรานเหยียบกับระเบิดขาขาด บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พบเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 คาดว่ากัมพูชาลอบวางไว้

“มาลี” โต้ไทย ยืนยันกัมพูชาไม่มีกับระเบิด
พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชาขอปฏิเสธอย่างแข็งขันต่อข้อกล่าวหาใดๆ ที่ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนและไม่มีมูลความจริงจากฝ่ายไทยกรณีการบาดเจ็บของทหารไทยที่เกิดจากการระเบิดของทุ่นระเบิด บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.บันเตียอัมปึล จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2568

กัมพูชาแสดงจุดยืนที่แน่วแน่ว่ากัมพูชาจะไม่ใช้หรือวางกับระเบิดใหม่โดยเด็ดขาด กัมพูชาเป็นรัฐภาคีในอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งให้สัตยาบันในปี 2542 และได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศสำหรับความพยายามทำลายทุ่นระเบิดทั้งในและต่างประเทศ

กัมพูชาตั้งข้อสังเกตว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการและโปร่งใส เพื่อระบุข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ นอกจากนี้กัมพูชายังได้เตือนประเทศไทยหลายครั้งว่าพื้นที่เหล่านี้ยังคงมีวัตถุระเบิดตกค้างจากสงคราม ทุกฝ่ายควรงดเว้นการสรุปผลต่อสาธารณะก่อนที่จะค้นหาความจริง เพื่อให้เกิดความยุติธรรมและหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดที่อาจเพิ่มความตึงเครียดและการเผชิญหน้า

ไทยโต้กลับกัมพูชา ยืนยันมีหลักฐานชัดเจน
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ออกมาตอบโต้ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ทันที ยืนยันอย่างชัดเจนว่า กัมพูชายังคงมีทุ่นระเบิดอยู่ในครอบครองจำนวนมาก และได้ลักลอบนำมาวางในพื้นที่ต่างๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อมุ่งทำร้ายฝ่ายไทย ทั้งที่กัมพูชาเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และได้ให้สัตยาบันตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 แต่กลับนำมาใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา

จากการตรวจสอบอย่างละเอียดของฝ่ายไทย พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้ในเหตุครั้งนี้เป็นชนิด PMN-2 ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่พบในหลายพื้นที่ที่กัมพูชาลักลอบติดตั้งเพื่อทำร้ายกำลังพลไทยมาโดยตลอด

“ข้ออ้างของกัมพูชาว่าพื้นที่ดังกล่าวยังคงมีวัตถุระเบิดตกค้างจากสงครามในอดีต เป็นเพียงการปฏิเสธที่ขาดน้ำหนัก เนื่องจากหลักฐานเชิงประจักษ์ในทุกจุดเกิดเหตุชี้ชัดว่าพื้นที่โดยรอบบริเวณที่เกิดการเหยียบทุ่นระเบิดจะพบการวางทุ่นระเบิด PMN-2 อีก 3-5 ลูก ในสภาพที่เพิ่งถูกติดตั้งใหม่อย่างชัดเจน ทั้งที่หากเป็นทุ่นเก่าจากสงครามในอดีต จะเป็นชนิดอื่น ไม่ใช่ทุ่นระเบิดแบบ PMN-2”

ฝ่ายไทยจึงขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อสาธารณะ ทั้งที่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้รับฟังข่าวสาร และเพื่อหลีกเลี่ยงการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ตามมติคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ข้อ 9 ซึ่งกำหนดให้งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือข่าวปลอม

กต.ประท้วงกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
ด้านกระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ประท้วงครั้งที่ 4 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากความไม่สุจริตใจของฝ่ายกัมพูชา การกระทำดังกล่าวขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ ขัดต่อหลักการพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติ และละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน ไทยจึงขอเรียกร้องฝ่ายกัมพูชายุติการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาฯ โดยทันที

กองทัพภาค 2 ขอรับสนับสนุน “ลวดหนามหีบเพลง” จำนวนมาก
ขณะที่เพจ ‘กองทัพภาคที่ 2’ ประชาสัมพันธ์ขอรับการสนับสนุน “ลวดหนามหีบเพลง” จำนวนมาก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 100 ซม. เพื่อใช้ประโยชน์ในการป้องกันอธิปไตยของไทย ผู้ประสงค์ให้การสนับสนุนติดต่อได้ที่ พันโท สุริยาวุธ สุกเหลือง ฝ่ายกิจการพลเรือน กองกำลังสุรนารี อ.เมือง จ.สุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้อ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

“ชัยเกษม” ยันพร้อมเป็นนายกฯ บอกโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- “ชัยเกษม” ยันพร้อมเป็นนายกฯ หัวเราะดัง อาจมีอัศวินขี่ม้าขาว ก่อนย้อนถามสื่อ “ผมมีม้ามาหรือเปล่า” ลั่น โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เมื่อเวลา 14.00 น. นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์ แต่นายชัยเกษม ปฏิเสธพร้อมระบุว่า เดี๋ยวลงมาค่อยคุยกัน ส่วนที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า อาจจะมีอัศวินขี่ม้าขาว นั้น นายชัยเกษม หัวเราะเสียงดัง ก่อนจะย้อนถามสื่อว่า “ผมมีม้ามาหรือเปล่า” ใครเป็นคนพูด และโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ส่วนที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ เดินทางไปพบที่บ้านพัก นายชัยเกษม กล่าวว่า ก็เป็นการพูดคุยไม่มีอะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพร้อมเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายชัยเกษม กล่าวว่า ก็พร้อมสิ ไม่พร้อมได้อย่างไร และการประชุมวันนี้ เป็นการพูดคุยกันทั่วไปไม่มีอะไร จากนั้นเจ้าหน้าที่ของพรรคได้ขอความร่วมมือสื่อมวลชนยังไม่ให้สัมภาษณ์จนกว่าการประชุมจะเสร็จสิ้น -สำนักข่าวไทย

