ศรีสะเกษ 26 มิ.ย. – เจ้าหน้าที่ตรวจที่เกิดเหตุรอบ 3 เร่งคลี่คลายคดี “น้องอลิส” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ เสียชีวิตปริศนาในสระน้ำกลางทุ่งนา ห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฯ จ.ศรีสะเกษ ด้าน “กัน จอมพลัง” พาครอบครัวร้อง ผบ.ตร. ช่วยคลี่ปมเสียชีวิต อยากให้ใช้แนวทางสอบสวนแบบคดีน้องชมพู่
ความคืบหน้ากรณี “น้องอลิส” เด็กหญิง วัย 3 ขวบ เสียชีวิตในสระน้ำกลางทุ่งนา ห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านค้อ ต.คอนกาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ประมาณ 600 เมตร เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่เด็กวัย 3 ขวบ จะเดินไปเอง เพราะเส้นทางค่อนข้างลำบาก รวมถึงเรื่องผ้าอ้อม รองเท้า ถูกถอดวางไว้ในที่เกิดเหตุ ครอบครัวจึงนำร่างของลูกสาวส่งไปชันสูตรการเสียชีวิตอีกครั้งที่โรงพยาบาลตำรวจ
ศพฐ.3 ตรวจที่เกิดเหตุรอบที่ 3
วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.ต.ต.หญิงธิติมา ธรรเมศรานาท์ ผู้บังคับการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 เจ้าหน้าที่ ศพฐ.ศรีสะเกษ และตำรวจ สภ.ยางชุมน้อย ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุบริเวณศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เป็นครั้งที่ 3 โดยมีการเดินวัดระยะทาง และใช้ล้อวัดระยะทาง จากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไปยังจุดที่พบรองเท้า กางเกง ผ้าอ้อมเด็ก ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่น้องจมน้ำเสียชีวิต เบื้องต้นวัดระยะทางได้ทั้งหมด 574 เมตร นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่จะต้องตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมอีกหลายอย่าง โดยจะทำงานประสานข้อมูลกับพนักงานสอบสวน สภ.ยางชุมน้อย เพื่อเร่งไขปริศนาคดีนี้ให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ ยังไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้
พ่อน้องอลิส บุก สตช. ร้อง ผบ.ตร. ช่วยเหลือคดี
ด้าน นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พาครอบครัวน้องอลิส เข้ายื่นหนังสือต่อ ผบ.ตร. เพื่อให้ช่วยเร่งรัดการสืบสวนคลี่คลายคดี โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. เป็นตัวแทนรับหนังสือ ด้านพ่อน้องอลิส บอกว่าตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว เพราะยังเชื่อว่าน้องไม่สามารถเดินจากโรงเรียนไปจนถึงจุดพบศพได้เพียงลำพัง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยพาน้องไปเดินเล่นหรือพาไปบริเวณทุ่งนา จึงเชื่อว่าที่ร่างน้องไปอยู่ในบ่อน้ำมาจากการที่มีคนอุ้มร่างของน้องไป และอีกสาเหตุที่ทางครอบครัวยังคงติดใจคือครูในโรงเรียนไม่เคยมีครูคนไหนเข้ามาชี้แจงหรือมาเล่าเหตุการณ์ให้กับครอบครัวฟัง โดยครอบครัวเองยังคงรอครูของน้องมาชี้แจง
“กัน จอมพลัง” อยากให้ ตร.ใช้แนวทางสืบสวนเหมือนคดีน้องชมพู่
กัน จอมพลัง บอกว่า ตนเคยเดินทางไปที่เกิดเหตุก็รู้สึกสงสัยหลายประเด็น เพราะเด็ก 3 ขวบ ไม่น่าเดินไปไกลได้ขนาดนั้น เพราะเส้นทางมีอุปสรรคมากมายที่เด็กอายุเพียงแค่ 3 ขวบ ไม่สามารถเดินไปด้วยตัวเองได้ ครอบครัวก็สงสัยว่ามีใครทำให้น้องเสียชีวิตและนำร่างไปอำพรางหรือจัดฉากหรือไม่ จึงประสาน ผบ.ตร. และพาพ่อมาขอความช่วยเหลือ เช่น ส่งผู้ชำนาญการ หรือกำลังจากนอกพื้นที่เข้าไปช่วยหาความจริง และก่อนหน้านี้ได้เข้าพูดคุยกับ พล.ต.ต.นพศิลป์ วงศ์สวัสดิ์ รอง ผบช.น. ซึ่งเคยเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีน้องชมพู่ ส่วนตัวอยากให้ช่วยแนะนำแนวทางในการสืบสวนให้กับชุดสืบที่กำลังทำงานในขณะนี้
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ครูพบว่าน้องหายไปจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โดยมีการช่วยกันค้นหา สุดท้ายพบร่างจมอยู่ในสระน้ำ ห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ซึ่งผลชันสูตรจากโรงพยาบาลศรีสะเกษ เบื้องต้นระบุว่าน้องจมน้ำเสียชีวิต แต่ครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงส่งร่างน้องไปชันสูตรรอบ 2 ที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และหลังเกิดเหตุตำรวจสอบปากคำครูผู้เกี่ยวข้องในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และมีการแจ้งข้อหาครูที่อยู่ในเหตุการณ์ 3 คน ในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ส่วนจะเป็นคดีฆาตกรรมหรือไม่ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้ส่งชุดสืบสวนสอบลงมาเร่งติดตามคดี.-สำนักข่าวไทย