ครม. มอบ 4 รองนายกฯ ทำหน้าที่แทนนายกฯ ไร้คุยปมยุบสภา

ทำเนียบ 2 ก.ย.- “ชูศักดิ์” เผยที่ประชุม ครม. มอบ 4 รองนายกฯ ทำหน้าที่แทนนายกฯ ตามลำดับ ยันไม่มีคุยเรื่องยุบสภา นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี 4 ท่าน ดังนี้ 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 2.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน 3.นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 4.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจสังคม โดยทั้ง 4 ท่านจะเป็นรองนายกรัฐมนตรี และทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โดยเรียงลำดับข้างต้น ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมถึงมอบหมายรองนายกฯ เหล่านี้ทำหน้าที่เหมือนที่เคยปฏิบัติมา ทั้งนี้ ยืนยันว่าในที่ประชุม ครม.ในวันนี้ ไม่ได้มีวาระในเรื่องการยุบสภา เป็นการหารือในการประชุม ครม.ตามปกติ นอกจากนี้ […]

มทภ.2 ยัน “ทหาร” ไม่ปฏิวัติ ปล่อยกลไกการเมืองจัดการ

กทม. 2 ก.ย.-มทภ.2 ยัน “ทหาร” ไม่ปฏิวัติ ปล่อยกลไกการเมืองจัดการ เผย ผบ.ทบ. มองการเมืองมีแนวโน้มดี ไม่ยุ่ง เป็นทหารอาชีพ ให้เกียรติฝ่ายการเมือง มอง “แคนดิเดตนายกฯ” อยู่ในวงจำกัด ให้ใช้เวลาที่เหลือ 3-4 เดือน บางอย่างต้องช่วยกันก่อน เชื่อการเมืองมีคนดีอยู่แล้ว พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีการบรรยายนักศึกษาธรรมศาสตร์ ถึงการนำคนดีมาบริหารประเทศ แต่ในสถานการณ์ที่อยู่ระหว่างเลือกนายกฯ ตั้งรัฐบาล และสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เราควรมีผู้นำที่เข้าใจสถานการณ์ในแนวทางใด ว่า ทฤษฎีที่ผมพูดไปคือทฤษฎีที่อยากให้เป็น แต่ความจริงของประเทศไทย ก็ต้องว่าไปตามระบบของประเทศไทยในห้วงเวลานี้ ทหารไม่มีการปฏิวัติอยู่แล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เราต้องช่วยกันคัดกรองดูว่าอะไรถูกไม่ถูก เราจะเสนอนแอย่างไร อันนี้คือสิ่งที่ผมได้คุยกับน้องๆ เราอยากให้เป็นในอนาคต ส่วนทฤษีและความจริงจะได้ขนาดไหน พวกเราคนไทยทั้งประเทศต้องช่วยกัน เมื่อถามว่าในฐานะที่เป็นเพื่อน ตท.26 กับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ได้ฝากและมองสถาการณ์อย่างไรบ้าง พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ท่านก็มองว่าน่าจะมีแนวโน้มไปทิศทางที่ดี กองทัพบกก็พร้อมทำหน้าที่ตัวเอง ไม่ยุ่งกับกระแสการเมืองอยู่แล้ว […]

ระทึกกู้ภัยช่วยทารก 1 เดือน ติดอยู่ในบ้าน หลังน้ำท่วมสูง

เลย 2 ก.ย. – ผลกระทบจากพายุ “หนองฟ้า” ยังทำให้หลายพื้นที่ในจังหวัดเลย ฝนตก น้ำท่วมสูง ที่ชุมชนตลาดเมืองใหม่ เมื่อกลางดึก กู้ภัยต้องเข้าช่วย ทารกวัย 1 เดือน และเด็ก 5 ขวบ ออกจากบ้าน หลังระดับน้ำสูงอย่างรวดเร็ว นาทีชีวิต เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างคีรีธรรมจังหวัดเลย เข้าช่วยเหลือเด็กทารกแรกเกิด 1 เดือน และเด็ก 5 ขวบ ที่ติดอยู่ในบ้านพัก ชุมชนตลาดเมืองใหม่ (บ้านล่าง) หลังชาวบ้าน และครอบครัว ร้องขอความช่วยเหลือ หลังเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา แม่น้ำเลยเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำเอ่อท่วมบริเวณชุมชนอย่างรวดเร็ว ระดับน้ำสูง และกระแสน้ำค่อนข้างแรง จึงไม่สามารถออกจากบ้านได้ ทั้งนี้กู้ภัยได้เข้าช่วยเหลือ โดยค่อยๆ ประคองแม่เด็ก และ ช่วยอุ้ม ทารกวัย 1 เดือน และเด็ก 5 ขวบ ด้วยความระมัดระวัง เพราะต้องเดินสวนกระแสน้ำที่ค่อนข้างไหลเร็ว และแรง และออกมาจากชุมชนได้อย่างปลอดภัย […]